Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดร. ธีร์รัฐ บุนนาค
•
ติดตาม
11 เม.ย. เวลา 12:21 • หนังสือ
“พระเทวทัต.. มารกลับใจ..”
คนดี คนเลวมีอยู่ในทุกองค์กร.. มีอยู่ปะปนกันในทุกสังคม.. เป็นเรื่องปกติของโลก..
ในแง่รัฐศาสตร์ เราจึงต้องทำให้คนดีมีอำนาจ.. เป็นที่ยอมรับ.. ไม่ถูกรังแก.. และได้เป็นใหญ่.. สังคมจึงพัฒนาและมีความสุขสงบได้..
ในวงการผ้าเหลืองก็ไม่ต่างกัน.. เพราะภิกษุที่ยังเป็นปุถุชน มีโลภ โกรธ หลง.. ยังไม่เป็นพระอริยะมีจำนวนมากกว่า..
สมัยพุทธกาล.. ราชกุมารหลายองค์ออกบวชเพราะเลื่อมใสในคำสอน.. รวมทั้ง พระอานนท์ พระอนุรุทธ์ และพระเทวทัต..
บวชแล้ว บางองค์ได้ฤทธิ์วิชชา 3 บ้าง.. ตาทิพย์บ้าง.. ส่วนพระเทวทัต คงจะปฏิบัติธรรมโดยไม่เห็นอริยสัจ 4.. จึงยังไม่บรรลุธรรมใดๆ.. แต่มีฤทธิ์ที่น่าจะเกิดจากฌานสมาบัติแบบพราหมณ์โยคี..
พระเทวทัต คิดการณ์ใหญ่ ใช้ฤทธิ์แปลงร่างเป็นเด็ก ไปนั่งตักของราชกุมารอชาตศัตรู.. ทำให้ราชกุมารเลื่อมใส ดูแลพระเทวทัตเป็นอย่างดี.. คงจะเริ่มนับถือเป็นพระอาจารย์นั่นล่ะ..
กาลต่อมาพระเทวทัต ก็ไปกราบพระพุทธเจ้าขอปกครองภิกษุสงฆ์ เป็นศาสดาแทน เพื่อให้พระพุทธเจ้าให้พักผ่อนบ้างเพราะอายุมากแล้ว.. ขอหลายครั้ง จนพระพุทธเจ้าตอบว่า..
“แม้สารีบุตร โมคคัลลานะ.. เราก็ยังไม่ได้มอบหมายให้ดูแลบริหารคณะสงฆ์.. ทำไมคิดว่าเราควรตั้งเธอทำการแทนเล่า..”
หลังจากนั้น พระองค์ก็ให้ไปแจ้งแก่ชาวบ้านชาวเมืองราชคฤห์ว่า.. นับแต่นี้ต่อไป พระเทวทัตทำการใด ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัย ไม่ขอรับรอง..
นี่ คงเป็นเรื่องบาดหมางในใจพระเทวทัตเป็นครั้งแรก..
พระเทวทัตจึงไปยุยงอชาตศัตรูราชกุมารให้ก่อกบฏฆ่าพ่อ คือ พระเจ้าพิมพิสารเสีย แล้วปกครองแผ่นดิน.. ส่วนท่านเองจะฆ่าพระพุทธเจ้าเพื่อปกครองคณะสงฆ์แทน..
แต่แผนปฏิวัติรัฐประหารล้มเหลว ราชกุมารและพระเทวทัตถูกจับได้.. แต่พระเจ้าพิมพิสาร ก็ไม่ประหาร.. กลับยกราชสมบัติให้อชาตศัตรูราชกุมารลูกชาย..
เมื่อได้เป็นใหญ่ พระเทวทัต จึงขอกำลังจากพระเจ้าอชาตศัตรู.. ไปลอบฆ่าพระพุทธเจ้า.. วางแผนให้ว่าเมื่อฆ่าสำเร็จแล้วให้หนีไปทิศทางใด.. เหมือนวางแผนจ้างมือปืนไปยิงเหยื่อในสมัยนี้..
แล้วก็สั่งนักฆ่ามือปืนอีก 2 คนไปดักรอที่เส้นทางนั้น เพื่อฆ่าปิดปาก เก็บมือปืนคนนั้น.. โดยวางแผนให้นักฆ่า 2 คนหนีไปในเส้นทางที่กำหนด..
แล้วสั่งนักฆ่าอีก 4 คนชุดใหม่ ไปซุ่มรอเก็บมือปืน 2 คนนั้นอีกทอดหนึ่ง.. วางแผนเก็บมือปืนเป็นทอดๆเหมือนกับผู้จ้างวานทุกวันนี้ล่ะ..
