17 เม.ย. เวลา 16:38 • กีฬา

ทำไมลิเวอร์พูลถึงฟอร์มตกช่วงปลายซีซั่น?

You’ll Never Walk Alone…
วลียอดฮิต ที่ช่วงปลายซีซั่นเหล่า The Kop ต้องใช้กันบ่อยเหลือเกิน TT เพราะช่วงนี้ทีมลิเวอร์พูลฟอร์มตกลงมากแบบน่าใจหายจริงๆหากเทียบกับฟอร์มช่วงที่ผ่านมาในช่วงต้นซีซั่น แต่สุดท้ายจากคะแนนที่ยังค่อนข้างห่าง กับฟอร์มที่ไม่ค่อยนิ่งของทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์ปีนี้อย่างอาร์เซน่อล ซึ่งต้องไปพะวงกับเกมส์ UCL ที่ดูแล้วไปลุ้นถ้วยนั้นยังได้ลุ้นซะกว่าอีก ทำให้สุดท้ายแล้วทีมลิเวอร์พูลคงเข้าเป้าคว้าแชมป์ลีกในท้ายที่สุด
ช่วงหลังผมนี้เห็นแฟนหงส์บางคนไปสาปแช่งนักเตะบ้าง ตำหนิอาร์เน่ สล็อตบ้าง ตำหนิแบบไม่ลืมหูลืมตากันเลยทีเดียว อะไรครับเนี่ยย
สาเหตุที่ฟอร์มตกลงแบบนี้มันไม่ใช่เพราะนักเตะคนใดคนนึง หรืออาร์เน่ครับ เอางี้ในฐานะที่ผมเป็นแฟนหงส์มานมนาน เลยขอวิเคราะห์สาเหตุที่ทีมรักของเราฟอร์มตกซะหน่อย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัว จากแฟนหงส์คนนึงนะครับ บางคนอาจจะไม่เห็นด้วย อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับผม :))
Liverpool Team
1. ตั้งแต่อาร์เน่ สล็อตเข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล ต้องยอมรับว่าที่ทางบอร์ดเลือกอาร์เน่เข้ามาแทนที่เจอร์เกน คล็อปป์ คงเพราะต้องมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน นั่นก็คือสไตล์การทำทีมนั่นเอง อย่างที่เราทราบสไตล์ฟุตบอลของคล็อปป์ เป็นแบบ Heavy Metal หรือที่เราเรียกว่า “Gegenpressing” คือเป็นการเล่นที่ต้องใช้พละกำลังอย่างมหาศาล เพราะต้องใช้การวิ่งบีบคู่แข่งแทบตลอดเวลา หลักการคือเสียบอลแล้วต้องรีบแย่งบอลกลับมาให้ได้ภายใน 5-7 วินาที และบุกต่อ!! นั่นหละครับบอลสไตล์คล็อปป์
Gegenpressing
ย้อนกลับไปสมัยของเจอร์เกน คล็อปป์ เราจะเห็นว่าตั้งแต่คล็อปป์เข้ามา และเริ่มนำสไตล์การเล่นแบบนี้มาใช้กับทีม สถิติก็ออกมาอย่างค่อนข้างชัดเจนครับ ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา (คล็อปป์เข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2015 และปรับทีมมาเรื่อยๆ) ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีสถิติที่เรียกว่า “Sprint” หรือการวิ่งเร็วในระยะสั้นมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก แถมนักเตะของเรายังติดอันดับ Top4 ของนักเตะ Top Sprint ของลีกถึง 3 คนอีกด้วย นั่นก็คือ ซาลาห์, มาเน่ และโรเบิร์ตสัน ซึ่งก็อย่างที่เราเห็นนะครับ 3 คนนี้วิ่งยังกะม้า ฮาๆๆ
2. ด้วยการใช้พละกำลังมหาศาลในการวิ่งไล่ Pressing แบบนี้ เป็นระยะเวลาติดต่อกันถึง 4-5 ปี ก็แน่นอนครับ นักเตะกรอบแน่นอน ประกอบกับนักเตะตัวหลักของทีมอย่าง ซาลาห์, มาเน่ และโรเบิร์ตสัน ก็อายุอานามแตะ 30 กันแล้ว จะว่าไป อายุ 30 ยังดูไม่เยอะมากนะครับสำหรับพวกเรา แต่สำหรับนักฟุตบอลถือว่าอายุเริ่มเยอะแล้ว
โดยรายหลังสุดอย่างโรเบิร์ตสันนี่ ออกทะเลอย่างเห็นได้ชัดเจนมากก ปวดเฮด
เพราะพวกเด็กดาวรุ่งที่เราเห็นกันหนะ บางคนอายุยังไม่ถึง 20 เลยนะครับ
นั่นหละครับด้วยอายุที่มากขึ้น และการวิ่งที่ต้องใช้พลังเยอะกว่าปกติ ทำให้นักเตะกรอบ ส่งผลให้เจ็บง่ายขึ้น โดนปะทะนิดๆหน่อยๆก็เจ็บแล้ว แถมเจ็บนานอีกด้วย บางทีแค่ซ้อม Routine กันในสนามซ้อมก็เจ็บแล้วหละครับ
3. ลิเวอร์พูลแพ้ภัยด้วยความเก่งกาจของตัวเอง.. ด้วยความที่ลิเวอร์พูลในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ต้องเรียกว่าฟอร์มดีมาก ลงแข่งขันทุกถ้วย เข้ารอบลึกเกือบทุกถ้วย ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือจำนวนตารางการแข่งขันก็จะมากขึ้นไปด้วย บางปีพี่เล่นจะลุ้นแชมป์ถึง 4 ถ้วย!! แข่งแบบทะลุถึงนัดชิงกันทุกถ้วย ทั้ง FA Cup, Carabao Cup และ UCL
รวมถึงบอลลีกก็แข่งกันจนต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้าย ทำให้ต้องแข่งกันมากถึง 60 กว่านัดไปปีนั้น มากกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า แถมต้องเล่นแบบ Pressing สุดโหด โอ้โห นึกภาพออกมั้ยครับ คนนะครับไม่ใช่หุ่นยนต์ ร่างกายมันก็ต้องอ่อนล้าหละครับ
นักเตะตัวหลักที่ลงสนามจากสถิติจะเห็นได้เลยว่า นักเตะบางคนเตะกันมากกว่า 50 นัดต่อฤดูกาลกันเลยทีเดียว นั่นหละครับ เตะเยอะป๊ายยย.
Liverpool games in season 2021/2022
4. ปัญหาโครงสร้างทีมของลิเวอร์พูล อย่างที่เราทราบขุมกำลังของทีมเรา ถ้าดูเฉพาะตัวหลักเราสู้กับทีมไหนก็ได้ แต่ตัวสำรองที่จะมาทดแทนตัวหลักในระยะยาว มันยังทดแทนกันไม่ได้!! ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ทำให้เราจะเห็นว่านักเตะตัวหลักต้องลงเตะซ้ำๆกันอยู่นั่น ยิ่งถ้าเข้ารอบลึกๆ เจอทีมใหญ่ๆ หันไปดูทีมสำรองก็ก่ายหน้าผากครับ จะเอาลงก็ไม่ไหว ก็เลยต้องเข็นพวกทีมชุดใหญ่ที่ถามว่าร่างกายฟิตกันมั้ย ก็คงไม่เต็มร้อย แต่ก็ต้องลง เพราะมันจำเป็นนั่นหละ!!
อันนี้ก็เป็นจุดนึงที่ทีมลิเวอร์พูลคงต้องรีบคิดและหาวิธีแก้ไขโดยด่วน นั่นก็คือเรื่องของโครงสร้างทีมนี่หละครับ เพราะดูทีมสำรองของทีมคู่หลักในช่วงหลังมานี้อย่างแมนซิตี้แล้ว จัดมาอีกทีม สงสัยจะมาลุ้นแชมป์กับเค้าด้วย ฮาๆ ประกอบกับตอนนี้ลีกเราไม่ใช่มี Big Four ละนะครับ ตอนนี้จะเป็น Big Eight แล้วหละครับ ถ้า Rotation กันไม่พอ ยืนระยะไม่ไหวแน่นอนครับ
Premier League Big Six era is over
5. อาร์เน่ต้องพยายามซื้อนักเตะเข้ามาใหม่เพื่อเสริมทีมให้มากขึ้น และควรต้องเน้นนักเตะที่อายุน้อยๆ เพราะระบบ Pressing มันต้องใช้พละกำลังเยอะนั่นเอง และอีกเรื่องคือเรื่องทัศนะคติ นักเตะที่เน้นลีลา ไม่ชอบวิ่ง ไม่เล่นเป็นทีม อันนี้ไม่เอานะครับ เพราะเข้ากับระบบเราไม่ได้แน่นอน อย่างที่ผ่านมาที่เราเห็นก็คือ ดิอาซ ที่อันนี้ก็วิ่งแบบพลังใบมาก ฮาๆ จนบางทีก็สงสัยว่าน้องเค้าโดนตัวไหนมารึป่าว
รวมถึง นูนเยซ, กักโป ก็จะเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่ม ความไวจัดๆทั้งนั้น เพราะเข้ากับระบบของเราแน่นอน ปีนี้กักโปถือว่ากลับมาท็อปฟอร์มได้ดีเลยทีเดียว ยิงหลายๆนัดติดต่อกัน แต่น้องนูนเยซนี่ ใจนึงก็เชียร์น้องมันนะ แต่เหมือนจะลุ้นยากจริงๆเลย TT
นอกจากนั้นยังมีกราเฟ่นแบร์ค ที่ปีนี้ฟอร์มดีจัด, โซบอสไลน์, แมคอลิสเตอร์ ที่แทบจะเป็นหัวใจแดนกลางของทีมเราไปแล้ว
แต่สิ่งนึงที่ต้องเฝ้าระวังคือ เด็กหนุ่มพวกนี้จะทยอยเจ็บกันไปอีก เพราะด้วยระบบแบบ Pressing พี่ๆเพื่อนร่วมทีมที่อายุมากขึ้นก็เริ่มจะไม่ไหว ทำให้เด็กหนุ่มพวกนี้เลยต้อง Pressing หนักกว่าปกติเพื่อแบกทีมให้ได้ กลายเป็นเล่นโดยใช้พลังมากเกินพอดี ส่งผลให้มีโอกาสเจ็บมากขึ้นไปอีกครับ
Luis Diaz, Darwin Nunez and Cody Gakpo
6. ตัวคล็อปป์และทีมงานเองก่อนหน้านี้ ก็ไม่ใช่ไม่ทราบว่าการเล่นด้วยระบบแบบนี้ จะทำให้นักเตะเหนื่อยมากและมีโอกาสเจ็บสูง ตั้งแต่คล็อปป์เข้ามาได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งองค์กร หรือระบบหลังบ้านใหม่ทั้งหมด เพื่อให้รองรับกับเรื่องนี้ โดยได้มีการหาทีมแพทย์ที่เก่งๆเข้ามาในทีม ทีมกายภาพบำบัด ทีมฟื้นฟู โค้ชฟิตเนต รวมถึงทีมโภชนาการ ทุกอย่างถูกวางไว้หมดแล้วตั้งแต่สมัยคล็อปป์
จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้ทีมเรายังคงรักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดี ปัญหาการบาดเจ็บไม่มากเหมือนปัจจุบัน ประกอบกับนักเตะตัวหลักอายุก็ยังไม่เยอะมากด้วย ทำให้ยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองครับ
7. ทีมใหญ่ๆทุกทีมก็เคยผ่านจุดนี้มากันหมดครับ ไม่มีทีมไหนที่จะประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ตลอดไป อยู่ที่ว่าใครจะวางแผน รีบปรับโครงสร้างและแก้ไข ซึ่งใครทำได้ไว ก็จะสามารถกลับมาได้ไวมากขึ้นเท่านั้น เพราะมันจะมีช่วงที่เรียกว่า เปลี่ยนถ่ายนักเตะ หานักเตะใหม่เพื่อมาทดแทนนักเตะเก่าที่เริ่มโรยราขึ้นไปทุกวัน
ซึ่งเราก็สามารถเห็นได้จากทีมเพื่อนรักเราอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก็มีช่วงที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ห่างหายจากความสำเร็จไปช่วงนึงเหมือนกัน จากรุ่น รอยคีน, พอล สโคล์, ไรอัน กิ๊ก ทางเซอร์ได้มีการเปลี่ยนถ่ายโดยการพา CR7 คริสเตียโน่ โรนัลโด้, รูนี่ย์ เข้ามา ใช้การปรับจูนกันอยู่ซักพัก สุดท้ายก็กลับมาผงาดคว้าแชมป์ และกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนเดิมครับ
Wayne Rooney won three Premier League titles and the Champions League alongside Ronaldo at Manchester United
เอาหละครับ ทั้งหมดทั้งมวลก็คือการวิเคราะห์ทีมรักลิเวอร์พูล จากแฟนหงส์ตัวเล็กๆคนนึง ฮาๆ ผมเริ่มดูลิเวอร์พูลมาตั้งแต่สมัย จอห์น บราน, สตีฟ แมคมานามาน, สแตน คอลลี่มอร์
โอ้โห บ่งบอกถึงอายุมากเลยนะครับ ฮาๆๆ และนัดที่ทำให้เริ่มเชียร์ลิเวอร์พูล คือนัดที่ชนะนิวคาสเซิ่ล 4-3 ถ้าใครรุ่นเดียวกัน รับรองว่าจำได้แน่นอนครับ
ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาแบบนี้ ถ้าหากไม่แก้ก็จะเป็นแบบนี้ไปทุกๆฤดูกาล หรืออาจจะไม่ได้ลุ้นแชมป์กันไปเลยก็ได้ ทางนักเตะและอาร์เน่ทำกันเองไม่ได้ครับ ทีมบอร์ดบริหารต้องสนับสนุนด้วย ต้องกล้าลงทุน กล้าซื้อนักเตะใหม่ๆ ที่จะนำมาทดแทนนักเตะชุดเดิม และทีมของเราจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งแน่นอนครับ
ผมเข้าใจว่าอาร์เน่ เข้าใจและรู้ปัญหาทุกอย่างในทีมลิเวอร์พูล โดยน่าจะได้รับการส่งต่อจากตำนานอย่างเจอร์เกน คล็อปป์ ที่เป็นคนที่รู้จักทีมนี้ดีที่สุด เพราะเค้าเป็นคนสร้างทีมนี้ขึ้นมากับมือนั่นเองครับ
สุดท้ายนี้นะครับ ถ้าทีมบริหารพวก FSG ไม่ให้เงินอาร์เน่มาเสริมทีมใหม่นะ
ผมว่าไล่พวกพี่ออกไปนี่หละครับ น่าจะเหมาะสมกว่า ฮาๆๆ
แล้วทุกคนคิดว่าลิเวอร์พูลจะยืนระยะลุ้นแชมป์ไปตลอดแบบนี้ได้หรือไม่ครับ เป็นสิ่งที่น่าติดตามมากเลยทีเดียวครับผม :))
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกด Like กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊าบ ❤️
You’ll Never Walk Alone
LIVERPOOL TO THE MOON
#liverpool #premierleague #arneslot #jurkenklopp
โฆษณา