13 เม.ย. เวลา 10:48 • หนังสือ

📚 สรุปไอเดียสำคัญจากหนังสือ “The Making of a Manager” จะเป็น Manager ที่ดีต้องทำอะไรบ้าง 💡

👉🏻 หนังสือเล่มนี้น่าสนใจตรงที่เขียนโดย Julie Zhuo ที่ได้รับการโปรโมตให้เป็นผู้จัดการมือใหม่ในขณะที่อายุเพียง 25 ปีเท่านั้น โดยปัจจุบัน Julie เป็นหนึ่งใน product design executives ระดับต้น ๆ ของ Silicon Valley โดยเธอเคยเป็น VP design ที่ facebook ด้วย
4
(ใครอยากอ่านแบบเว็บไซต์มีภาพประกอบเพิ่มเติม กดไปอ่านได้ที่ www.pawinreading.com)
1. “Great Managers are made, not born.” แน่นอนว่าการจะเป็น manager ที่ดีนั้นฝึกได้
2. Julie เล่าว่าแรกเริ่มเดิมทีเธอเองเข้าใจว่าหน้าที่ของ manager คือ การประชุมกับทีมเพื่อช่วยทีมแก้ปัญหา การให้ feedback รวมไปถึงการดู performance ว่าใครควรได้รับการ promote หรือใครที่ไม่ควรได้อยู่ต่อ
3. แต่หลังจากผ่านไป 3 ปี เธอบอกว่าเธอเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วตอบคำถามใหม่ว่า หน้าที่ของ manager คือ สร้างทีม Support สมาชิกในทีมให้เติบโตและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สร้าง process การทำงานให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ แต่หากให้สรุปประโยคเดียวว่าหน้าที่ของ manager คืออะไร เธอสรุปได้ว่า “to get better outcomes from a group of people working together”
4. 3 สิ่งที่ manager ควรจะให้ความสำคัญคือ
Purpose – why ให้ทีมรู้ purpose ว่าทำไปเพื่ออะไร นั่นก็คือการ set vision
People – who ให้ความสำคัญกับคน การบริหารคนที่ Julie จะให้ความสำคัญมากในหนังสือเล่มนี้
Process – how ทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
5. หน้าที่ของ manager ไม่ใช่การทำงานด้วยตัวเองอีกต่อไปแม้ว่าเราอาจจะเก่งที่สุดในเรื่องนั้นก็ตาม (ส่วนใหญ่คนที่ได้ promote ขึ้นมาเป็น manager ก็มักจะเก่งในงานนั้น ๆ มากกว่าคนอื่น) นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ manager ส่วนใหญ่เข้าใจผิดมาตลอด
6. หน้าที่จริง ๆ ของ manager คือ การพัฒนา purpose people และ process ของทีมเพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “multiplier effect” เพื่อให้ผลลัพธ์ของทีมออกมาดีมากยิ่ง ๆ ขึ้นไปหลาย ๆ เท่าตัว และได้ตามเป้าหมาย เพราะใน ฐานะ manager จะถูก judge ด้วยผลงานของทีมนั่นเอง
7. Manager เป็นแค่ role ๆ หนึ่ง แต่ leadership เป็น skill การจะเป็น manager ที่ดีได้ ต้องมี leadership ก่อน ในขณะที่คนที่เป็น leader ไม่จำเป็นต้องมี role เป็น manager
8. เรื่องที่สำคัญที่สุดในการ lead team คือเรื่องของคน
9. มี 2 เรื่องที่เราต้องหาคำตอบให้ได้หากเขาทำงานได้ไม่ดี คือ เขาไม่รู้วิธีการทำงานที่ดี (เขาไม่มี skill พอที่จะทำงานให้ดี) หรือ ขาด motivation
10. Trust is the most important ingredient Trust เป็นเรื่องสำคัญมากของทุก ๆ relationshipไม่เพียงแต่เจ้านายกับลูกน้อง
11. Trusting relationships ที่เจ๋งเลยคือ direct reports ของเรากล้าที่บอกความผิดพลาดให้เราฟัง กล้าที่จะบอกถึง challenges ต่าง ๆ และความกลัวที่เขามีให้เราฟัง หากเขามีปัญหาเขาพร้อมที่จะบอกเราทันทีเป็นคนแรก นั่นคือสุดยอดของการมี trust แล้ว
12. Strive to be Human, not a boss
13. วิธีที่จะได้ trust มา
• Respect and care about your report ต้องแคร์เขาอย่างจริงใจ พูดง่าย แต่ทำไม่ง่ายเลย
• Invest time to help your report เช่น การทำ 1 on 1
• Be honest and transparent about your report’s
performance ต้องซื่อสัตย์และโปร่งใสต่อ performance ของเขา
• Admit your own mistakes and growth areas กล้าที่จะบอกความผิดพลาดของเราให้เขาฟังด้วย
14. เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการ coaching คือการถาม
15. Great manager ต้องหาสิ่งที่ unique ในแต่ละคนในทีมเราและนำมาใช้ให้ได้