ฝ่ายนักฆ่าคนแรก แฝงตัวมาฟังธรรมกับเหล่าผู้ศรัทธาเพื่อหาจังหวะฆ่าพระพุทธเจ้า.. ฟังธรรมไปๆมาๆ กลับเกิดศรัทธาเลื่อมใสคำสอนตามหมู่ชน.. เปลี่ยนใจเปิดเผยแผนให้พระพุทธเจ้าทราบ..
พระองค์จึงบอกให้เดินทางกลับ แต่อย่าใช้เส้นทางที่พระเทวทัตสั่งไว้.. ทำให้มือปืนคนนั้นรอดตาย ไม่ถูกเก็บ..
ฝ่ายนักฆ่า 2 คนที่เฝ้ารอ.. รอตั้งนานไม่เห็นเหยื่อมาให้เก็บ.. จึงเดินทางมากราบพระพุทธเจ้าเพื่อสอดแนม.. ฟังธรรมไปๆมาๆ.. ก็กลับเลื่อมใสตามไปด้วย.. เป็นเช่นนี้ไปทุกทอด.. จึงไม่มีใครถูกฆ่าด้วยใครสักคนเดียว..
ในที่สุดผู้จ้างวาน คือพระเทวทัตต้องลงมือเอง.. กลิ้งหินใหญ่ลงมาจากภูเขาจะให้ทับพระพุทธเจ้าด้านล่าง.. ก็ไม่สำเร็จอีก.. เพียงทำเท้าพระพุทธเจ้าห้อเลือดบาดเจ็บ..
แต่การทำร้ายเพียงเท่านั้น ผลกรรมยิ่งใหญ่ แรง และเร็วมาก.. ปิดสวรรค์ ปิดนิพพาน.. เป็นอนัตริยกรรม มีกำลังแซงกรรมอื่นได้ ส่งผลให้ตกนรกในชาติปัจจุบันได้เลย..
เวลานั้น หมู่ภิกษุสงฆ์ต่างผัดเปลี่ยนกันมาเข้าเวรสวดมนต์ ท่องจำคำสอน เฝ้าพระพุทธเจ้ายามค่ำคืน .. แต่พระองค์บอกว่า ไม่จำเป็นหรอก.. เพราะตามธรรมชาติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะไม่ปรินิพพานด้วยการถูกสังหาร..
มีแต่ศาสดาไม่แท้จริงเท่านั้นที่อาจถูกฆ่าตายได้.. และที่ต้องให้สาวกคอยคุ้มกันภัย..
พระเทวทัตไม่เลิกความพยายาม.. จ้างคนเลี้ยงข้างดุร้าย ให้วิ่งใส่พระพุทธเจ้าที่เดินเข้ามาในซอยแคบ.. ผู้คนแตกตื่น ภิกษุต่างร้องขอให้วิ่งหนี.. แต่พระองค์ตอบว่า..
“ตถาคตจะไม่ปรินิพพานเพราะการถูกทำร้ายเป็นธรรมดา..”
ชาวบ้านที่ดูอยู่บนที่สูงเห็นเหตุการณ์ ต่างเป็นพยานยืนยันว่า เห็นช้างนาฬาคิลีวิ่งเข้าใส่พระองค์.. พอพระพุทธเจ้าแผ่เมตตาให้.. ช้างกลับเบรคตัวโก่ง ฝุ่นตลบ.. กลับหลังหัน เดินตรงไปโรงเลี้ยงช้างเฉยเลย..
ด้วยพละกำลัง ก็ยังทำไม่สำเร็จ.. พระเทวทัตปรับกลยุทธ์ใหม่ ใช้ปัญญาแทน..
เพื่อให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้เคร่งครัดในศีลอะไร.. จึงไปกราบพระพุทธเจ้าว่า ท่านมีข้อปฏิบัติที่เคร่งครัดมากกว่า และเสนอให้พระองค์บัญญัติพระวินัย เพื่อให้ภิกษุเคร่งครัดในศีลมากๆด้วย มิฉะนั้น จะถือว่า อาบัติ มี 5 ข้อ ดังนี้..
1. ภิกษุต้องอยู่ป่าตลอดชีวิต ห้ามเข้าเมือง..
พระองค์ตอบว่า.. ภิกษุอยู่ป่าหรือเมืองก็ได้ ให้ดูว่าที่ไหน ทำให้ลดละกิเลสได้มากกว่า ก็ให้อยู่ที่นั่น..
