30 + 4 Bonus Track (SORRY 4 DA WAIT) และชื่ออัลบั้มที่ตรงทื่อๆ ไม่มี something ใดๆเลย เมื่อเทียบกับ Whole Lotta Red และ Die Lit สองอัลบั้มแรกที่เราพอจะรู้ว่าจะต้องเจอมู้ดแอนด์โทนประมาณไหน สำหรับ MUSIC ก็คงพอทำเนาได้ว่า นี่คืออัลบั้มที่ช่างแม่ง context ช่างแม่งการเล่าเรื่อง และมันก็ทำตัวไม่ต่างจากเพลย์ลิสท์ของแรปเปอร์ที่ต้องการปักธงตั้งตนเป็นผู้นำ new school แห่งยุค และฉายแสงบารมีอย่างเอิกเกริก หลังจากที่ตัวเองได้รับการขนานนาม The best rapper in 20s โดย Complex
-การโปรโมทอัลบั้มที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ถึงขนาดสตรีมมิ่งไอ้เขียวก็สปอยล์ใหญ่โต และการสุมด้วยแขกรับเชิญระดับ All star มาอยู่ในอัลบั้ม ไม่เว้นแม้แต่ Kendrick Lamar ผู้ที่อยู่คนละขั้วกับตัวเองก็ยอมลงมาเล่นด้วยถึง 3 เพลง อะไรกันที่ไอ้หนุ่ม Jordan Carter คนนี้ถึงได้รับสปอตไลท์จากบุคลากรและสื่อฮิปฮอปมากมายขนาดนี้ ?
-สำหรับสาย old school ที่ต้องการไรห์มแน่นๆ punchline คมๆ MUSIC โดย Playboi Carti คงไม่ใช่อัลบั้มที่คุณควรมายุ่มย่ามตั้งแต่แรก แต่สำหรับสาย new school ผู้เติบโตกับ trap และ rage ที่เน้นสนุก ไม่ต้องล้ำลึก mumble rap ไม่รู้เรื่องแค่ไหน ขอให้ฟีลมันได้ก็พึงปราถนาแล้ว MUSIC โดย Playboi Carti อาจเป็นคำตอบสำหรับคนไฝ่หาความแปลกและความอิหยังวะก็เป็นได้
-การที่ Playboi Carti ได้รับการโหมกระแสและการง้องอนในแบบที่ similar trap artist คนอื่นๆไม่ได้รับเท่าเขา น่าจะเป็นการวางคาแรคเตอร์ให้เป็นคนลับๆล่อๆ mystery เสน่ห์แห่งความคาดเดาไม่ได้คงจะเป็นสิ่งที่ชาว Trap Hiphop ไม่ค่อยได้ประสบพบเจอตามธรรมเนียมชุมชนฮิปฮอปปกติ นั่นคงเป็นความรู้สึกที่ weird shit สำหรับคนเหล่านั้นพอสมควร
-การเลือกที่จะวางคาแรคเตอร์ลึกลับ ยืมปากคนอื่นพูด นั่นทำให้นักรีวิวอย่างผมเกาหัวแกร่กๆเลยครับ อย่าว่ากันนะ ถ้ารีวิวนี้จะมีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อเลยก็เพราะว่า ผมตามข่าวสารแวดล้อมเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ไม่ทันเลยครับ แต่มีหนึ่งเบาะแสที่พอไขข้อข้องใจเบื้องหลังความวุ่นวายของอัลบั้มนี้กลับกลายเป็นบทสัมภาษณ์ของ DJ Swamp Izzo ตัวละครสำคัญที่มาเป็นตัวไฮป์ในอัลบั้มนี้ เหมือน DJ Drama ที่เราเห็นในอัลบั้ม CALL ME WHEN YOU GET LOST ของ Tyler The Creator นั่นแหละครับ
DJ Swamp Izzo
-การได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ DJ Swamp Izzo พูดถึง process การทำ MUSIC ที่ว่าทำไมถึงยืดยาวนานถึง 5 ปี หลักการของ Carti ไม่มีอะไรมาก เพราะมันไม่มีอะไรเลยครับ there is no plan นึกอะไรได้ก็เปิดบีทแล้วจัดแม่งตรงนั้นเลยครับ
-มีการลงทุนสูงมากๆถึงขั้นเช่าตึก 1 หลัง นอกจากจะมีห้องสตูดิโอแล้ว Jordan และพวกเนรมิตไอ้ตึกเช่าหลังนั้นเมีป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมที่มีทั้งห้องเสื้อ ห้องเก็บเพชร เป็นพื้นที่ในการลองสวมใส่ไปเรื่อย หา inspiration รวมไปถึงการวางกระเป๋าเก็บเงินตามจุดต่างๆ เนี่ยแหละมั้งครับวิถี trap artist เค้าเป็นแบบนี้
-DJ Swamp Izzo ก็ได้ยกตัวอย่างเพลงแรกเปิดหัวอย่าง POP OUT ที่เราได้ยินเนี่ยกลับกลายเป็นเพลงสุดท้ายที่ทำในช่วงที่อัลบั้มนี้กำลังจะถูกปล่อยเลยด้วยซ้ำ มันเลยเป็นที่มาของการ delayed ที่ทุกคนโวยกันก็เพราะว่า Carti นั้นยังไม่พอใจกับ MUSIC ที่เสร็จไปนานแล้ว แต่อยู่ดีๆแกก็มาบอกว่า เห้ยน้า !!! ผมขาดพลังงานบางอย่างว่ะ ผมต้องปรับมันหน่อย เลยเป็นที่มาของความล่าช้าที่ลากยาวไปถึง 7 โมงเช้าจนคนบ่นกันระนาว
-ต่อให้น้า Swamp Izzo รู้สึกตื่นเต้นกับ process ชนิดที่เคลมกับผู้ฟังแบบย้ำชัดว่า อย่าไปวาง MUSIC โดย Playboi Carti ไปอยู่ในกล่องของแนวทางใดแนวทางนึง นี่คือแนวทางที่เราสร้างขึ้นเองต่างหาก ย้ำทั้งในบทสัมภาษณ์และอินโทรเปิดเพลง SOUTH ATLANTA BABY แต่สิ่งนึงที่น้าแกพูดได้ถูกต้องเลยก็คือ process การทำเพลงไม่ตายตัวสไตล์ Carti เป็นดาบสองคมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียแบบสุดๆ ข้อดีคือความตื่นเต้นที่เราเดาใจไม่ออกว่า Carti จะมาไม้ไหนอีก
-ความเดือดที่เป็นเส้นตรงก็จุดนึง ความฟุ้งซ่านที่หลุดไปหลุดมานั่นก็ทำให้เรานิยาม MUSIC คืออัลบั้มได้ไม่เต็มปากนัก นี่คือเพลย์ลิสท์ ประหนึ่งการสำรองเพลงเพื่อเข้าเป้าคนหมู่มาก เฉกเช่น RATHER LIE ที่มีรส Pop Rap โดดชัดเจน แต่ก็ไม่ปฏิเสธการทำหน้าที่ของ The Weeknd สามารถทำให้เรานึกถึงเขาเป็นคนแรกตั้งแต่เริ่มจนจบ
-WE NEED ALL DA VIBES ที่โดดจัดเช่นกัน แต่เราก็ยังนึกถึง Young Thug เป็นคนแรก ในฐานะผู้ถ่ายทอดความเจื้อยแจ้ว melodic rap และเป็นความแช่มชื้นที่ได้ฟังเพลงแจมแรกๆของ Young Thug หลังจากที่แกถูกปล่อยออกจากคุก สองเพลงนี้คือตัวอย่าง feature โดดเด่นเกินเจ้าของเพลง
-สำหรับแขกรับเชิญสุดคุ้นเคย Travis Scott ไม่มีอะไรมากจริงๆครับ nothing special ค่อนข้างเฝือพอสมควร ส่วน Lil Uzi Vert เหมือนได้เพลงไปเต็มๆสองเพลง JUMPIN และ TWIN TRIM ไม่ได้มี charisma คู่หูที่น่าจับตามองเหมือนเพลง Shoota
-เพลงที่เป็นโหมดอัลบั้มที่ฟังแล้วรู้สึกเดือดได้ที่ก็มีอย่าง COCAINE NOSE ที่ใช้ความแหบพร่าได้เป็นประโยชน์ในการเสริมความอันตราย POP OUT เพลงสุดท้ายที่ได้อัดก่อนจะไปปล่อยอัลบั้มเพียงไม่กี่ชั่วโมง เป็นการตะโกนแหกปากเรียกแขกที่พร้อมออกสตาร์ท
Top Tracks : POP OUT, EVIL J0RDAN, MOJO JOJO, RATHER LIE, BACKD00R, TRIM, COCAINE NOSE, WE NEED ALL DA VIBE (Only Young Thug’s verse), HBA, DIFFERENT DAY, 2024, BACKR00MS