16. การให้ Feedback ที่ดีต้อง inspire ให้อยากเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
17. การจะ feedback ที่ดีต้องมีการ
• ตั้ง expectation กันให้ชัดเจนแต่แรก
• ให้ feedback ที่เฉพาะเจาะจงที่พูดถึงพฤติกรรมที่ทำและให้บ่อยเท่าที่ทำได้
• ให้มี 360 องศา feedback
18. อีกหนึ่งหน้าที่ของ manager คือต้องบริหารจัดการตัวเองให้ได้ดีก่อน ต้องรู้ว่าอะไรเหมาะสมกับเรา สภาพแวดล้อมแบบไหนที่ทำให้เรามีพลัง สภาพแบบไหนที่ทำให้เราสามารถทำงานได้ดี
19. รู้จุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองและ ต้องมี growth mindset
20. เราสามารถหา mentor ได้หลาย ๆ คน ทุกคนสามารถเป็น mentor ให้เราได้ เพราะทุกคนก็มีความรู้หรือเรื่องที่เราไม่รู้และให้คำแนะนำเราได้
21. ให้แบ่งเวลาพัฒนาตัวเองเสมอ ด้วยการ training หรือเข้า workshop เราไม่ได้แค่ลงทุนเพื่อตัวเราเอง แต่เราทำเพื่ออนาคตของทั้งทีม
22. ให้เราถามก่อนจะ meeting ทุกครั้งว่า “What does a great outcome look like?” ไม่ว่าวัตถุประสงค์ของ meeting คือการ making decision, sharing information, providing feedback, generating ideas หรือ strengthening relationships
1
• Invite right people เลือกคนที่ตอบคำถามวัตถุประสงค์ของประชุมนั้น ๆ
• Give people a chance to come prepared ส่งข้อมูลให้ล่วงหน้า
• Make it safe for people to contribute คนที่เข้าต้องกล้าแสดงความเห็น
• Some meetings don’t need to exist at all คิดให้ดีก่อนว่า meeting จำเป็นต้องมีหรือไม่
23. การ hiring ไม่ใช่การ filling holes ให้จบ ๆ ไป แต่ให้มองเป็นการทำยังไงให้ team เราดีขึ้น ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
24. Hiring is manager’s responsibility ไม่มี recruiter ที่ไหนรู้ดีเท่าคุณ, เขียน job descriptionให้ชัด
25. การสัมภาษณ์ให้คุณทำให้ candidates ที่คุณต้องการเห็นว่าคุณต้องการเขามากแค่ไหน
26. Hiring is a gamble but make smart bets เพราะเจอกันแค่แปปเดียว
• เราไม่สามารถจำลองสภาพการทำงานจริงได้
• เรามี bias มักจะแพ้ first impression
• เราไม่รู้ว่าเขามีความสามารถจะปรับตัว เปลี่ยนแปลงได้ขนาดไหน
27. การทำงานให้สำเร็จหรือ making things happen เราจำเป็นต้องมี perfect execution มากกว่ามี perfect strategy และการจะ execute งานให้ได้ดี เราต้องมี process ที่ดีในการตัดสินใจ เรียนรู้จากความผิดพลาด
28. การขยับไป lead ทีมที่ใหญ่ขึ้น เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ เช่น เราไม่สามารถจะลง details ใด้เท่าเราบริหารทีมเล็ก ๆ เราต้องขยับไปทำภาพใหญ่มากขึ้น ได้แก่ การให้แนวทางที่ชัดเจน delegate งานออกไป แล้วเพิ่มการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
29. หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญของ manager คือการสร้าง culture และ culture ของบริษัทนั้นไม่ได้ดูจากเว็บไซต์หรือป้ายต่าง ๆ ที่เขียนแปะไว้ในออฟฟิส แต่เป็นสิ่งที่คนในองค์กรนั้น ๆ ปฏิบัติแล้วให้ value กับสิ่งเหล่านั้น
30. ต้องไม่เบื่อที่จะพูดซ้ำ ๆ ถึง culture ที่เราอยากให้เป็น
31. ในฐานะ manager ต้อง walk the talk ไม่ใช่เพียงแต่พูดแต่ต้องแสดงให้เห็นด้วยครับ
32. และแน่นอนว่าเราต้องสร้าง incentive หรือให้รางวัลกับคนที่ปฏิบัติตัวได้อย่าง culture ที่เราต้องการด้วย
📌 ปิดท้ายว่าการเป็น manager หรือผู้จัดการนั้นเป็นเพียงแค่ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น การเป็น manager ที่ดีเราจะต้องพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ (leadership) ของตัวเองและสร้างความเชื่อมั่น (trust) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ จากคนในทีมให้ได้อย่างเพื่อให้พวกเขายินดีที่จะทุ่มเททำตามแนวทางของเรา กล้าที่จะพูดคุยเรื่องความผิดพลาด กล้าที่จะบอกปัญหาและแก้ไขร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรครับ
โฆษณา