2. ภิกษุต้องบิณบาต ห้ามรับนิมนต์อาหารจากชาวบ้าน..
พระองค์ตอบว่า.. ภิกษุจะบิณบาตอย่างเดียว หรือจะรับนิมนต์ที่เขาศรัทธาก็ได้ ไม่มีโทษ..
3. ภิกษุต้องใช้ผ้าเก่าที่เขาทิ้งแล้วเท่านั้น จะรับจีวรที่เขาถวายให้ไม่ได้..
พระองค์ตอบว่า.. ภิกษุจะใช้ผ้าบังสุกุล หรือรับจีวรที่เขาถวายให้เอง โดยที่ไม่ได้ไปเรียกร้องจากเขาก็ได้..
4. ภิกษุต้องอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ไม่เข้าที่ชายคามุงบัง..
พระองค์ตอบว่า.. ภิกษุสมัครใจอยู่ป่า เขา ถ้ำ โคนไม้ บ้านร้าง ป่าช้า หรือที่ไหนก็ได้ ที่ส่งผลให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้า.. แต่ห้ามอยู่โคนไม้ในช่วงฤดูฝน..
5. ภิกษุต้องฉันเจ ห้ามฉันเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต..
พระองค์ตอบว่า.. ชาวบ้านทำอาหารเจ หรือเนื้อสัตว์มาใส่บาต ก็ฉันได้หมด..
เว้นแต่ เนื้อสัตว์บางประเภท และเนื้อที่เห็นเขาฆ่า ได้ยินว่าเขาฆ่า และที่รังเกียจว่าเขาฆ่ามาถวาย..
สรุป คือ พระพุทธเจ้าปฏิเสธร่างพระวินัยที่ตึงเกินไปของพระเทวทัตทั้งหมด..
พระเทวทัตดีใจ แผนสำเร็จ จึงเที่ยวประกาศในเมือง เพื่อให้คนเห็นว่าพระพุทธเจ้าไม่เคร่งในศีลเท่าตน..
เมื่อถึงวันอุโบสถ ก็ชวนภิกษุอื่นๆให้แยกไปทำอุโบสถที่อื่น ไม่รวมกับพระภิกษุสงฆ์อื่นๆ..
นี้ เรียกว่า สังฆเภท คือ ภิกษุยุยงภิกษุสงฆ์ให้แตกแยก ไม่สามัคคีกัน.. ให้ไม่ทำสังฆกรรมร่วมกัน อันนี้น่าจะในข้อที่ว่า แสดงการปฏิบัติที่ไม่เป็นอาบัติ ว่าเป็นอาบัติ..
สังฆเภท เป็นความผิดพระวินัย ขั้นอาบัติสังฆาทิเสส.. ที่ร้ายแรงรองลงมาจากอาบัติปาราชิกทีเดียว.. ถ้าอาบัติแล้วไม่แก้ไข ก็ส่งผลให้บรรลุธรรมไม่ได้อีก..
และยังส่งผลให้ไปเกิดในอบายบายภูมิด้วย.. เว้นแต่ การทำสังฆเภทเพราะเกิดจากความบริสุทธิ์ใจ เพราะเข้าใจธรรมวินัยผิด คิดว่าเหตุผลของตนถูกต้อง..
พระพุทธเจ้าทราบเข้า ก็ส่งพระสารีบุตรกับพระโมคคัลลานะมายังกลุ่มภิกษุที่หลงผิด ด้วยเมตตาชี้แจงอธิบาย ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง.. จนภิกษุที่ฟังธรรมจากพระสารีบุตรแล้ว บรรบุเป็นพระโสดาบันถึง 500 องค์.. เปลี่ยนใจกลับมาหาพระพุทธเจ้า..
ในช่วงท้ายของชีวิต.. พระเทวทัตโดนธรณีสูบ.. คงจะด้วยวิธีการตามธรรมชาติคือ ให้แผ่นดินไหวแล้วตกลงไปในพื้นดินที่แยกตัวออก..
สุดท้าย.. แม้ว่า ชาตินี้ท่านจะบรรลุธรรมไม่ได้.. แม้ ตอนนี้ท่านจะต้องตายไปตกนรก เพราะโทษอนัตริยกรรม.. พระเทวทัตท่านก็ยังสำนึกผิดทันเวลา..
ระหว่างพระแม่ธรณีพิโรธ.. ร่างกายท่านกำลังจะจมลงไป.. สูบถึงเอว.. ถึงอก.. เหลือเพียงศีรษะ..
พระเทวทัตรีบตั้งจิตอธิษฐาน (ตั้งใจมั่น ไม่ใช่อธิษฐานร้องขอพรอะไร).. ขอขมากรรมต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์.. ในสิ่งที่ท่านพลาดพลั้งกระทำลงไป..
แต่ก็ไม่ทันการณ์.. เหมือนศาลฎีกาพิพากษาให้ประหารชีวิตแล้ว.. สำนึกผิด จะขอรับสารภาพเพื่อลดหย่อนโทษ.. คงไม่แล้ว..
วินาทีที่ช่วงศรีษะท่านกำลังจะจมทรุดลงไปในแผ่นดิน..
แม้ไม่มีมือที่จะไหว้ขอขมา.. แม้ไม่มีดอกไม้ที่จะมากราบบูชา..
ท่านก็อธิษฐานจิตคิดในใจมั่น..
“ขอน้อมถวายกระดูกคางนี้เป็นเครื่องบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..
และขอถึงซึ่งพระนิพพาน ถึงซึ่งพุทธภูมิ.. ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งบ้างในอนาคต แม้จะอีกใช้เวลาอีกยาวนานเพียงใด..”
ด้วยผลกรรมที่เคยปรามาสพระพุทธเจ้าไว้.. และผลกรรมที่ได้อุทิศกระดูกคางบูชาพระพุทธเจ้า พร้อมตั้งใจจะสำเร็จโพธิญาณนี้..
ทำให้ในอนาคตที่ท่านพ้นจากโลกันต์นรกแล้ว.. เมื่อกรรมเบาบางลง..
สักวันหนึ่ง.. ในอนาคต หลังยุคพระศรีอารยเมตไตร..
ในสมัยที่คนไม่รู้จักธรรม.. ไม่รู้จักศาสนาพุทธ.. ไม่มีใครสอนธรรม.. เพราะไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดในยุคนั้น..
ณ ใต้โคนไม้ในป่าดงดิบใหญ่แห่งหนึ่ง.. มีบุรุษหนุ่มวัยกลางคน รูปร่างสง่าสมส่วน.. มีหนวดเครารุงรัง.. แต่มีกระดูกคางที่งดงามหาใครเสมอเหมือน..
เธอนั่งสมาธิอย่างจริงจัง และเดียวดาย.. ท่ามกลางความเงียบสงบ และสงัด..
จิตท่านใคร่ครวญพิจารณาเหตุของทุกข์.. และเหตุของสังสารวัฏ.. จนค้นพบอริยสัจ 4.. พบพระไตรลักษณ์.. และปฏิจจสมุปบาท..
ได้ดวงตาเห็นธรรมโดยไม่มีใครสอน.. ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้ด้วยพระองค์.. แต่ไม่มีพระสงฆ์.. เพราะไม่ได้สอนใคร.. ไม่ได้เผยแพร่ประกาศสัจธรรม.. จึงไม่มีคนที่เห็นจริงตาม..
พระเทวทัต.. ท่านจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตที่ไม่มีสาวก.. เรียกว่า.. “พระปัจเจกพุทธเจ้า”..
เรื่องพระเทวทัตนี้ เป็นกำลังใจให้ย้อนกลับมาดูที่ตัวเราทุกคนนะครับ..
แม้โจร 500.. องคุลีมาลที่ฆ่าคนตายมา 999 ศพ.. ท่านก็ยังกลับใจ กลายเป็นพระอรหันต์ได้..
แม้ซาตาน หรือมารที่เป็นศัตรูกับพระเจ้าในศาสนาคริต์ ศาสนาอิสลาม.. เทียบได้กับพระเทวทัตในศาสนาพุทธที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับพระพุทธเจ้า..
แต่สุดท้าย พระเทวทัตท่านก็สำนึกผิด และจะบรรลุธรรมในอนาคตได้..
แล้ว ทำไม เราๆ ท่าน.. ที่ทำผิดเพียงศีล 5.. จะตั้งใจถือศีลให้ครบไม่ได้..
ทำไมคนที่พลาดพลั้งจนรับโทษในเรือนจำเป็นเเสนคน.. จะกลับใจเลิกละความชั่วไม่ได้..
เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ..
เราจะกลับเป็นคนดี.. ไม่ใช่เพราะเลิกทำชั่ว แล้วมาทำดีนะ..
แต่ต้องเริ่มจากทิฐิก่อน..
เราทุกคนจะเลิกทำชั่ว.. ก็ต่อเมื่อคิดได้ สำนึกได้.. แล้วจึงลงมือทำดีได้ครับ..
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย