19 เม.ย. เวลา 05:41 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

รู้หรือไม่​ ❓❓ (ตอนที่​ 2​ จบ)​

ตึกในไทยต้องรับมือแผ่นดินไหว​🏢​ระดับไหน! มุมมองวิศวกรรมที่ทุกคนควรรู้​📈🗾📊
ตอนที่​ ▪️▪️◾0️⃣2️⃣ (จบ)​
สร้างอาคารให้ยืดหยุ่น... ไม่ใช่แค่แข็งแรง
โครงสร้างที่ดี ไม่ต้องชนะธรรมชาติ
แต่ต้องอยู่รอดให้ได้
||||||||||||¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦||||||¦¦¦¦¦|||||||||¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦||||¦¦||||¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦|||||||¦¦¦|||||¦|
ก่อนไปต่อ​ ลองทดสอบความเข้าใจเดิม
Quiz ⁉️.👇👇👇
(ตอนที่​ 0️⃣1️⃣)​▪️▪️◾
เจาะลึกพฤติกรรมอาคารกับภัย
แผ่นดินไหวในไทย แบบเข้าใจง่าย ‼️
|||||||||||¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦||||||¦¦¦¦¦|||||||||¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦||||¦¦||||¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦¦|||||||¦¦¦|||||¦|||
การออกแบบอาคารต้านแผ่นดินไหว
จากตึกแข็งสู่ตึกเหนียว​ 🏢 〰️ 🌇🌉
ในโลกที่แผ่นดินไหวแสดงพลังอันยากหยั่งถึง
การออกแบบอาคารให้ต้านทานภัยพิบัติกลายเป็นภารกิจหลักของวิศวกรรมโครงสร้าง ไม่เพียงเพื่อปกป้องตัวอาคาร แต่เพื่อรักษาชีวิตของผู้อยู่อาศัย แนวคิดการออกแบบอาคารต้านแผ่นดินไหวได้พัฒนาจากการเน้นความแข็งแกร่งสุดขั้ว สู่การยอมรับความยืดหยุ่น เปลี่ยนจาก “ตึกแข็ง”
ที่ยืนหยัดต้านแรง ไปสู่ “ตึกเหนียว”
ที่รู้จักปรับตัวเพื่อรอดพ้นภัยพิบัติ
จากตึกแข็ง (Rigid) สู่ตึกเหนียว (Ductile)
วิวัฒนาการของการออกแบบ ▪️▪️◾◼️
ในอดีต อาคารถูกออกแบบให้แข็งแรงด้วยเสาและคานขนาดใหญ่ เสริมเหล็กจำนวนมาก เพื่อต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวหรือแรงลม โดยไม่ให้เกิดการสั่นไหวหรือเอนตัว แนวทางนี้เหมาะกับแรงสั่นสะเทือนระดับเล็กถึงปานกลาง แต่มีข้อจำกัดสำคัญ เมื่อแรงเกินกว่าที่โครงสร้างรับได้ อาคารจะไม่สามารถกระจายพลังงาน และอาจพังถล่มทันที
ความแข็งแกร่งที่เคยเป็นจุดเด่นจึงกลายเป็น
จุดอ่อน อาคารแบบนี้มักพบในโครงสร้างเก่าก่อน
ปี​ พศ. 2550​ ซึ่งยังไม่นำแนวคิดความยืดหยุ่น
มาใช้อย่างจริงจังหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
หลายครั้งทั่วโลก
🔘 วิศวกรเริ่มตระหนักว่า การออกแบบให้อาคาร
มีความ “เหนียว” หรือยืดหยุ่น จะช่วยให้รับแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่า โดยโครงสร้างหลักยังคงมั่นคง
แม้บางส่วนอาจเสียหายเล็กน้อย แนวคิดนี้ถูกพัฒนาและนำมาใช้ในกฎหมายควบคุมอาคาร
ของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.​ 2550
อาคารรุ่นใหม่จึงเน้นการดูดซับและกระจายพลังงานจากแผ่นดินไหว แทนการต้านแรงอย่างแข็งทื่อ
เสาและคานถูกออกแบบให้ยืดหยุ่น เหล็กเสริม
จัดวางให้เสียรูปได้โดยไม่พังทั้งหมด ผลคือ
อาคารสามารถเอนตัวและสั่นได้อย่างปลอดภัย
ชิ้นส่วนรอง เช่น ผนังหรือฝ้า อาจมีรอยร้าว แต่โครงสร้างหลักยังคงแข็งแรง ▪️▪️◾
💢เป็นเป้าหมายหลัก​ เพื่อรักษาชีวิต💢
ตึกแข็งและตึกเหนียว​ 🏢🌇🌉
ความแตกต่างที่มองไม่เห็น​ 〰️〰️〰️
จากภายนอก อาคารทั้งสองแบบอาจดูคล้ายกัน เพราะมักใช้คอนกรีตเสริมเหล็กเป็นวัสดุหลัก แต่ความแตกต่างซ่อนอยู่ในรายละเอียดการออกแบบและการจัดวางเหล็กเสริม ตึกแข็งพยายามต้านทุกการเคลื่อนไหว ขณะที่ตึกเหนียวเลือก “โอนอ่อนผ่อนตาม” ปล่อยให้โครงสร้างเคลื่อนตัวเล็กน้อยเพื่อสลายพลังงาน
วิศวกรคำนวณแรงที่อาคารอาจได้รับ และออกแบบให้โครงสร้างเข้าสู่ช่วง “Inelastic Behavior”
หรือช่วงเสียรูปถาวร ซึ่งโครงสร้างยืดตัวแต่
ยังไม่พัง ช่วยดูดซับพลังงานแผ่นดินไหว
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กราฟที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างแรงและการเคลื่อนตัวเผยว่า ตึกเหนียวมีพื้นที่ใต้กราฟมากกว่าตึกแข็ง หมายถึงความสามารถในการรับพลังงานที่สูงกว่าและโอกาสพังถล่มที่น้อยลง การเสียรูปนี้ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับปลอดภัย เช่น อาคารสูง 100 เมตร อาจเอนได้ 1.5–2.5 เมตรที่ยอดตึก โดยโครงสร้างยังมั่นคง การเอนตัวนี้ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นกลไกที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องอาคารและผู้อยู่อาศัย​
ความเหนียวแค่ไหน
ถึงเพียงพอ​ 🌉🌇〰️〰️🏢
คำถามสำคัญ.อาคารเหนียว
สามารถเอนตัวได้มากเพียงใด?
คำตอบขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดเสา
และคาน การจัดวางเหล็กเสริม การเชื่อมต่อโครงสร้าง และรูปทรงอาคาร อาคารสูงและผอมบางย่อมเอนได้มากกว่าอาคารเตี้ยและหนาที่ยึดสมดุล วิศวกรกำหนด “ค่าการเอนตัวสูงสุด” (Drift Limit) เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างจะไม่ถึงจุดวิบัติ
(Failure Point) ที่พังทลายลง
ในทางปฏิบัติ การเอนตัวของอาคารเหนียววัดได้ในระดับมิลลิเมตรต่อความสูงทั้งหมด อาจเป็นเพียง
ไม่กี่สิบเซนติเมตรในตึกสูงหลายชั้น แต่การเสียรูป
เล็กน้อยนี้ช่วยสลายพลังงานมหาศาล
กราฟแรง-การเคลื่อนตัวแบ่งพฤติกรรม
เป็นสามช่วง​ 📈📈 📉
📈 ช่วงยืดหยุ่น (Elastic)
อาคารสั่นเล็กน้อยแต่ไม่เสียหายถาวร
ดูเหมือนตึกแข็งในระยะแรก
📈 ช่วงเสียรูป​ (Inelastic)
โครงสร้างเริ่มยืดตัว อาจมีรอยร้าว
แต่ยังมั่นคง ช่วยสลายพลังงาน
📉 จุดวิบัติ (Failure)
เกินขีดจำกัดที่ออกแบบไว้ โครงสร้างพังทลาย
ตึกเหนียวถูกออกแบบให้อยู่ในช่วง Inelasticได้นานที่สุด โดยเสียหายเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นถล่ม เปรียบเหมือนการ “ยอมถอยหนึ่งก้าว” เพื่อรักษาความมั่นคงในระยะยาว
เทคโนโลยีเสริม​ 🏢🌇〰️〰️🌉
ลดแรง ลดรอยร้าว​ ▪️▪️◾
อาคารยุคใหม่มักติดตั้งเทคโนโลยีเสริม
เช่น ระบบแยกฐาน (Base Isolation)
ที่ช่วยให้อาคาร​ “ลอย” เหนือพื้นดินเล็กน้อย
ลดแรงสั่นที่ส่งถึงโครงสร้าง
หรือ ตัวหน่วงแรง (Damper)
ที่ดูดซับพลังงานคล้ายโช้คอัพรถยนต์
ระบบเหล่านี้ช่วยให้อาคารเหนียวไม่ต้องเสียรูปมาก และอาจไม่เกิดรอยร้าวเลย แม้เผชิญแรงสั่นสะเทือนรุนแรง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือตึกสูงในญี่ปุ่น
และไต้หวัน ใช้ระบบฐานลอยหรือลูกตุ้มถ่วง
ขนาดใหญ่ เพื่อให้อาคารโยกตัวตามจังหวะแผ่นดินไหวโดยไม่เสียความมั่นคง
ตึกไม่ร้าว ▪️▪️◾🌇🌉
แปลว่าแข็งหรือเหนียว​
หลังแผ่นดินไหว หากตรวจสอบอาคารแล้วไม่พบรอยร้าว ผู้คนมักคิดว่า “ตึกนี้แข็งแรงดี” แต่ในทางวิศวกรรม การไม่มีรอยร้าวไม่ได้บ่งชี้ว่าอาคารเป็นแบบแข็งหรือเหนียวเสมอไป อาคารเหนียวที่ออกแบบดีสามารถรับแรงสั่นสะเทือนระดับต่ำถึงปานกลางได้โดยอยู่ในช่วงยืดหยุ่น ไม่เสียรูปถาวร จึงไม่มีรอยร้าวปรากฏ นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น เช่น ระยะห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ชนิดของดิน หรือความถี่ของคลื่นสั่นสะเทือน ก็อาจทำให้อาคารไม่เสียหาย
‼️การประเมินที่แม่นยำต้องอาศัยข้อมูลวิศวกรรม
เช่น เอกสารการออกแบบหรือการตรวจสอบโดยวิศวกรโครงสร้าง เพราะบางครั้งรอยร้าวเล็ก ๆ
อาจซ่อนอยู่ในส่วนที่มองไม่เห็น เช่น คอนกรีตภายในหรือเหล็กเสริมที่เริ่มเสียรูป การไม่มี
รอยร้าวจึงเป็นสัญญาณที่ดี แต่ไม่ควรวางใจ
โดยไม่ตรวจสอบเชิงลึก​ ▪️▪️‼️‼️
บริบทประเทศไทย​ 🏢 🇹🇭ื🇹🇭
และการเตรียมพร้อม​ ▪️▪️◾
แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวหลักของโลก แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเราปลอดภัยจากภัยพิบัติประเภทนี้​ ดังที่ปรากฎในวันที่​ 28​ มีนาคม​ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตก​ และกรุงเทพ​มหา​นคร​ แม้จะอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว แต่กลับมีความเสี่ยงในลักษณะเฉพาะ เพราะตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน
มีคุณสมบัติในการขยายแรงสั่นสะเทือน ทำให้แรงที่อาคารรับรู้มีค่ามากกว่าความเป็นจริงหลายเท่า
🔘 ด้วยเหตุนี้ วิศวกรไทยจึงได้ปรับแนวทางการออกแบบอาคารให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของประเทศ โดยนำแนวคิด “ตึกเหนียว” หรืออาคารที่สามารถเสียรูปได้โดยไม่พังทลายมาใช้เป็นหลักสำคัญ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย ขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมงบประมาณการก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ไม่สูงเกินความจำเป็น
ในอนาคต การเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวของประเทศไทยจะได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เช่น ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันผ่านระบบ Internet of Things (IoT) ทำให้วิศวกรสามารถรับข้อมูลแรงสั่นไหวของอาคารในทันทีที่เกิดเหตุ และประเมินความเสียหายเพื่อนำไปสู่การวางแผนซ่อมแซมอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้จะมีเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น ระบบ Damper หรือ Base Isolation ที่ช่วยลดแรงกระแทกของแผ่นดินไหวและป้องกันรอยร้าวได้เกือบสมบูรณ์ แต่ด้วยต้นทุนที่สูงมาก​ เปรียบเทียบ​กับโอกาส​ที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงไทย​ เทคโนโลยีเหล่านี้จึงเหมาะสำหรับอาคารพิเศษ เช่น โรงพยาบาลหรือศูนย์ควบคุมวิกฤต ส่วนอาคารทั่วไปในประเทศไทย การออกแบบให้มีความเหนียวและยืดหยุ่นเพียงพอ
ถือว่าเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดทั้งในด้านความปลอดภัยและเศรษฐกิจ
การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหวก็สำคัญ
ไม่แพ้กัน หากอยู่ในอาคารที่ปลอดภัย
และไม่มีทางออกใกล้เคียง​ 🏢🏢
ควรยึดหลัก Drop Cover​ Hold▪️▪️◾
หมอบลง หลบใต้โต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์แข็งแรง
คลุมศีรษะ และยึดเกาะที่กำบังจนกว่าการสั่น
จะหยุด หลีกเลี่ยงการวิ่งหนีหรือใช้ลิฟต์
💢💢 ▪️◾ความเหนียวคือกุญแจสู่ความ
ปลอดภัยการออกแบยอาคารต้านแผ่นดินไหว
ได้ก้าวจากความแข็งแกร่งสู่ความยืดหยุ่น อาคารเหนียวที่รู้จักเอนตัวอย่างชาญฉลาด ช่วยดูดซับพลังงานและรักษาชีวิต แม้ต้องแลกด้วยความ
เสียหายบ้าง
เทคโนโลยีสมัยใหม่ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้
ระบบนี้ ขณะที่การไม่มีรอยร้าวหลังแผ่นดินไหว
ไม่ได้บ่งชี้ความแข็งหรือเหนียวเสมอไป การ
ตรวจสอบ.เชิงวิศวกรรมจึงจำเป็น
ในโลกที่ไม่อาจคาดเดาแผ่นดินไหวได้ การออกแบบอาคารที่ปลอดภัย การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และความรู้ในการรับมือ คือเครื่องมือที่ดีที่สุด อาคารเหนียวไม่เพียงเป็นโครงสร้าง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ที่ยอมโอนอ่อนเพื่อยืนหยัดผ่านภัยพิบัติได้อย่างมั่นคง​ ▪️▪️◾💢💢
ก่อนจากกัน​ 📝📝📝
ลองทดสอบความเข้าใจ​ 👇
ℹ️ หากบทความทึ่นำเสนอ​ เป็นประโยชน์บ้าง
ขออุทิศ​ให้แก่ประสบการณ์​ในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 28​ มีนาคม​ พุทธศักราช​ 2568
ที่ไม่อาจลืมเลือนผู้สูญเสีย​ ผู้อุทิศตน
บรรเทา สาธารณ​ภัยทุกท่าน​ A Broad Vot 🖋️
Source​▪️▪️▪️
กฎกระทรวง​ก้ำหนดการรับน้ำหนัก ควำมต้ำนทำน ความคงทนของอำคำร.และพ้นดินที่รองรับอาคาร
ในการต้านทำนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว
กรมโยธาธิการและผังเมือง (Department of Public Works and Town & Country Planning)
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Engineering Institute of
Thailand, EIT) www.eit.or.th
สภาวิศวกร (Council of Engineers)
เมื่ออาคารอยากต้านแผ่นดินไหว​
📕Earthquake Resistant Design of Structures
S.K. Duggal
➖➖➖➖➖➖➖226/2025​➖➖➖➖➖➖
บทบาทด้านไฟฟ้าในการทำความเข้าใจแผ่นดินไหว แรงแม่เหล็ก การสั่นพ้อง ในการออกแบบอาคาร⚡
ญี่ปุ่น กำลังจะเผชิญ 'แผ่นดินไหวครั้งใหญ่'
ที่กำลังจะมาถึงหรือไม่​ 🗾🗾 🌏
(ทำไมการ ทำนายแผ่นดิน​ไหวจึงเป็นเรื่องยาก 🔹)​
เผยความลับ supertall: 🏬🎢🏢
การออกแบบตึกที่สูงที่สุดในโลก​ ▪️▪️
โฆษณา