9 เม.ย. เวลา 14:03 • ดนตรี เพลง

[รีวิวเพลย์ลิสท์] MUSIC - Playboi Carti

30 + 4 Bonus Track (SORRY 4 DA WAIT) และชื่ออัลบั้มที่ตรงทื่อๆ ไม่มี something ใดๆเลย เมื่อเทียบกับ Whole Lotta Red และ Die Lit สองอัลบั้มแรกที่เราพอจะรู้ว่าจะต้องเจอมู้ดแอนด์โทนประมาณไหน สำหรับ MUSIC ก็คงพอทำเนาได้ว่า นี่คืออัลบั้มที่ช่างแม่ง context ช่างแม่งการเล่าเรื่อง และมันก็ทำตัวไม่ต่างจากเพลย์ลิสท์ของแรปเปอร์ที่ต้องการปักธงตั้งตนเป็นผู้นำ new school แห่งยุค และฉายแสงบารมีอย่างเอิกเกริก หลังจากที่ตัวเองได้รับการขนานนาม The best rapper in 20s โดย Complex
-การโปรโมทอัลบั้มที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ถึงขนาดสตรีมมิ่งไอ้เขียวก็สปอยล์ใหญ่โต และการสุมด้วยแขกรับเชิญระดับ All star มาอยู่ในอัลบั้ม ไม่เว้นแม้แต่ Kendrick Lamar ผู้ที่อยู่คนละขั้วกับตัวเองก็ยอมลงมาเล่นด้วยถึง 3 เพลง อะไรกันที่ไอ้หนุ่ม Jordan Carter คนนี้ถึงได้รับสปอตไลท์จากบุคลากรและสื่อฮิปฮอปมากมายขนาดนี้ ?
-ต่อให้จะมีการโหมกระแสไฮป์มากน้อยเพียงใด เรายังคงไม่ต้องเอาอะไรมากจาก Playboi Carti หรอกครับและขอให้ผู้อ่านไม่ต้องเอาอะไรมากจากรีวิวของผมเช่นกัน เขียนแบบไหลไปตามความรู้สึก นึกอะไรได้ก็บอกมากกว่าการเน้นบอกเล่า ตีความสาสน์หาจุดเชื่อมโยงกับ context เพราะมันไม่มีมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
-สำหรับสาย old school ที่ต้องการไรห์มแน่นๆ punchline คมๆ MUSIC โดย Playboi Carti คงไม่ใช่อัลบั้มที่คุณควรมายุ่มย่ามตั้งแต่แรก แต่สำหรับสาย new school ผู้เติบโตกับ trap และ rage ที่เน้นสนุก ไม่ต้องล้ำลึก mumble rap ไม่รู้เรื่องแค่ไหน ขอให้ฟีลมันได้ก็พึงปราถนาแล้ว MUSIC โดย Playboi Carti อาจเป็นคำตอบสำหรับคนไฝ่หาความแปลกและความอิหยังวะก็เป็นได้
-การที่ Playboi Carti ได้รับการโหมกระแสและการง้องอนในแบบที่ similar trap artist คนอื่นๆไม่ได้รับเท่าเขา น่าจะเป็นการวางคาแรคเตอร์ให้เป็นคนลับๆล่อๆ mystery เสน่ห์แห่งความคาดเดาไม่ได้คงจะเป็นสิ่งที่ชาว Trap Hiphop ไม่ค่อยได้ประสบพบเจอตามธรรมเนียมชุมชนฮิปฮอปปกติ นั่นคงเป็นความรู้สึกที่ weird shit สำหรับคนเหล่านั้นพอสมควร
-ในเมื่อขึ้นชื่อว่า เป็น mumble rapper เค้าก็ไปสุดทางของเขาด้วยการสร้างภาษาอันแปลกประหลาด มี symbolic จำพวก double-O “00” การเปล่ง ad-lib “Schyeah” อันเป็นลายเซ็นต์ใหม่ การจงใจสะกดคำผิดโดยที่ไม่สนพจนานุกรม ขอโทษนะครับ โคตรไม่ต่างจากภาษาเด็กแว๊นและสก๊อยที่ชอบพิมพ์ในโซเชี่ยลเลยครับ นี่คือความประหลาดที่ไปได้สุดทาง สาวกฮิปฮอป new school เลยให้ความสนใจในความเป็น mumble สุดทางแบบนี้
