Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วินทร์ เลียววาริณ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
23 ส.ค. เวลา 00:00 • หนังสือ
บทความ Blockdit ผีเสื้อวันเดียว ตอน 7 : เชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ
เมื่อผู้กำกับ สแตนลีย์ คูบริก ทำหนังเรื่อง 2001: A Space Odyssey ผู้เขียน อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ก เขียนไปถึงตอนที่ เดวิด โบว์แมน พบประตูดาว คลาร์กชวน คาร์ล เซเกน ไปกินข้าวกับคูบริกที่นิวยอร์ก
สแตนลีย์ คูบริก ไม่รู้จะออกแบบสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวอย่างไร ทีแรกเขาคิดแบบ ‘มนุษย์ต่างดาว’ ด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งให้คนแสดงเป็นมนุษย์ต่างดาว เซเกนแย้งว่า โอกาสที่สิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวมีหน้าตาแบบคนนั้นมีน้อยมาก เพราะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนเปิดมาแบบบังเอิญ มันจะเป็น ‘มนุษย์ต่างดาว’ ไม่ใช่สิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาว
ในที่สุดก็เป็นอย่างที่ปรากฏในหนัง 2001: A Space Odyssey คือไม่แสดงภาพสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวตรงๆ แต่ใช้สัญลักษณ์แท่งหินสีดำ
ตอนแรกคูบริกจะตั้งชื่อหนังว่า Journey Beyond the Stars (อยู่เลยจากดวงดาว) เซเกนแย้งว่า เท่าที่เขารู้ ไม่มีส่วนไหนในจักรวาลที่อยู่ ‘beyond the stars’ หรอก! ถ้าสร้างหนังตามชื่อเรื่อง ก็คงฉายจอเปล่าแน่ หนังจึงไม่ได้ใช้ชื่อ Journey Beyond the Stars
หลายปีต่อมาเมื่อ คาร์ล เซเกน เขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Contact ในเรื่องมีสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาว เขาก็ออกแบบให้สิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวอยู่ในลักษณะของสัญลักษณ์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตหน้าตาเหมือนคน
เพราะไม่เพียงสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวจะหน้าตาเหมือนคนเป็นไปได้ยาก มันจะชี้ว่าเรามักคิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
มีคนถาม คาร์ล เซเกน ว่า “คุณเชื่อว่ามีสิ่งทรงภูมิปัญญาข้างนอกโน่นไหม?”
เซเกนตอบว่า “มีพื้นที่ว่างมากมายข้างนอกโน่น โมเลกุลแห่งชีวิตลอยล่องทั่วทุกหนทุกแห่ง คงเป็นสิ่งที่น่าฉงนมากหากไม่มีสิ่งทรงภูมิปัญญา แต่นั่นแหละ ยังไม่มีหลักฐานเลยสักนิดถึงความคงอยู่ของมัน”
ดังที่เล่ามาว่า คาร์ล เซเกน เป็นคนเสนอให้ใส่จดหมายในยายวอเยเจอร์ เพื่อส่งให้สิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาว
เขาเชื่อว่าจักรวาลไพศาลขนาดนี้ น่าจะมีสิ่งทรงภูมิปัญญาที่มาก่อนเรา วิวัฒนาการไปไกลกว่าเรา และมีความรู้สูงกว่าเรา อาจนับพันล้านปีมาแล้ว
แต่เขายังไม่สามารถบอกว่ามีสิ่งทรงภูมิปัญญาข้างนอกโน้น เพราะมันยังไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เขาจึงก็สะท้อนความเชื่อในส่วนลึกผ่านนวนิยายที่เขาแต่ง คือ Contact
ในนวนิยายเรื่องนี้ ตัวละคร เอลลี (อลีเนอร์) แอร์โรเวย์ ถามพ่อว่า “พ่อคะ พ่อคิดว่ามีมนุษย์บนดาวเคราะห์อื่นๆ ไหมคะ?”
พ่อตอบเธอว่า “The universe is a pretty big place. If it’s just us, seems like an awful waste of space.”
จักรวาลมีขนาดใหญ่มาก ถ้ามีแต่พวกเรา ก็คงดูเหมือนจะเสียพื้นที่เปล่าๆ นะ
ราวปี 1959 นักฟิสิกส์สองคน ฟิลิป มอร์ริสัน กับ จูเซปเป คอคโคนี เขียนบทความลงในนิตยสาร Nature เนื้อหามีว่า การติดต่อกับต่างดาวด้วยคลื่นวิทยุนั้นง่ายกว่าที่คิด ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเซติ (SETI - Search for Extraterrestrial Intelligence) ก็ถือกำเนิด
บุคคลสองคนที่ทำให้โลกรู้จักเซติดีขึ้นคือ แฟรงก์ เดรก กับ คาร์ล เซเกน
แฟรงก์ เดรก เป็นนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันที่สนใจเรื่องการสื่อสารกับสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวมาตั้งแต่ปี 1961 เขาคำนวณจำนวนของอารยธรรมต่างดาวที่เป็นไปได้ ตั้งเป็นสูตร ชื่อว่า สมการของเดรก (The Drake Equation)
ตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรกลุ่มหนึ่งพบปะกันที่ศูนย์สังเกตการณ์ กรีน แบงก์ ถกกันเรื่องความเป็นไปได้ในการใช้คลื่นวิทยุดาราศาสตร์เพื่อหาสิ่งทรงภูมิปัญญานอกระบบสุริยะ
คนกลุ่มนี้เรียกตนเองว่า The Order of the Dolphin เพราะรู้สึกว่าโลมาเป็นสัตว์ที่ฉลาด สมาชิก เช่น คาร์ล เซเกน, ฟิลิป มอร์ริสัน, ดานา แอ็ตชลีย์, แฟรงก์ เดรก, จอห์น ลิลลี ฯลฯ พวกเขาใช้หลักวิทยาศาสตร์คำนวณค่าความเป็นไปได้ของสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาว
นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งในองค์การเซติชื่อ จิลล์ ทาร์เตอร์ (Jill Tarter) ทำงานกับเซติมานานปี จนต่อมาเป็นผู้อำนวยการองค์การเซติที่แคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นสถาบันที่เธอทำงานมานานปี ในปี 1993 เมื่อนาซาไม่ให้เงินทุนเซติต่อไป เธอก็ไปหาทุนเอกชนมาดำเนินงานโครงการ
เซเกนประทับใจจิลล์มาก จึงใช้เธอเป็นต้นแบบตัวละคร แอลลี แอร์โรเวย์ ในนวนิยายเรื่อง Contact
ตัวละครเอลลีสะท้อนว่าคนเขียนเชื่อว่าเบื้องนอกนั้นน่าจะมีสิ่งทรงภูมิปัญญาอื่นๆ
แม้เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งทรงภูมิปัญญาข้างนอกโน้น แต่เขาไม่เชื่อเรื่อง UFO ที่สื่ออเมริกาเล่นมานานหลายสิบปี
คนเราชอบเรื่องสนุกตื่นเต้น แปลก และมักไม่ตรวจสอบข้อมูล หรือไม่อยากตรวจสอบ
1
คนเราเชื่อสิ่งที่อยากเชื่ออยู่แล้ว
คาร์ล เซเกน เขียนในหนังสือ The Demon-Haunted World เล่าที่มาของจานบิน (flying saucer) ว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์นี่เอง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 1947 นักบินพลเรือน เคนเนธ อาร์โนลด์ ขับเครื่องบินผ่านภูเขาเรนเนียร์ รัฐวอชิงตัน ทันใดนั้นเขาเห็นบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล เขารายงานการพบวัตถุประหลาดเก้าชิ้นซึ่งมี “วิถีบินประหลาดมาก”
มันกลายเป็นข่าว หนังสือพิมพ์รายงานว่ามีการพบจานบินจากต่างดาว
ต่อมาในวันที่ 7 เมษายน 1950 นักข่าวสำนักซีบีเอส เอ็ดเวิร์ด เมอร์โรว์ สัมภาษณ์นักบิน เคนเนธ อาร์โนลด์
เคนเนธ อาร์โนลด์ เล่าว่า เรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดกัน เขาบอกว่า ในวันเกิดเหตุ เขาบอกผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ว่า วัตถุประหลาดเก้าชิ้นที่เขาพบในวันนั้นดูเหมือน “เรือที่แล่นบนน้ำอย่างรุนแรงมาก”
เขาเปรียบเทียบว่า “พวกมันบินเหมือนเราขว้างจานร่อน (saucer) ข้ามน้ำ”
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฟังแค่นั้น ก็เขียนข่าวว่ายานจากต่างดาวนั้นมีรูปทรงเหมือนจานบิน (flying saucer)
สรุปเอาเองว่าเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว
ข่าวจานบินขายดี ใครๆ ก็ชอบข่าวแปลกน่าตื่นเต้นแบบนี้ ตลอดหลายปีหลังจากนั้น ไม่มีใครสนใจในการแก้ข่าว ไม่มีใครอยากรู้ความจริง หรือค้นหาความจริง
2
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เวลาพูดถึงมนุษย์ต่างดาว เราก็จะเห็นภาพจานบินเสมอ
เรายึดติดกับภาพจานบิน มนุษย์ต่างดาวหน้าตาแบบคน แขนขาลีบ ตาโต มีปากพูดได้ และพูดภาษาอังกฤษคล่อง
นี่ก็คือวิธีเสพข่าวแบบฟาสต์ฟูด โดยเฉพาะข่าวที่เสนอโดยสำนักข่าวใหญ่ๆ มีชื่อเสียง โดยคิดเอาเองว่า “พวกเขาคงตรวจสอบข่าวมาก่อนแล้วน่า!”
2
แล้วก็เชื่อเลย
7 บันทึก
33
3
2
7
33
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย