9 เม.ย. เวลา 05:18 • ท่องเที่ยว

Beijing 2025 (15) กำแพงเมืองจีน ป่าต้าหลิง ด่านเหยียนชิง

กำแพงเมืองจีน (จีนดั้งเดิม: 萬里長城 แปลว่า "กำแพงหมื่นลี้") เป็นป้อมปราการในประเทศจีนที่สร้างขึ้นตามแนวชายแดนทางตอนเหนือของประเทศจีนโบราณและจักรวรรดิจีนเพื่อป้องกันกลุ่มเร่ร่อนจากทุ่งหญ้ายูเรเซียท่างตอนเหนือ
กำแพงแรกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล หรือเมื่อหลายพันปีมาแล้ว และจักรพรรดิองค์แล้วองค์เล่าได้เสริมความแข็งแกร่งและขยายกำแพง โดยมักจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อกีดกันผู้รุกรานจากทางเหนือ
ในบางสถานที่ กำแพงนั้นสร้างด้วยอิฐ ในส่วนอื่นๆ มีการใช้หินแกรนิตที่ขุดได้หรือแม้แต่หินอ่อน กำแพงได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าของเทคนิคการก่อสร้าง
จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิพระองค์แรก ได้รวมจีนเป็นหนึ่ง .. พระองค์เป็นผู้ริเริ่มกระบวนการเชื่อมกำแพงที่มีอยู่ให้เป็นหนึ่งเดียว ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุดสร้างขึ้นโดยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644)
จูหยวนจาง ซึ่งกลายเป็นจักรพรรดิหงอู่ ขึ้นสู่อำนาจในปี ค.ศ. 1368 .. พระองค์ได้ก่อตั้งราชวงศ์หมิง ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความสำเร็จด้านศิลปะเซรามิกและการวาดภาพ จักรพรรดิราชวงศ์หมิงได้ปรับปรุงกำแพงด้วยหอสังเกตการณ์และแท่นยืน ..
ภาพที่คุ้นเคยส่วนใหญ่ของกำแพงเมืองจีน แสดงให้เห็นการก่อสร้างด้วยหินในสมัยราชวงศ์หมิง .. กำแพงจะทอดยาวประมาณ 4,000 ถึง 5,500 กิโลเมตรในบางช่วง
ป้อมปราการรวมที่ประกอบกันเป็นกำแพงเมืองจีนทอดยาวจากเหลียวตงทางทิศตะวันออกไปจนถึงทะเลสาบล็อบทางทิศตะวันตก และจากชายแดนจีน-รัสเซียในปัจจุบันทางทิศเหนือไปจนถึงแม่น้ำเต้าทางทิศใต้ ... แนวป้องกันนี้ทอดยาวประมาณ 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
ในศตวรรษที่ 17 จักรพรรดิแมนจูได้ขยายอำนาจการปกครองของจีนเข้าไปในมองโกเลียใน ทำให้กำแพงนี้มีความสำคัญน้อยลงในการป้องกัน .. อย่างไรก็ตาม กำแพงนี้ยังคงมีความสำคัญในฐานะสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์และวัฒนธรรมจีน นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยี่ยมชมกำแพงนี้ทุกปี กำแพงนี้ถือเป็น "ผลงานชิ้นเอก" บนโลก
กำแพงเมืองจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโก และได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในปี 2550 .. ปัจจุบัน ระบบป้องกันของกำแพงเมืองจีนได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์
“ด่านเหยียนชิง” (BADALING) เป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองจีน ส่วนที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด .. ตั้งอยู่ห่างจาก ใจกลางเมืองปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) ในเขตเมืองป่าตั้าหลิง เขตหยานชิง เทศบาลนครูปักกิ่ง
จุดที่สูงที่สุดของ “ปาต้าหลิง” (จีน: 八达岭) คือ “เปยปาโหลว” (北八樓)สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,015 เมตร “กำแพงเมืองจีนป่าต้าต้าหลิ่ง” สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1505) เพื่อใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการปกป้อง “ด่านจูหยงกวน” ทางทิศใต้ เพื่อปกป้องเมืองปักกิ่ง .. สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของสถานที่นี้
“ปาต้าหลิง” เป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองจีนส่วนที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุด ห่างจากใจกลางเมืองปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) ในเขตเมืองปาต้าหลิง เขตหยานชิง เทศบาลนครปักกิ่ง กำแพงส่วนที่ทอดผ่านบริเวณนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1504 ในสมัยราชวงศ์หมิง ร่วมกับฐานทัพทหาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของสถานที่นี้ จุดที่สูงที่สุดของปาต้าหลิงคือเป่ยปาโหลว (北八樓) ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,015 เมตร (3,330 ฟุต)
กำแพงบางส่วนที่ปาต้าหลิงได้รับการบูรณะแล้ว และในปีพ.ศ. 2500 เป็นส่วนแรกของกำแพงที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ปัจจุบันมีผู้คนหลายล้านคนมาเยี่ยมชมทุกปี พื้นที่โดยรอบได้รับการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงโรงแรม ร้านอาหาร และกระเช้าลอยฟ้า
กำแพงเมืองจีนปาต้าหลิงเป็นที่รู้จักในฐานะด่านตรวจที่ยิ่งใหญ่ 1 ใน 9 แห่งของโลก .. ทัศนียภาพของกำแพงเมืองจีนผสมผสานความสง่างามและความชันเข้ากับทิวทัศน์ที่สวยงามและเขียวชอุ่ม ถือเป็นสิ่งที่โดดเด่นของกำแพงเมืองจีนแห่งราชวงศ์หมิง
ชาวจีนจำนวนมากเลือกสถานที่นี้เป็นตัวเลือกหลักในการปีนกำแพงเมืองจีน .. ด่านกำแพงเมืองจีนปาต้าหลิ่งมีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู ทางทิศตะวันออกแคบ ทางทิศตะวันตกกว้าง โดยมีประตู 2 แห่งทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
ประตูทางทิศตะวันออกมีจารึกว่า “เมืองจูหยงไวย” และประตูทางทิศตะวันตกมีจารึกว่า “กุญแจประตูทางทิศเหนือ”
กำแพงเมืองจีนที่ทอดตัวไปทางเหนือจากกวนเฉิงคือกำแพงเมืองจีนด้านเหนือซึ่งมีหอสังเกตการณ์ 12 แห่ง ทางใต้ของกวนเฉิงคือกำแพงเมืองจีนด้านใต้ซึ่งมีหอสังเกตการณ์ 7 แห่ง .. กำแพงเมืองจีนตอนใต้มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่ากำแพงเมืองจีนตอนเหนือ คุณสามารถเยี่ยมชมกำแพงเมืองจีนตอนใต้ก่อนแล้วจึงค่อยไปกำแพงเมืองจีนตอนเหนือ หากมีเวลาเพียงพอ
เราเดินทางออกจากใจกลางปักกิ่งในช่วงเช้าของวันที่ฟ้าใส แต่อากาศยังหนาวเย็น .. การเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อต้องอยู่ในที่โล่ง และระดับความสูงที่ไม่ธรรมดา เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากเมืองร้อนอย่างพวกเรา
ระหว่างการเดินทางหลายสิบกิโลเมตร ก่อนถึงจุดหมายปลายทาง .. เรามองเห็นบางส่วนของกำแพงเมืองจีนที่ทอดตัวไปตามความสูง-ต่ำของภูเขาหลายๆลูก ในขณะที่รถแล่นผ่าน บางครั้งมองจากระยะไกล ราวกับงูเลื้อย หรือไม่ก็ขบวนรถไฟที่แล่นไปในจุดหมายที่ไม่มีใครคาดเดา
เราเดินทางขึ้นไปที่กำแพงเมืองจีน ปาต้าหลิง ด้วยกระเช้า Cable Car ซึ่งช่วยย่นระยะและเวลาการเดินทางได้มาก .. แต่ต้องยืนรอในแถวเพื่อขึ้นกระเช้านานพอสมควร ด้วยความป๊อบปูล่าของสถานที่
ทิวทัศน์ของสถานีกระเช้าและทิวทัศน์รอบๆ ในขณะที่กระเช้าลอยตัวขึ้นไปยังสถานีด้านบน .. สวยทีเดียวค่ะ
ว่ากันว่า “ปาต๋าหลิ่ง” อันเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวพากันไปเยือนเป็นจำนวนมากนั้น นอกจากจะอยู่ใกล้ปักกิ่งแล้วก็ยังเป็นจุดที่น่าดูชมอีกด้วย
“จุดที่ดีที่สุด” มีความหมายมากสำหรับการที่คนที่อายุมากแล้วอย่างคณะของเรา ที่ต้องใช้กำลังใจที่มุ่งมั่น และพลังกาย เป็นตัวขับเคลื่อนร่างกายไปข้างหน้าบนพื้นผิวที่สูง ชัน และบางส่วนไม่เรียบง่ายเหมือนที่อื่นๆ อีกทั้งต้องคอยหลบหลีกคลื่นมหาชนที่ถาโถมเข้าใส่ .. นิ่มนวลบ้าง ไม่สนใจคนอื่นบ้าง ปนๆกันไป
“จุดที่ดีที่สุด” ของกำแพงเมืองจีน อาจจะมีอยู่หลายจุดที่น่าดูชม บนกำแพงที่ยาวหลายพันกิโลเมตร กระจายอยู่ตามท้องถิ่นต่างๆ ของจีนในหลายมณฑล .. ขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะเริ่มจากถิ่นไหน และอาจจะเป็นไปไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวธรรมดาๆ ที่คิดจะไปกำแพงเมืองจีนให้ครบทุกจุดที่น่าดูชม เพราะต้องใช้เวลาใช้ทั้งเงินไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับคณะเรา“จุดที่ดีที่สุด” หมายถึง .. จุดที่ทำให้เราได้เห็นกำแพงในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์และมีมุมมองที่ดี เห็นแล้วก็ต้องตะลึงตะลานและยอมรับว่านี่คือสุดยอดของกำแพงของโลกใบนี้จริงๆ รวมถึงเป็นจุดที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากตัวเมืองปักกิ่ง
เราเริ่มการเดินเกาะกลุ่มกันไปขึ้นและผ่านกำแพงเมืองจีนอายุ 600 ปี หลังจากออกจากกระเช้าลอยฟ้าด้านบน .. สิ่งแรก คือ เจอกับกองทัพนักท่องเที่ยวท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ เดินเที่ยวกันขวักไขว่กันไปมา แต่ก็เดินไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ หากเป็นช่วงเทศกาลคงต้องไหลไป
กำแพงเมืองจีนปาต้าหลิงทอดตัวยาวผ่านขุนเขา ราวกับมังกรตัวยาวที่กำลังเลื้อยผ่านภูมิประเทศรอบด้าน เป็นประจักษ์พยานที่ยืนยง บอกเล่าถึงความรุ่งโรจน์และความลึกลับของประวัติศาสตร์พันปี .. เป็นความตื่นตา ตื่นใจ และน่าตื่นตลึงอยู่เบื้องหน้า
เราเดินเกาะกลุ่มกัน .. เดินบ้าง หยุดบ้าง ทุกคนอยากมีภาพประวัติศาสตร์ของการมาถึง และพิชิตกำแพงเมืองจีนที่โด่งดังกลับไปอวดเพื่อนฝูงและคนที่รู้จักกันทุกคน เราจึงเดินสลับกับการโพสท่าสถ่ายรูปกันอย่างชื่นมื่น สรวลเส เฮฮา .. เป็นการเดินบนที่สูงที่รื่นรมย์กันไม่น้อย
ตั้งแต่บันไดกำแพงขั้นแรกและขั้นถัดๆไป ขนาดบันไดไม่ได้เท่ากันทุกขั้น .. มีหินขนาดใหญ่ที่ถูกวางเรียงเป็นขั้นบันไดอย่างแข็งแรงแทนก้อนอิฐ หินแต่ละก้อนมีขนาดไม่เท่ากัน แต่ทุกก้อนก็ใหญ่กว่าอิฐที่เรานำมาสร้างบ้านหลายเท่า และทุกก้อนล้วนถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขนาดของขั้นบันไดไม่ได้เท่ากันเหมือนบันไดที่บ้าน .. บางขั้นกว้างพอที่จะเหยียบได้เต็มเท้า แต่บางขั้นเหยียบได้แค่ครึ่งเท้า บางช่วงก็มีขั้นบันไดที่เสมอหรือเท่ากัน พอถัดไปอีกช่วงหนึ่งก็กลับไม่เสมอกัน ที่สลับกันไปมาโดยตลอดก็คือ ขนาดของขั้นบันไดที่สูงกว่าปกติกับที่สูงแบบปกติ ที่ว่าสูงกว่าปกติคือมากกว่าหนึ่งฟุต แถมบางขั้นยังกว้างไม่มากพอที่จะเหยียบได้เต็มเท้าอีกด้วย
.. หมายความว่า เวลาก้าวขึ้นไปแต่ละขั้น เราไม่เพียงจะต้องยกเท้าสูงกว่าปกติเท่านั้น หากแต่ยังเท่ากับว่าเราจะต้องยกน้ำหนักตัวเราขึ้นไปด้วย ถึงตรงนี้ฉันก็ตระหนักถึงการที่เท้าและขาต้องรับภาระหนักหนาในการยกน้ำหนักตัวเองขึ้นไปต้านแรงโน้มถ่วงของโลก .. เป็นการยากเหมือนกันที่จะก้าวขึ้นไปเรื่อยๆสำหรับใครที่มีปัญหาข้อเข่า อาจจะไม่ควรขึ้น
เราไปเดินในช่วงอายุ 73+ ปี .. จึงไม่ง่ายสำหรับหลายๆคน .. โดยเฉพาะการเดินในช่วงทางที่แคบและชัน
จุดสูงสุดที่สายตามองเห็นจากจุดที่ยืนอยู่นั้น เป็นป้อมปราการ .. ความสูงไม่น่าจะมากไปกว่าตึก 10 ชั้น ความชันมีพอสมควร แต่ภาพของมหาชนที่มีจุดหมายเดียวกับเรานั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว
เรามุ่งมั่นที่จะเดินขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุด .. เช่นเคย เดินบ้าง หยุดบ้าง
.. พอขึ้นไปยอดที่เป็นจุดชมวิวแล้ว ความเหนื่อยก็แทบจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง เพราะภาพที่เห็นในสายตานั้นสวยงาม จนต้องบอกกับตัวเองว่า สมแล้วที่กำแพงเมืองจีนจะเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
กำแพงเมืองจีน ที่เลื้อยยาวขึ้นลงไปตามยอดเขาแต่ละลูก จะมีกี่ลูกนั้นไม่อาจนับได้ .. กำแพงที่เลื้อยเหมือนมังกรเลื้อยนี้ เลื้อยไปจนสุดลูกหูลูกตาจนไม่รู้ว่าไปสิ้นสุดที่ตรงไหน เป็นภาพที่ทำให้เราต้องสยบยอมให้กับฝีมือมนุษย์โบราณที่มุ่งมั่นสร้างสิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา .. และได้ชื่อว่ากำแพงแห่งนี้เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นเพียงไม่กี่แห่งที่มองเห็นได้จากอวกาศ
ภาพความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนที่เราเห็นในวันนั้น ยังคงทำให้เราตราตรึงใจมาจนทุกวันนี้
หลังจากที่ชื่นชม และเก็ยภาพความประทับใจมากจนเพียงพอแล้ว เราก็เดินลงมายังจัดนัดหมาย .. ระหว่างทางเห็นสาวจีนบางคนมีธงชาติจีนขนาดเล็กในมือ เป็นพร๊อพขณะถ่ายภาพ
เราจึงเข้าไปเจรจาเพื่อขอยิมมาประกอบภาพถ่ายบ้าง แต่ด้วยการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนจากความต่างเรื่องภาษา เราจึงได้ธงชาติจีนมาฟรี และใช้เป็นพร๊อพถ่ายรูปไปตลอดทาง
ฮ๊อตฮิตอีกเรื่อง คือ ไอติม ที่มีรูปกำแพงเมืองจีน .. คราวนี้ต้องออกเงินซื้อมาเป็นพร๊อพ ไม่พลาดแน่นอนค่ะ
โฆษณา