-การเลือกที่จะวางคาแรคเตอร์ลึกลับ ยืมปากคนอื่นพูด นั่นทำให้นักรีวิวอย่างผมเกาหัวแกร่กๆเลยครับ อย่าว่ากันนะ ถ้ารีวิวนี้จะมีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อเลยก็เพราะว่า ผมตามข่าวสารแวดล้อมเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ไม่ทันเลยครับ แต่มีหนึ่งเบาะแสที่พอไขข้อข้องใจเบื้องหลังความวุ่นวายของอัลบั้มนี้กลับกลายเป็นบทสัมภาษณ์ของ DJ Swamp Izzo ตัวละครสำคัญที่มาเป็นตัวไฮป์ในอัลบั้มนี้ เหมือน DJ Drama ที่เราเห็นในอัลบั้ม CALL ME WHEN YOU GET LOST ของ Tyler The Creator นั่นแหละครับ
DJ Swamp Izzo
-การได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ DJ Swamp Izzo พูดถึง process การทำ MUSIC ที่ว่าทำไมถึงยืดยาวนานถึง 5 ปี หลักการของ Carti ไม่มีอะไรมาก เพราะมันไม่มีอะไรเลยครับ there is no plan นึกอะไรได้ก็เปิดบีทแล้วจัดแม่งตรงนั้นเลยครับ
-มีการลงทุนสูงมากๆถึงขั้นเช่าตึก 1 หลัง นอกจากจะมีห้องสตูดิโอแล้ว Jordan และพวกเนรมิตไอ้ตึกเช่าหลังนั้นเมีป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมที่มีทั้งห้องเสื้อ ห้องเก็บเพชร เป็นพื้นที่ในการลองสวมใส่ไปเรื่อย หา inspiration รวมไปถึงการวางกระเป๋าเก็บเงินตามจุดต่างๆ เนี่ยแหละมั้งครับวิถี trap artist เค้าเป็นแบบนี้
-DJ Swamp Izzo ก็ได้ยกตัวอย่างเพลงแรกเปิดหัวอย่าง POP OUT ที่เราได้ยินเนี่ยกลับกลายเป็นเพลงสุดท้ายที่ทำในช่วงที่อัลบั้มนี้กำลังจะถูกปล่อยเลยด้วยซ้ำ มันเลยเป็นที่มาของการ delayed ที่ทุกคนโวยกันก็เพราะว่า Carti นั้นยังไม่พอใจกับ MUSIC ที่เสร็จไปนานแล้ว แต่อยู่ดีๆแกก็มาบอกว่า เห้ยน้า !!! ผมขาดพลังงานบางอย่างว่ะ ผมต้องปรับมันหน่อย เลยเป็นที่มาของความล่าช้าที่ลากยาวไปถึง 7 โมงเช้าจนคนบ่นกันระนาว
-นี่คือตัวอย่างของความเอาแน่เอานอนไม่ได้พอๆกับ Kanye West เลยครับ ที่ว่าเสร็จแล้ว แต่ใช่ว่างานจะนิ่งหรือ complete ทั้งนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่แล่นในหัวของ Carti ที่มันไม่เคยหยุดนิ่งจนกว่าจะพอใจเสียจริง ขนาดตอนที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อบางเจ้า แกยังยอมหลุดบทสนทนาดื้อๆเพื่อไปทำเพลงเฉยเลยก็มี
-มีหลายประโยคที่ DJ Swamp Izzo พูดได้น่าสนใจ มันเลยทำให้ผมได้เข้าใจเนเจอร์ของ MUSIC โดย Playboi Carti น้า Swamp Izzo เปรียบเปรยการทำงานเพลงของ Carti เหมือนพวกเล่นยาแม่งทุกชนิดในเวลาเดียวกัน มีทั้งความดีด ความเสี้ยนอยากเอาเพิ่ม มันเลยกลายเป็นความรู้สึกที่โคตรฟุ้งซ่าน hyper ไม่อยู่กับที่ มึนเมาพูดจาวกวน ไม่รู้เรื่อง แล้วมันก็มีช่วงที่ Carti รู้สึก burn out ไปหลายวันเช่นกัน (น้าแกก็ช่างเปรียบเปรยการทำเพลงเหมือนเล่นยา เอาซะเห็นภาพเลย)
-ต่อให้น้า Swamp Izzo รู้สึกตื่นเต้นกับ process ชนิดที่เคลมกับผู้ฟังแบบย้ำชัดว่า อย่าไปวาง MUSIC โดย Playboi Carti ไปอยู่ในกล่องของแนวทางใดแนวทางนึง นี่คือแนวทางที่เราสร้างขึ้นเองต่างหาก ย้ำทั้งในบทสัมภาษณ์และอินโทรเปิดเพลง SOUTH ATLANTA BABY แต่สิ่งนึงที่น้าแกพูดได้ถูกต้องเลยก็คือ process การทำเพลงไม่ตายตัวสไตล์ Carti เป็นดาบสองคมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียแบบสุดๆ ข้อดีคือความตื่นเต้นที่เราเดาใจไม่ออกว่า Carti จะมาไม้ไหนอีก
