16 เม.ย. เวลา 05:31 • กีฬา

ประเมินสถานการณ์ขุมกำลังของลิเวอร์พูลจากสัญญาที่เหลือ

อาร์เน่อ ชล็อต ให้สัมภาษณ์ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ว่าลิเวอร์พูลจะมีการยกเครื่องขนานใหญ่ในช่วงซัมเมอร์
ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ FSG ความจริงตลอดระยะเวลาที่พวกเขาเข้ามายึดกิจการของสโมสรก็มีทั้งที่ตัดสินใจถูก และผิดมากมาย เอาจริงๆ ผมเห็นคนที่ทั้งสนับสนุน และเกลียดอย่างแรง แต่คนส่วนใหญ่น่าจะมองเป็นเรื่องๆ มากกว่า
ยิ่งถ้ามองจากภายนอกจะเห็นชัดกว่า ยกตัวอย่างเวลาแฟนบอลลิเวอร์พูลมองการบริหารของซิตี้ หรือแมนฯ ยูไนเต็ด กลับกันเท่าที่คุยหรือสังเกตแฟนบอลทีมอื่นมองมากที่ผู้บริหารลิเวอร์พูล
รวมๆ จะมองในแง่บวกมากกว่าลบ(อาจจะเพราะแฟนบอลทีมอื่นกลุ่มใหญ่คือแมนฯ ยูไนเต็ด ฮ่า!) แต่อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าทุกอย่างมันมีทั้งดี และไม่ดี มีการตัดสินใจที่พวกเขาต้องออกมาขอโทษ(แต่ผมเห็นด้วย!) อย่างกรณีซูเปอร์ลีก ฯลฯ แม้แต่ที่ผมได้รับผลกระทบโดยตรงมาด้วย
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะพิมพ์ถึงในตอนนี้(โปรยซะยาว) แต่จะพิจารณาขุมกำลังในฤดูกาลหน้า แผนงานที่บางอย่างพวกเขาเตรียมไว้แล้ว และจะมีผลต่ออนาคต เน้น
ไปที่ขุมกำลังนักเตะ
ฤดูกาลที่กำลังจะจบลงในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ชัดเจนว่าลิเวอร์พูลมีขุมกำลังที่ดูจะ “พอดี” หรืออาจจะขาดไปนิดหน่อย ซึ่งถ้าเราโชคร้ายจากการบาดเจ็บมากกว่านี้อีกนิดอาจจะกระทบต่อผลการแข่งขันมากกว่านี้
ดังนั้นการ “ขยาย” ขนาดทีมขึ้นต้องเป็นสิ่งที่ถูกพิจารณา จากโปรแกรมที่การันตีในแชมเปียนส์ลีกที่เพิ่มขึ้น และรับมือบอลถ้วยอีกสองรายการ
ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาเราทำได้พลาดเป้า แต่ในลีกถือว่าเกินเป้าไปมาก
ผู้รักษาประตู : อลีสซง, เคลเลเฮอร์, จารอส
นี่คือส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดส่วนหนึ่งของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะยามที่อลีสซงพร้อมลงสนาม หรือเทียบกับคู่แข่งทีมอื่นๆ ในลีก มือสองของลิเวอร์พูลก็มักมีคำเรียกว่ามือ 1.5 และแม้แต่จารอสที่เป็นมือสามก็มีดีกรีระดับทีมชาติ และผ่านประสบการณ์ลงเล่นในลีกสูงสุด(ที่อื่น)มาแล้ว
ปัญหาคือเซตนี้สัญญาเหลือไม่นานทั้งหมด เป็นขุมกำลังที่เรียกว่าได้มาในยุค จอห์น อัชเตอร์เบิร์กเป็นโค้ชประตู แต่ตอนนี้ฤดูกาลหน้ามีจุดตัดรออยู่
อาลีเหลือสัญญาปีเดียว ในวัยของเขา(32 ปี) กับสัญญาที่เหลือเรียกว่ายังน้อยเกินไปสำหรับแฟนๆ ที่อยากเห็นพ่อหมีเล่นกับเราไม่อีกยาวๆ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเขาควรจะได้สัญญาอีกฉบับ
แต่มันไม่ต้องรีบอะไร เขาเคยบอกแล้วว่าจะอยู่จนครบสัญญา และตัวเลขค่าเหนื่อยระดับแสนห้านับว่าสมเหตุสมผล เพียงแต่ถ้ามีฉบับถัดไป ตัวเลขระดับเดิมไม่ขึ้นไม่ลงน่าจะแฟร์สำหรับทั้งสองฝ่าย
สโมสรมีแผนสำรองด้วยการซื้อ มามาดาชวีลี่ไว้แล้ว ซึ่งทำให้หลายคนงงงวยด้วยซ้ำ แต่มองภาพรวมมันก็พอเข้าใจได้ จริงๆ แล้วซัมเมอร์นี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการขายอลีสซงด้วยซ้ำ ถ้าเกิดการย้ายทีมที่ช็อกแฟนบอล แต่คนที่ตามฟุตบอลมานานคงพอจะรับได้
อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ไม่ได้มีสัญญาณแบบนั้น กลายเป็นมามาฯ อาจจะอยู่กับบาเลนเซียอีกฤดูกาลด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้อยากมาแย่งมือหนึ่ง(ที่ดูแล้วว่ายาก)
โจทย์เลยกลายเป็นหงส์แดงต้องพยายามต่อสัญญากับ จารอสที่กำลังจะหมดลงไว้ก่อน ซึ่งสำหรับจารอสถ้าเขาได้รับการการันตีว่าจะเป็นมือสอง ผมว่าเขาน่าจะอยู่ต่อ แถมค่าเหนื่อยก็น่าจะได้เพิ่ม แต่ถ้าใครหวังว่าเคลเลเฮอร์จะอยู่ด้วย อันนี้คงยาก
เทียบกับการขายอาลี การขายเคลเลเฮอร์ดูจะลงตัวที่สุดแล้ว สัญญาเหลือปีเดียว และน่าจะขายได้ราคาพอสมควร ขายง่ายด้วย ตัวนักเตะก็น่าจะทนกับการเป็นมือสองมาพอแล้ว แฟนบอลก็เข้าใจได้ดี
ปัญหาจะอยู่ตรงมือสามเนี่ยแหล่ะ ถ้ามามาฯ ย้ายมาเลยก็เท่ากับจารอสต้องคิดหนัก หากคุณอยู่ในวัย 26 ปี แต่เป็นมือสาม ผมว่าเขาน่าจะไม่โอเค ฮาร์วีย์ เดวีสเป็นอีกคนที่สัญญาจะหมดกลางปีนี้ยิ่งต้องคิดหนักไม่แพ้กัน
นั่นเท่ากับว่าการเซ็นมามาฯ เข้ามาก่อนแอบเป็นปัญหาที่กระทบคนอื่นๆ เช่นกัน ถ้าคิดถึงเคสที่ดีที่สุดก็จะเป็นมี อลีสซง, มามาฯ และเคลเลเฮอร์ แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเป็นอาลี, มามาฯ และจารอส ผมก็รู้สึกว่าโกลเช็กอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่
บางทีมันอาจจะออกตรงที่มี อาลี, จารอส และอาจจะต้องหาโกลมากประสบการณ์อีกสักคน และปล่อยให้มามาฯ อยู่บาเลนเซียไปก่อน เพราะถ้ามาแล้วไม่ได้เล่นก็จะทำให้พัฒนาการของเขาหยุดไปได้เช่นกัน
เวลาเท่านั้นจะตัดสินว่าการเซ็นโกลจอร์เจียคุ้มไหม แต่ ณ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นการประกันความเสี่ยงกรณีไม่มีอาลี แถมไม่นับว่าระยะหลังอาลีอายุมากขึ้นเจ็บบ่อย (โชคร้ายจากการปะทะเพิ่มด้วย) แต่เอาเข้าจริงๆ โกลถ้าไม่เจ็บเลยทั้งซีซั่น บางทีมือสองจะแทบไม่ได้เล่นเลย
ณ จุดนี้โกลทีมใหญ่ๆ ก็มีเจ้าของตำแหน่งอยู่หมดแล้ว ดังนั้นอลีสซงคงไม่ต้องดิ้นรนอะไร และยังไม่ต้องรีบไปขุดทองที่ซาอุฯ ด้วย ใจผมในฐานะแฟนบอลอยากให้อาลีขยายสัญญาเพิ่มด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหล่ะ ถ้าคิดในมุมมองผู้บริหารมันก็เข้าใจได้เหมือนกรณีฟาน ไดค์ และซาลาห์ ดังนั้นอาจจะรอดูฟอร์มของเขาปีหน้าค่อยว่ากันไม่ต้องรีบร้อน ตราบที่อลีสซงเป็นมือหนึ่งขุมกำลังตำแหน่งนี้ยังนับว่าอยู่ในเกรด A+
กองหลัง : ฟาน ไดค์, เทรนต์, โกนาเต้, โกเมซ, โรเบิร์ตสัน, แบรดลีย์, ซิมิกาส, ควอนซาห์
ณ จุดนี้ผมอนุมานว่าฟาน ไดค์อยู่ต่ออีกสองปี และเทรนต์ย้ายออก แต่ตราบเท่าที่ไม่มีประกาศทางการผมก็หวังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับเคยอยู่ในเหตุการณ์เจอร์ราร์ดเปลี่ยนใจ ผมว่าหลายคนจำวันนั้นได้ดี หากใครอยู่ในเหตุการณ์มันรู้สึกเหมือนได้แชมป์ แต่ส่วนนี้สมมติฐานคือเทรนต์ย้ายออกไป
โกนาเต้เหลือสัญญาอีก 1 ปี จุดนี้ถือว่าอันตราย และในวัย 25 ปี ตามเหตุผลยังไงก็ไม่ควรเสียเขาไปฟรีๆ (กรณีของเทรนต์ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ FSG ทำได้ไม่ดี ไม่ว่าคุณจะเชียร์หรือไม่เชียร์เจ้าของทีม แต่ส่วนนี้ต้องยอมรับกับการปล่อยให้เทรนต์มาถึงจุดนี้)
มีข่าวต่อเนื่องระยะหลังว่าโกนาเต้ได้รับความสนใจจากเปแอสเช และหลายทีม ตรงนี้ต่างจากฟาน ไดค์ กับซาลาห์ค่อนข้างมาก แม้เขาจะเข้าสู่ช่วงที่เจรจากับทีมอื่นๆ ได้ แต่มันเงียบมากๆ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ก่อนมีความชัดเจนว่าทั้งคู่อยู่ต่อ
นอกจากนี้กับการเรียกร้องค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น จริงๆ มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลในวัยของโกนาเต้ แต่ลิเวอร์พูลต้องคิดให้ดีกับรายจ่ายที่สูงขึ้น และเทียบกับจำนวนเกม มาตรฐาน และการบาดเจ็บของโกนาเต้
ลิเวอร์พูลต้องหาเซนเตอร์ฮาล์ฟเพิ่มแน่ๆ ไม่ว่าโกนาเต้จะอยู่หรือไป ส่วนโรเบิร์ตสันที่เหลือสัญญาอีกปีเดียว แฟนบอลน่าจะคิดตรงกันว่าเขาอาจจะไม่ได้ต่อสัญญาหลังฉบับนี้อีกแล้ว อย่างไรก็ตามนี่ยังถือว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่ต้องเร่งเท่ากับการหาเซนเตอร์
จะดีมากถ้าลิเวอร์พูลได้เซนเตอร์ถนัดซ้าย หรือแบ็กซ้ายที่เล่นเซนเตอร์ได้จะลงตัวพอดี ส่วนร็อบโบ้น่าจะมีเวลาอีก 1 ฤดูกาลในการสู้เพื่อสัญญาใหม่ ที่อาจจะต้องลดค่าเหนื่อยลง หรือฤดูกาลหน้าอาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้าย แม้แต่ซิมิกาสอาจจะได้โอกาสเป็นตัวจริง หรือทางเลือกอีกทางคือซื้อใหม่ ซึ่งเป็นอีกตำแหน่งที่ลิเวอร์พูลมีข่าวมาตลอด
ด้านขวา ลิเวอร์พูลต้องขึ้นค่าเหนื่อยในแบรดลีย์กับเวลาสัญญาที่เหลือสองปีเศษ แม้ว่าเขาจะมีการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่ถ้าลิเวอร์พูลเสียเทรนต์จะต้องการความมั่นคงตรงนี้ นอกจากนี้ความจริงถ้าเทรนต์ชัดเจนว่าย้าย เผลอๆ จำเป็นต้องหาแบ็กขวาเพิ่มมากกว่าซ้ายด้วยซ้ำ
โกนาเต้รับอยู่ 70,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ถ้าขึ้นไปหลักแสนต้นๆ คงจะรับได้ แต่ข่าวบอกต้องการสองแสน อันนี้ผมว่าหาจุดตรงกลางน่าจะไม่ยากเกินไป แต่ถ้าต้องปล่อยจริงๆ ก็ไม่ควรรอจนซัมเมอร์หน้า กรณีแบรดลีย์ก็ควรได้มากกว่า 1 หมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์แล้ว และนั่นแปลกว่าระยะเวลาก็น่าจะเพิ่มไปด้วย
โกเมซคงต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกหลายปี แต่ควอนซาห์ที่อนาคตไม่แน่นอน ลิเวอร์พูลไม่จำเป็นต้องรีบขาย เพียงแต่ยิ่งเล่นก็ทำให้คิดถึงเวส บราวน์ในยุคผีรุ่งเรืองแบบนี้น่าหนักใจจริงๆ แต่ก็มีข่าวมาตลอดว่าอาร์เน่อมองเขาเป็นอนาคตของทีม ดังนั้นผมคิดว่าควอนซาห์น่าจะอยู่ต่อ และมีก็ยังนับว่าดีกว่าไม่มี หวังว่าเขาจะพัฒนาต่อไปได้ แต่ซัมเมอร์นี้แนวรับต้องมีอย่างน้อย 2 คนย้ายเข้ามา และอาจจะต้องมากกว่านั้นกรณีเสียโกนาเต้
กับแนวโน้มนี้ แผงหลังถือเป็นตัวแปรสำคัญจริงๆ ในตลาดนักเตะครั้งต่อไปที่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะด้วยอายุฟาน ไดค์ กับร็อบโบ้ที่มากขึ้น กำลังเสริมต้องเพียงพอ แบ็กขวาอีกตัวอาจจะไม่จำเป็นต้องสร้างสรรค์เกมระดับเทรนต์ แต่ต้องช่วยเกมรับให้ดีกว่า เพราะเรามีแบ็กที่บุกได้ดีอย่างแบรดลีย์อยู่แล้ว
ดังนั้นจุดนี้เหวี่ยงมากตั้งแต่ A- ถึง A+ เลยทีเดียว แต่อย่างน้อยถ้าเหลือฟาน ไดค์เป็นแกน โอกาสจะแย่ลงฮวบๆ ยังน้อย แต่จะดีแค่ไหนอยู่ที่การเสริมทัพจริงๆ
กองกลาง : เอ็นโด, โซบอสไล, แม็ค อัลลิสเตอร์, เอลเลียตต์, โจนส์, กราเฟนแบร์ก, มอร์ตัน
นี่คือจุดที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่แล้ว และแทบไม่ต้องทำอะไรในฤดูกาลต่อไปมากนัก เพราะเกิดการผลัดใบในฤดูกาลสุดท้ายของคล็อปป์มาก่อน แถมทุกคนมีสัญญา 2 ปีขึ้นไป
โจนส์, เอลเลียตต์ และเอ็นโดอยู่ในกลุ่มที่เหลือ 2 ปีเศษ ถ้าในเรื่องความผูกพันธ์ก็หวังว่าชล็อตจะกล่อมให้ทุกคนอยู่ต่อได้หมด แต่หากเอ็นโด หรือเอลเลียตต์ย้ายออก เพราะโอกาสลงสนามน้อยแบบนี้มันก็เข้าใจได้ แฟนบอลคงไม่บ่นอะไร นอกจากเสียดาย
โซบอสไล, กราเฟนแบร์ก และแม็ค อัลลิสเตอร์คือแผงกองกลางที่สม่ำเสมอที่สุดในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ โดยโจนส์เป็นอีกคนที่ได้ลงค่อนข้างเยอะ โจนส์มีข่าวว่าต้องการขึ้นค่าเหนื่อย ซึ่งก็เข้าใจได้จากตัวเลขที่น้อยกว่านักเตะต่างชาติจริงๆ เพียงแต่เทียบกับ 3 ตัวหลัก จากข่าวเอเย่นต์ก็ดูต้องการมากไป
โจนส์รับค่าเหนื่อย 15,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และเขาควรได้รับมากกว่านี้ ตรงนี้ชัดเจนมากในฐานะเด็กท้องถิ่น แต่ก็ไม่ควรมากเกินไป เพราะต้องขึ้นทุกคนรายจ่ายของสโมสรก็ไม่ไหวได้เหมือนกัน
เพียงแต่ถ้าสมมติว่าเสียเทรนต์ที่รับเกือบสองสองปอนด์ไป ก็จะมีช่องไปเกลี่ยให้คนอื่นได้อยู่แล้ว บางทีมันก็ไม่ได้แย่นัก เพราะสโมสรปรับโครงสร้างตรงนี้มาตลอดตั้งแต่ทะยอยปล่อยมาเน่, ฟีร์มิโน่, ฟาบินโญ่, เฮนโด้มาก่อนแล้ว
ต้องดูว่าเอลเลียตต์ กับเอ็นโดอยู่ต่อหรือไม่ แต่ภาพรวมไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากในแดนกลาง จะซื้อเข้าต่อเมื่อมีย้ายออก แต่การไม่ใช่ตำแหน่งในโฟกัสนี่แหล่ะ จะทำให้ลิเวอร์พูลเซอร์ไพรส์ซื้อนักเตะในตำแหน่งนี้ได้ง่ายกว่า เพราะสโมสรที่ต่อรองไม่สามารถต่อรองได้มาก
ลองคิดว่าตอนนี้ถ้าลิเวอร์พูลไปเจรจาแบ็กขวาทีมไหน สโมสรอื่นๆ โก่งได้เต็มที่เลยเพราะรู้สถานการณ์ของเรา แต่จริงๆ กองกลางก็เป็นตำแหน่งที่มองเผื่อไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ขุมกำลังตอนนี้อยู่ในระดับ A อยู่แล้ว
กองหน้า : ซาลาห์, เคียซ่า, นูนเญซ, โชต้า, คักโป, ดิอาซ
เมื่อโมต่อสัญญา ฤดูกาลหน้าไม่มีใครอยู่ในสัญญาปีสุดท้ายเลย เป็นตำแหน่งที่ไม่ได้ต้องรีบ แต่กลายเป็นว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด
เคียซ่าที่โอกาสลงสนามน้อยขนาดนี้ ว่าตามจริงถ้าอยู่ต่อนับว่าแปลก แม้จะชื่นชอบ และเชียร์มากๆ แต่เล่นได้ หรือไม่ได้เล่นตอนนี้ยังไม่รู้สถานการณ์เลย คงต้องทำใจว่านักเตะอิตาลีมักจะอยู่กับลิเวอร์พูลแค่ปีเดียว แต่ระดับแสนห้าของเคียซ่า การจะหาทีมใหม่อาจจะติดตรงนี้นิดหน่อย ใจน่ะอยากให้อยู่ต่อ แต่ตรงนี้ต้องอยู่ที่ชล็อตทำไงได้
นูนเญซเป็นอีกคนที่น่าหนักใจจริงๆ กับผลงาน และตำแหน่ง เทียบกับโชต้าที่ชล็อตดูจะชอบมากกว่า ถ้าสมบูรณ์จะได้ลงสนามก่อนแน่ๆ รวมไปถึงคักโปที่เหลือสัญญาอีกนาน และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่อีกคนที่เก็งกันว่ามีโอกาสย้ายออกสูงคือ ลุยส์ ดิอาซ ที่ดูจะอยากไปเล่นในสเปน แถมไม่พอทีมจากซาอุฯ ก็ต้องการ และนักเตะโคลอมเบียก็หวังจะได้ค่าเหนื่อยแบบก้าวกระโดด เพราะตอนนี้รับกับลิเวอร์พูลประมาณ 5 หมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น เทียบกับคนอื่นๆ นับว่าน้อยจริงๆ สำหรับตัวรุก
ทางออกแรกน่าจะเป็นการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งกับ 2 ปี FSG อาจจะไม่เร่งทำอะไร ไม่นับว่าดิอาซดูจะเป็นนักเตะที่ขายง่าย มีทีมให้ความสนใจแน่ๆ มากกว่ารายอื่นๆ
ผมไม่ติดถ้าเขาอยู่ต่อ สไตล์เขาก็ต่างจากตัวรุกคนอื่นๆ ในทีม และพอหวังได้ มีความน่าตื่นตาตื่นใจในการเล่น ทุ่มเท ในวัย 28 ปีกับสัญญาสองปี เอะอะจะขึ้นค่าเหนื่อยให้ทุกคนก็คงไม่ถูก
ถ้าขายได้ราคา ดิอาซ, นูนเญซ และแม้แต่โชต้าอาจจะต้องพิจารณา แต่จะไปหมดหลายๆ คนก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี แต่อย่างน้อยต้องมีออก 1 คนแน่ๆ ซึ่งว่าตามตรงจากการใช้งาน เคียซ่าคงเป็นคนที่ย้ายออกแล้วทีมเจอผลกระทบน้อยที่สุด
แต่การที่โมอยู่เป็นแกนหลักก็พอทำให้อุ่นใจได้ อยู่ที่ว่าลิเวอร์พูลจะตัดใจปล่อยใครไปบ้าง หรือใครได้รับความสนใจ
บางทีมันเข้าใจได้เลยว่าการที่เทรนต์ออกไปพร้อมกับลดค่าเหนื่อย 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มันสามารถนำมาจ่ายให้คนอื่นเพิ่มได้หลายคน (เพิ่มให้โจนส์กับแบรดลีย์ได้หลายเท่า) และถ้าเราจะเจรจากับเทรนต์มันไม่ง่ายเลย
การจะจ่ายให้แบ็กขวามากขึ้นไปอีก ทุกสโมสรในโลกอาจจะไม่พร้อมจ่าย แม้แต่มาดริดเองยังไม่จ่ายมากระดับนี้ พวกเขาได้เปรียบกรณีเซ็นฟรีเท่านั้น แต่ลิเวอร์พูลจู่ๆ จะเพิ่มให้เทรนต์ไปอีกเยอะๆ มันก็ยาก
ที่เอาภาพรวมมาเขียน จะเห็นว่าลิเวอร์พูลต้องการกองหลัง และกองหน้าเพิ่ม น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระดับ 5-6 ตำแหน่งได้เลย ซึ่งค่อนข้างเยอะ แต่ทีมตัวจริงสุดท้ายไม่น่าจะเปลี่ยนเกิน 4 ตำแหน่ง เผลอๆ อาจจะแค่ 1-2 เท่านั้น ผลกระทบอาจจะไม่เยอะมาก ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป
ยกตัวอย่างถ้าเกิดต้องขาย โกนาเต้, ดิอาซ, นูนเญซ ปล่อยทั้งเคียซ่า, เอลเลียตต์ ไปจนถึงเอ็นโด ก็แทบจะพูดได้ว่าปรับแค่เซนเตอร์ฮาล์ฟ กับแบ็กขวา(ซึ่งจริงๆ แบรดลีย์ก็นับว่าเล่นตัวจริงได้อยู่แล้ว) ซึ่งถ้าขายทั้งเคียซ่า, ดิอาซ โชต้าก็น่าจะอยู่ต่อ หรือยังมีคักโปอยู่
ภาพรวมแล้วต่อให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายแบบแรงๆ ครึ่งโหลก็ไม่ได้ส่งผลอะไร หรือถ้าค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปปีละ 3-4 คนน่าจะเป็นจุดกำลังดี ไม่กระเทือนระบบการเล่นเท่าไหร่
6 นัดที่เหลือ นอกจากลุ้นให้แต้มขาด บางทีอาจจะเป็นเกมสุดท้ายของนักเตะบางคนในสีเสื้อลิเวอร์พูลให้เราจดจำ และสุดท้ายชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ที่แน่ๆ โครงสร้างที่ลิเวอร์พูลวางไว้ดูดี ดูสดใส จงเชื่อเถอะ ลองมองจากมุมมองแฟนบอลทีมอื่นๆ ดูจะยิ่งเห็นชัด
มีทีมที่ปวดหัวกว่าลิเวอร์พูลเยอะ ไล่ดูจากอันดับในตารางลงไปก็ได้...
จินตะปัญญา
#LFC #SALAH #DIAZ #NUNEZ
โฆษณา