4 เม.ย. เวลา 14:00 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค 6 ปีศาจอวกาศถล่มไทยแลนด์แดนสไมล์

.
ตอน 31 สู่ใจกลางโลก
.
เปลวไฟที่ล้อมรอบคนทั้ง 4 คือราชาดิษยมานพ, ราชาผณินทร, นรสิงห์ และ แสนสุริยา สูงท่วมจนทำให้ไม่สามารถสังเกตเห็นอะไรได้
ในขณะที่ภานิชาและศาตราจารย์พาราด็อกซ์เพิ่งมาถึง ภานิชามีประสบการณ์ภาพลวงตามาแล้ว จึงมองเห็นจุดกำเนิดของภาพ
สิ่งที่เธอพุ่งตัวขึ้นไปในอากาศใช้ดาบเลเซอร์ในมือแทงเข้าใส่ก็คือตัวสร้างภาพนั่นเอง
.
เมิ่อไม่มีเครื่องสร้างภาพเปลวไฟที่ล้อมรอบคนทั้ง 4 อยู่ก็หมดไป แสนสุริยาโผเข้าหาเมียรักด้วยน้ำตา ภานิชาโอบกอดสามีไว้แนบแน่นตื้นตันใจจนไม่อาจเอ่ยวาจา ราชาผณินทรก็โผเข้ากอดศาตราจารย์พาราด็อกซ์ผู้เป็นอาจารย์ด้วยเช่นเดียวกัน
.
ศาตราจารย์พาราด็อกซ์ได้อธิบายถึงภาพลวงตาของไฟที่ทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกถึงความร้อน เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไฟร้อนกว่าอุณหภูมิของตัวเรา ดังนั้นเมื่อเห็นไฟล้อมรอบจึงมีอาการเช่นนั้นเป็นจิตวิทยาง่ายๆของเจ้าปีศาจ
.
แล้วต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่องราวของตนเองที่ได้พบ หลังจากนั้นราชาดิษยมานพจึงขอพูดกับศาตราจารย์เพียงลำพังถึงการสร้างหลุมดำ
ซึ่งศาตราจารย์พาราด็อกซ์เพียงพยักหน้ารับ ราชาดิษยมานพจึงกระซิบข้อความบางอย่างที่ทำให้ศาตราจารย์ต้องถามซ้ำก่อนที่จะถอนใจ
.
ราชาดิษยมานพ "ตอนนี้เราจะไปทางไหนต่อในเมื่อมีทางแยกไปซ้ายและขวา หรือแบ่งเป็น2กลุ่มเพราะเรามี6คนพอดี"
.
ภานิชา "เราอย่าแยกกันอีกเลยค่ะ ผู้กอง ไปด้วยกันทั้งหมดนี่ และ ไม่ใช่ซ้ายหรือขวา แต่เป็นข้างใต้ต่างหาก"
.
ราชาผณินทร "ถูกต้อง สมเด็จโตบอกใบ้ไว้"
.
ดังนั้นเจ้าหนูผู้ชนะ10ทิศจึงกลายร่างเป็นยานทนความร้อนมุ่งลงสู่ใจกลางของโลกด้วยความเร็วสูงสุดให้ทันเวลาที่จำกัดเต็มที เพราะบัตนี้ดาวเคราะห์เริ่มเรียงตัวเป็นเส้นตรงแล้ว พลังมหาศาลจะเปิดทางให้เจ้าปีศาจออกมา
.
ในระหว่างเดินทางศาตราจารย์พาราด็อกซ์จึงถือโอกาสอธิบาย "ระบบสุริยะประกอบด้วยดาวฤกษ์ 1 ดวง คือ ดวงอาทิตย์ และ ดาวเคราะห์คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และ ดาวพลูโต
.
อ้อ ลืมไปดาวพลูโตถูกปลดจากการเป็นดาวเคราะห์ไปแล้วเมื่อ 24-8-2006(2549) แม้จะเข้าเกณฑ์2ข้อ คือ 1.โคจรรอบดวงอาทิตย์ 2. มีมวลมากพอที่จะเป็นทรงกลมด้วยแรงโน้มถ่วงของตัวเอง
.
แต่ไปตกม้าตายตรงข้อ 3. คือจะต้องไม่มีวัตถุที่ใหญ่จนมีนัยยะสำคัญคือเห็นได้ชัดเจนในวงโคจรนั้นๆ
เช่นโลกมีดวงดาวบริวารเพียงดวงเดียวเท่านั้นคือ ดวงจันทร์ และโลกมีขนาดใหญ่กว่าถึง 81 เท่า
ขณะที่พลูโตมีมวลเป็น 0.07 เท่าของวัตถุอื่นๆในวงโคจรเดียวกันรวมกัน เพราะข้อนี้แหละ พลูโตถึงได้ถูกจัดว่าเป็นดาวเคราะห์แคระ
 
.
ส่วนโลกแบ่งเป็น3ส่วนคือ 1.เปลือกโลก(Crust) เป็นชั้นนอกสุดมีความหนาประมาณ70 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นชั้นที่บางที่สุด เมื่อเปรียบกับชั้นอื่น ๆ และ มีความสำคัญมากที่สุดเนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
.
ถัดจากเปลือกคือ 2.เนื้อโลก(Mantle) เป็นส่วนที่อยู่ถัดลงไปจากเปลือกโลก มีความหนาประมาณ 2,900 กิโลเมตร นับจากฐานล่างสุดของเปลือกโลกจนถึงตอนบนของแก่นโลก
.
และ 3. แก่นโลก แบ่งได้ออกเป็น 2 ชั้นได้แก่แก่นโลกชั้นนอก (outer core) และ แก่นโลกชั้นใน(inner core)เป็นส่วนที่อยู่ใจกลางโลกพอดี...."
.
นรสิงห์ "สรุปว่าเจ้าปีศาจอยู่ส่วนไหนของโลกกันแน่ด็อก ช่วยพูดง่ายๆให้ฟังรู้เรื่องได้ไหม ไม่ต้องเริ่มตั้งแต่โลกเป็นสะเก็ดดาวหลุดมาจากดวงอาทิตย์ก็ได้"
.
ศาตราจารย์พาราด็อกซ์ทำหน้าเจื่อน "บอกตามตรงแม้ผมจะเป็นชาวโลกมาก่อน แต่ผมพูดแบบคน...ธรรมดาไม่เป็น"
.
นรสิงห์ถอนใจเฮือก "ถ้าเช่นนั้นก็เป็นเจ้า นางคนครึ่งหญิงครึ่งหุ่นยนต์เป็นคนพูด"
.
ฝอย "ประทานโทษครับ ท่านนรสิงห์ ผมขอพูดเองได้ไหมครับ เพราะคุณภานิชาถูกตั้งโปรแกรมเรื่องการต่อสู้เท่านั้น"
.
นรสิงห์ "แล้วแกรู้ทุกเรื่องเรอะ"
.
ฝอย "ผมไม่ได้โม้นะครับ ผมรู้ทุกเรื่องทั้งที่มนุษย์รู้และไม่ควรรู้ แล้วผมยังแก้ไขปัญหาชีวิตได้อีกด้วย นี่ยังไม่นับเรื่อง...."
.
นรสิงห์ "หยุด ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน เอาเป็นว่าพวกเรากำลังจะไปที่ไหน"
.
ฝอย "เนื้อโลกครับ เป็นชั้นของหินหนืดที่หลอมเหลวอยู่บริเวณใต้ผิวโลก เรียกว่าแมกมา(Magma)ครับ ชั้นนี้ประกอบด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น ซิลิกา แมกนีเซียม เหล็ก แก้วควอตซ์
.
เมื่อภูเขาไฟระเบิด แมกมาที่อยู่ภายใต้ผิวโลกจะถูกดันตัวออกมาผ่านทางปากปล่องภูเขาไฟ เราเรียกหินหนืดที่ถูกพ่นออกมาแล้วว่า ลาวา(Lava)
.
แมกมาหรือลาวานั้นมีอุณหภูมิที่สูงมากประมาณ 600-1200 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถทำความเสียหายให้กับสิ่งต่าง ๆบนพื้นโลก อย่างไรก็ตามการระเบิดของภูเขาไฟไม่ได้มีแต่ผลเสียอย่างเดียว
.
เมื่อลาวาที่ถูกพ่นออกมาบนผิวโลกเย็นตัวลงกลายเป็นหินต่าง ๆ เกิดการผุกร่อนตามกาลเวลากลายเป็นดิน ดินที่เกิดจากเย็นตัวของลาวาจะเป็นดินที่มีแร่ธาตุชั้นดีให้กับพืชพรรณนานาชนิด
ดังนั้นแมกมากับลาวาคือสิ่งเดียวกัน แต่เรียกต่างกันเมื่ออยู่ต่างสถานที่นั่นเอง นี่ยังไม่รวมทะเลใต้พิภพนะครับ..."
.
นรสิงห์คำรามลั่นอย่างขัดใจ "โอ๊ยยย จะบ้า หาคนที่พูดให้ข้าฟังรู้เรื่องน่ะมีไหม"
.
ภานิชา "ในที่สุดเราก็มาถึงที่คุมขังของเจ้าปีศาจเสียที"
.
จบตอน 31 ภาพปกจากเตือนภัยพิบัติโลก White Pocket
.
แม้จะดูราวกับเป็นภูมิประเทศที่มาจากดาวดวงอื่น แต่ที่นี่ก็เป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นอยู่ในทะเลทรายแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
หินรูปร่างคล้ายหมอนถูกกัดเซาะมานานหลายล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศเหนือจริงที่ท้าทายจินตนาการ
.
มุมห่างไกลแห่งนี้เป็นที่รู้จักน้อยกว่าสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆของอเมริกาตะวันตกเฉียงใต้ แต่ความสวยงามของที่นี่ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยี่ยมชมสำหรับผู้รักธรรมชาติและการถ่ายภาพ
.
การเข้าถึง White Pocket ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องใช้รถออฟโรดเดินทางผ่านภูมิประเทศที่เป็นทราย
อย่างไรก็ตามผู้ที่กล้าเสี่ยงถึงขนาดนี้ จะได้รับรางวัลเป็นภาพที่ตระการตาไม่ซ้ำใคร เนื่องจากหินเหล่านี้มีลักษณะเหมือนส่วนผสมของหินอ่อนและเมฆหิน โดยมีพื้นผิวและสีสันที่เปลี่ยนไปตามแสงแดด เป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้โชคดีที่ได้สำรวจต้องอึ้งไป
โฆษณา