-ส่วนข้อเสียแน่นอนว่า น้า Swamp Izzo เอ็นจิเนียร์ และ PD คนอื่นๆงานงอกอีกแล้วไอ้ห่า(ฮ่าๆๆๆ) และไอ้ข้อเสียแห่งการยัดห่าอีกไม่รู้จบ ไม่รู้จัก complete กลับกลายเป็นความฟุ้งซ่านที่ทำลายอัลบั้มนี้ให้ขาดความสมดุล ระคนเสียจนไม่สามารถสร้างความสดใหม่แบบที่ Die Lit มันเคยสร้างความเซอร์ไพร์สได้ครั้งนึง
-ผลแห่งการทดลองกลับกลายเป็นความโฉ่งฉ่างที่ทำได้แค่โหวกเหวกเสียงดังมากกว่าความแปลกใหม่สุดพิสมัย trap beat เร่งโทน rage เสือกเป็นความซ้ำซากที่รวมๆแล้ว แรกๆ unique แต่หลังๆเริ่มเดาทางออก ต่อให้จะเปลี่ยนโทนเสียง baby voice แห่บพร่า deep voice ก็ดูแปลกๆชอบกลเหมือนเราไม่ได้ฟังเพลงของคนที่ชื่อว่า Playboi Carti อ่ะครับ
-ยิ่งมีเพลง TOXIC, DIS 1 GOT IT, WALK, OVERLY แทบจะถอดแบบ Future จนนึกว่าเฮียแกมาเอง จุดนี้เป็นอะไรที่น่ากังขาพอๆกับที่เราได้ยินซิงเกิ้ล ALL RED จนแซวกันตรึม ดีนะเฮียพลูโตไม่ diss ยังมาแจมด้วยถึง 2 เพลง ค่อนข้างประทับใจ TRIM ที่ดูต่อบทต่อกลอนได้ลงล็อค CHARGE DEM HOES A FEE ที่มาในเวอร์ชั่นบิดโทนหย่อนยานกลับทำให้เพลงหน่วงยืดเกินไปหน่อย
-ความเดือดที่เป็นเส้นตรงก็จุดนึง ความฟุ้งซ่านที่หลุดไปหลุดมานั่นก็ทำให้เรานิยาม MUSIC คืออัลบั้มได้ไม่เต็มปากนัก นี่คือเพลย์ลิสท์ ประหนึ่งการสำรองเพลงเพื่อเข้าเป้าคนหมู่มาก เฉกเช่น RATHER LIE ที่มีรส Pop Rap โดดชัดเจน แต่ก็ไม่ปฏิเสธการทำหน้าที่ของ The Weeknd สามารถทำให้เรานึกถึงเขาเป็นคนแรกตั้งแต่เริ่มจนจบ
-WE NEED ALL DA VIBES ที่โดดจัดเช่นกัน แต่เราก็ยังนึกถึง Young Thug เป็นคนแรก ในฐานะผู้ถ่ายทอดความเจื้อยแจ้ว melodic rap และเป็นความแช่มชื้นที่ได้ฟังเพลงแจมแรกๆของ Young Thug หลังจากที่แกถูกปล่อยออกจากคุก สองเพลงนี้คือตัวอย่าง feature โดดเด่นเกินเจ้าของเพลง
-เดี๋ยวจะหาว่าการมีคนอื่นมาแจมกลบรัศมีเจ้าของเพลง มันก็มีตัวอย่างเพลงสายผ่อนที่สามารถกลมกลืนไปกับความดีดได้เหมือนกันนะครับ อันนี้ต้องชมเลยอย่างเพลง BACKD00R ผลประโยชน์ของ chipmunk sample การงัดใช้ baby voice ได้ตรงไวป์ และ verse ของ Kendrick ที่เรียบง่ายพอที่จะทำให้คนฟังเย็นลงได้ชั่วขณะ
-สำหรับการที่ Kendrick Lamar ลงมาเล่นกับ rapper ขั้วตรงข้ามกับตัวเอง เป็นความเซอร์ไพร์สที่ผมไม่รู้สึกติดใจอะไรมากนัก อย่าไปยึดติดว่าแกต้องร่วมงานกับคนศีลเสมอกับแกเสมอไป ถ้าไปรับงานฟีทกับคนอย่าง Diddy ลุงพล เคสนี้ก็ว่าไปอย่าง ออกแนวใจกว้าง อยู่ได้ทุก sub-genre แต่ไม่ถึงขั้น drop verse ที่มีความ Rare มากนัก โดยเฉพาะ GOOD CREDIT ที่กั๊กพลังงานความดุดันไว้ ด้านดีคือไม่แย่งซีนเจ้าของเพลงที่แลดูไม่มีอะไรอยู่แล้ว แต่ก็แลกมากับความธรรมดาที่สาวก K.Dot ยังรู้สึกไม่สาแก่ใจมากนัก
-กลับกลายเป็นว่าการโผล่ cameo แบบ BACKD00R และ MOJO JOJO กลายเป็นการเจิมที่แลดูมี surprise value มากกว่าการลงมาแจม verse เต็มๆ อาจจะเป็นเพราะว่าบริบทของ Carti มันไม่จริงจังในแบบที่ต้องมาโชว์ punchline คมๆตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
-สำหรับแขกรับเชิญสุดคุ้นเคย Travis Scott ไม่มีอะไรมากจริงๆครับ nothing special ค่อนข้างเฝือพอสมควร ส่วน Lil Uzi Vert เหมือนได้เพลงไปเต็มๆสองเพลง JUMPIN และ TWIN TRIM ไม่ได้มี charisma คู่หูที่น่าจับตามองเหมือนเพลง Shoota
-พล่ามเยอะถึงข้อเสียที่เจอ แต่ก็ใช่ว่าจะหาเพลงแหล่มๆไม่ได้เลย น่าเสียดายที่ความแหล่มส่วนใหญ่คือเพลงที่เคย tease ผ่านช่องทางยูทูปมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น EVIL J0RDAN, HBA (H00dByAir), BACKR00MS และ 2024 ที่ดันอยู่ในโซน bonus track ที่ถูกเพิ่มมาทีหลัง สามเพลงแรกขายความลึกลับกรึ่มๆที่ทุกคนอยากรู้อยากฟัง 2024 ค่อนข้างโดดเด่นเป็นเอกฉันท์ในการฉายความเป็นมิตรไปพร้อมๆกับการเปลี่ยนโทนเสียง deep voice สร้างพลังเซอร์ไพร์สที่ต่อเนื่องจากที่ไปโผล่ในเพลง FE!N ที่ทุกคนเคยอัศเจรีย์มาแล้ว
-เพลงที่เป็นโหมดอัลบั้มที่ฟังแล้วรู้สึกเดือดได้ที่ก็มีอย่าง COCAINE NOSE ที่ใช้ความแหบพร่าได้เป็นประโยชน์ในการเสริมความอันตราย POP OUT เพลงสุดท้ายที่ได้อัดก่อนจะไปปล่อยอัลบั้มเพียงไม่กี่ชั่วโมง เป็นการตะโกนแหกปากเรียกแขกที่พร้อมออกสตาร์ท
-พอมาถึงส่วนสุดท้ายของบทความแล้ว ผมพอตกผลึกความคิดส่วนตัวบางอย่างว่า ทำไม Playboi Carti ถึงได้รับการโหมกระหน่ำ hype มากขนาดนั้น ถึงขั้นคนที่ไม่คิดว่าจะลงมาเล่นด้วยอย่าง Kendrick Lamar ยังยอมเสี่ยงทางกับไอ้หนุ่ม Jordan Carter ได้ ผมว่า ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ใช่ mumble rapper ที่ไม่มีหัวคิดสร้างสรรค์จนกลวงมากขนาดนั้นหรอกครับ
-แต่สิ่งที่ MUSIC มันโฉ่งฉ่างเสียงดังจนล้าเกินกว่าคนปกติจะรับฟัง น่าจะติดที่ความฟุ้งซ่านและความร้อนของที่ไม่ได้รับการปรับให้สมดุลต่างหาก ณ จุดนี้ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่า แร็ปเปอร์รุ่นใหม่มันจำเป็นต้องบ้าพลังขนาดนั้นเชียวหรอ? บีทสำคัญกว่า lyrics ก็ถูกส่วนนึง แต่มันก็ไม่มีเป้าประสงค์ให้ได้รู้สึกแน่ชัดถึงการฟังเสียงใจของตัวเอง เป็นความแปลกที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ก็ยังคิดอยู่ดีว่า ผมได้อะไรจากความล้นแบบนี้กันแน่
สนุกแบบจบแล้วแยกย้าย
Top Tracks : POP OUT, EVIL J0RDAN, MOJO JOJO, RATHER LIE, BACKD00R, TRIM, COCAINE NOSE, WE NEED ALL DA VIBE (Only Young Thug’s verse), HBA, DIFFERENT DAY, 2024, BACKR00MS
Give Schyeah/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา