21 เม.ย. เวลา 11:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🪐📸Euclid กล้องโทรทรรศน์อวกาศ เปิดภาพปรากฏการณ์หายาก🌌✨

ใครว่านั่งมองฟ้าคงไม่เจออะไรใหม่? ลองส่องผ่าน “Euclid” กล้องโทรทรรศน์อวกาศสุดไฮเทคจาก European Space Agency (ESA) ดูก่อน แล้วจะรู้ว่า “จักรวาล” ยังมีอะไรที่ทั้งลึกลับและน่าทึ่งกว่าที่คิดไว้เยอะมาก!
ล่าสุด Euclid ได้ปล่อยภาพจากภารกิจสำรวจชุดแรกออกมาแล้ว ซึ่งบอกเลยว่า อลังการระดับหลุดโลกจริงๆ เพราะแค่ภาพจากพื้นที่ฟ้าเพียง 63 ตารางองศา (ฟังดูเล็ก แต่จริงๆ ใหญ่กว่าพื้นที่ของพระจันทร์เต็มดวงถึง 300 เท่า!) ก็ทำให้เราเห็น กาแล็กซีกว่า “ล้านแห่ง” ที่กระจายตัวอยู่ในจักรวาลอันไกลโพ้นนี้แบบชัดแจ๋วราวกับ HD 8K
🌠 แต่ไฮไลต์จริงๆ ไม่ใช่แค่ความคมชัดของภาพ — มันคือปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่โลกนี้แทบไม่มีใครเคยเห็นด้วยตาเปล่า และสิ่งนั้นคือ “ปรากฏการณ์เลนส์โน้มถ่วง” (Gravitational Lensing)
🔭 แล้ว Gravitational Lensing คืออะไร? ทำไมถึงเป็นไฮไลต์?
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 100 ปีก่อน นักฟิสิกส์ระดับตำนานอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้เสนอแนวคิดว่า “แรงโน้มถ่วงของวัตถุที่มีมวลมหาศาล เช่น กาแล็กซีหรือกลุ่มของกาแล็กซี จะสามารถบิดเบือน ‘โครงสร้างของปริภูมิ-เวลา’ ได้” คล้ายกับการวางลูกโบว์ลิ่งลงบนแผ่นยางตึงๆ แล้วเกิดการยุบตัวรอบๆ มัน
เมื่อแสงจากกาแล็กซีที่อยู่ไกลโพ้นทะลุผ่านบริเวณที่มีมวลมหาศาลเหล่านี้ มันจะไม่เดินทางตรงๆ เหมือนเดิม แต่จะถูกบิดงอ ทำให้เรามองเห็นภาพกาแล็กซีเหล่านั้นเป็น เส้นโค้ง หรือรูปทรงประหลาดๆ คล้ายวงแหวน หรือแถบแสงเรืองๆ ที่โอบล้อมกาแล็กซีที่อยู่ใกล้กว่านั้นไว้
Euclid สามารถจับภาพเหตุการณ์เหล่านี้ได้มากถึง 500 ครั้ง ภายในเวลาเพียง “1 สัปดาห์”! ซึ่งเยอะมากในเชิงดาราศาสตร์ และภาพที่ได้ก็เหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟสุดล้ำเลยทีเดียว
🕶️✨ แล้วเรื่องนี้สำคัญยังไง? เราได้อะไรจากภาพพวกนี้บ้าง?
ฟังดูเหมือนศิลปะจักรวาล แต่เบื้องหลังนั้นคือ วิทยาศาสตร์ล้วนๆ เพราะ “เส้นโค้งของแสง” ที่เกิดจากปรากฏการณ์เลนส์โน้มถ่วงนี่แหละ คือน้ำหนักทางข้อมูลที่นักฟิสิกส์ใช้เพื่อ:
• สร้างแผนที่ของ “สสารมืด” (Dark Matter) – เพราะถึงแม้มันจะมองไม่เห็นด้วยตา แต่มันมีผลกับแรงโน้มถ่วง และเราเห็นผลกระทบนั้นผ่านการบิดงอของแสง
• ช่วยให้เราเข้าใจว่าเอกภพนี้เกิดขึ้นและขยายตัวได้อย่างไร – มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เบาะแสว่า “พลังลึกลับ” ที่ทำให้เอกภพขยายตัวเร็วขึ้นคืออะไรกันแน่ (นักวิทย์เรียกมันว่า Dark Energy)
• ไขปริศนาของเอกภพในระดับจักรวาลวิทยา (Cosmology) – ยิ่งเรามองลึกลงไปในเอกภพ ก็เหมือนเราย้อนเวลาไปดูอดีต เพราะแสงใช้เวลาหลายพันล้านปีในการเดินทางมาถึงเรา
ในเดือนตุลาคม ปี 2026 นี้ ESA เตรียมปล่อยชุดข้อมูลชุดใหญ่ที่สุด ที่ไม่ใช่แค่ภาพสวยๆ แต่เป็น ฐานข้อมูลจักรวาลระดับโคตรละเอียด ที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจะใช้เพื่อปฏิวัติความเข้าใจเรื่องเอกภพไปอีกขั้น
🌌💡 จักรวาลไม่ใช่แค่ก้อนหินลอยอยู่ในความมืด
แต่มันคือไดอารี่ของอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของทุกสิ่ง
เราอาจโตมากับจอเล็กๆ บนมือถือ แต่ “Euclid” ทำให้เรารู้ว่าจักรวาลมันใหญ่ขนาดไหน และเราทุกคนก็เป็นแค่จุดเล็กๆ ที่ล่องลอยอยู่ในภาพมหึมานั้น
📡🌠 อย่าหยุดสงสัย และอย่าหยุดมองขึ้นฟ้า เพราะบางที คำตอบของคำถามใหญ่ที่สุดในชีวิต อาจซ่อนอยู่บนท้องฟ้าที่เรามองทุกวันก็ได้
Ref.
โฆษณา