10 เม.ย. เวลา 10:00 • ข่าวรอบโลก

ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ขั้วโลกเหนืออาจขยับไปจากจุดเดิมเกือบ 30 เมตร

วิจัยใหม่เผย “ตำแหน่งของขั้วโลกเหนือ” อาจเคลื่อนตัวไปจากเดิมเกือบ 30 เมตร จากการละลายของน้ำแข็งที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters เมื่อวันที่ 5 มี.ค. พบว่า การละลายของน้ำแข็งอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้ “ตำแหน่งของขั้วโลกเหนือ” เคลื่อนตัวไปจากตำแหน่งเดิมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ขั้วโลกเหนือที่กล่าวถึงนี้หมายถึงขั้วโลกในเชิงภูมิศาสตร์ ไม่ใช่ขั้วโลกเหนือแม่เหล็ก โดยเมื่อแผ่นน้ำแข็งละลายและมวลของมหาสมุทรถูกกระจายไปทั่ว ขั้วโลกเหนือของโลกอาจเคลื่อนตัวได้ถึงเกือบ 30 เมตรภายในปี 2100 เนื่องจากแกนหมุน (Axis) ของโลกเปลี่ยนไป
ขั้วโลกเหนือ (แฟ้มภาพ)
ทีมวิจัยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลต่อระบบการนำทางด้วยดาวเทียม
หลักการของเรื่องนี้คือ โดยปกติเมื่อโลกหมุน การเปลี่ยนแปลงในการกระจายมวลของโลกจะทำให้แกนโลกโคลงเคลงเหมือนลูกข่าง การโคลงเคลงเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นสม่ำเสมอและคาดเดาได้ โดยบางส่วนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามปกติของความดันบรรยากาศและกระแสน้ำในมหาสมุทร ในขณะที่บางส่วนเกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างแกนโลกและชั้นเนื้อโลก (Mantle)
แต่การศึกษาวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การละลายของแผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งอาจส่งผลต่อการกระจายมวลและทำให้ขั้วโลกเคลื่อนตัวได้
ในการศึกษาวิจัยครั้งใหม่นี้ นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งซูริกใช้ข้อมูลการเคลื่อนตัวของขั้วโลกตั้งแต่ปี 1900 ถึงปี 2018 และการคาดการณ์การละลายของแผ่นน้ำแข็ง เพื่อทำนายว่า ขั้วโลกจะเคลื่อนตัวไปไกลแค่ไหนภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่แตกต่างกัน
ทีมวิจัยพบว่า ภายใต้สถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เลวร้ายที่สุดขั้วโลกเหนืออาจเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกมากกว่า 27 เมตรภายในปี 2100 ขณะที่ภายใต้สถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มองโลกในแง่ดีมากขึ้น ขั้วโลกเหนืออาจยังคงเคลื่อนตัวได้มากถึง 12 เมตร เมื่อเทียบกับตำแหน่งในปี 1900
มุสตาฟา เคียนี ชาห์วานดี นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์โลกจากมหาวิทยาลัยเวียนนา หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า “ผลกระทบนี้ค่อนข้างเหนือกว่าผลกระทบจากการปรับสมดุลของธารน้ำแข็ง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการดีดกลับของเปลือกโลก (Rebound) หลังจากยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลง”
การดีดกลับนี้เกิดจากการที่ปกติแล้ว พื้นดินพื้นผิวเปลือกโลกจะจมลงจากน้ำหนักของธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็ง แต่เมื่อธารน้ำแข็งละลาย ก็ทำให้ดินลอยตัวขึ้น ทำให้การกระจายน้ำหนักในเปลือกโลกเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลให้ขั้วโลกเคลื่อนตัว
ชาห์วานดีกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของแกนหมุนของโลกอาจส่งผลต่อการนำทางของดาวเทียมและยานอวกาศ นักวิทยาศาสตร์ทำแผนที่ตำแหน่งของยานอวกาศโดยใช้แกนหมุนของโลกเป็นข้อมูลอ้างอิงบางส่วน หากแกนดังกล่าวเคลื่อนตัวไป การระบุตำแหน่งที่แน่นอนของยานอวกาศอาจทำได้ยากขึ้น
เรียบเรียงจาก Live Science
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/246561
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา