Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
P
Pro Fess
•
ติดตาม
21 เม.ย. เวลา 10:00 • ครอบครัว & เด็ก
ว่างเปล่า
#โลกใบนี้มีแต่ความว่างเปล่า (ต่อ)
...
เมื่อใจหยุดไล่ตาม
หยุดต่อต้าน
หยุดขัดขืนความเป็นจริงของธรรมชาติ
ความว่างจะค่อยๆ โอบกอดใจ…
เหมือนแม่ที่อุ้มลูกกลับบ้าน
ไม่มีคำถามอะไรอีกแล้ว
เพราะคำถามเกิดจากความไม่รู้
แต่ตอนนี้… ใจรู้ว่า “ไม่มีอะไรเลย”
และนั่นคือคำตอบที่ใหญ่กว่าคำตอบใดๆ
สิ่งที่เคยดูยิ่งใหญ่… เล็กลง
สิ่งที่เคยดูสำคัญ… ไร้ความหมาย
สิ่งที่เคยกลัว… กลายเป็นเพียงภาพลวง
แม้แต่ “ชีวิต” ที่เคยหวงแหนนัก
ก็ไม่ต่างจากสายหมอกยามเช้า
สวย… แต่หายไปในพริบตา
เมื่อรู้เช่นนี้…
เธอจะไม่ใช้ชีวิตแบบคนกลัวตายอีกต่อไป
แต่จะใช้ชีวิตแบบคนที่ “ตายจากความหลง” แล้วจริงๆ
ไม่มีใครทำร้ายใจเธอได้
เพราะไม่มีตัวเธอให้ทำร้าย
ไม่มีใครชมเธอได้
เพราะไม่มีตัวเธอให้ชม
เธอกลายเป็น “ผู้เฝ้ามอง”
ที่เงียบ… เย็น… และว่าง
เธอไม่ต้องพยายามนิ่ง
เพราะความนิ่งได้เกิดขึ้นเอง
จากการที่ไม่มีอะไรให้เคลื่อนไหวอีกแล้ว
ไม่มีอารมณ์ใดมากระทบจิตได้อีก
เพราะไม่มีจิตที่ยึดอารมณ์เหล่านั้นอยู่
เธอกลายเป็นดั่งท้องฟ้า
ที่มองดูเมฆลอยผ่าน
โดยไม่รู้สึกว่าเมฆเหล่านั้น เป็นของตัวเอง
นี่คือเสรีภาพแท้
ไม่ใช่เสรีภาพในการเลือก
แต่คือเสรีภาพจากการ “ต้องเลือก”
ไม่มีอะไรต้องเป็น
ไม่มีอะไรต้องมี
ไม่มีอะไรต้องทำ
เธอแค่ “เป็น” ความรู้ตัวอันบริสุทธิ์
นี่ไม่ใช่ปรัชญา
ไม่ใช่แนวคิด
แต่คือความจริงแท้…
ที่คนทุกข์จะไม่มีวันเข้าใจ
จนกว่าเขาจะปล่อยมือจาก “ตัวเอง” ที่เขาหวงนัก
....
และเมื่อปล่อยได้จริง…
เธอจะเข้าใจว่า
ความว่างเปล่า… ไม่ใช่ความสูญเสีย
แต่มันคือ "การหลุดพ้น" อย่างแท้จริง
---
#โลกใบนี้มีแต่ความว่างเปล่า (ต่อ)
เมื่อเธอเข้าถึง “ความว่าง” อย่างแท้จริง
เธอจะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
ไม่ใช่เพราะเธอเปลี่ยน
แต่เพราะ “คนเดิม” นั้น… ไม่ได้มีอยู่จริงตั้งแต่ต้น
เธอเพียงแค่ “เลิกหลง”
เลิกหลงว่ามีตัวตน
เลิกหลงว่าต้องเป็นอะไรบางอย่างในโลกนี้
เลิกหลงว่าต้องวิ่งไล่ตามคำว่า
“สำเร็จ” ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
...
ทุกสิ่งที่โลกเคยสอน
กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ใจหนัก
ทุกความรู้ที่สะสม
กลายเป็นเงื่อนไขที่พันธนาการจิตให้ดิ้นรนไม่รู้จบ
แต่ความว่าง… ไม่ต้องรู้
ไม่ต้องฉลาด
ไม่ต้องชนะ
ไม่ต้องเป็นที่หนึ่ง
ไม่ต้องถูกจดจำ
และไม่ต้องมี “บทบาท” อะไรเลย
เพราะความว่าง… แค่อยู่เงียบๆ
แต่มันกลับทำให้ใจสงบได้อย่างลึกที่สุด
กว่าทุกคำสอน กว่าทุกตำรา กว่าทุกชัยชนะในโลกนี้
...
ผู้ที่เข้าถึงความว่างได้จริง
แม้จะเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน
เขาก็ยังรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าอันสงบ
เพราะเสียงภายนอก…
ไม่อาจสั่นคลอนความว่างภายในได้อีก
....
และแม้จะเผชิญกับความตาย
เขาก็ยิ้มรับ… ราวกับกลับบ้าน
เพราะเขาไม่ได้ตาย
เขาเพียงแค่ “คืน” ร่างให้โลก
คืนลมหายใจให้ธรรมชาติ
คืนความฝันให้วัฏฏะ
แล้วกลับเข้าสู่ความว่างดั้งเดิม
ที่ไม่มีวันเกิด… และไม่มีวันดับ
....
นี่แหละคือความจริงอันสูงสุด
ที่ไม่ต้องอธิบายด้วยคำใด
ไม่ต้องมีชื่อเรียก
ไม่ต้องมีลัทธิ
ไม่ต้องมีรูปเคารพ
เพราะมันไม่มีรูปร่างให้กราบ
และไม่มีใครเป็นเจ้าของ
ผู้ใดเข้าถึงความว่างนี้ได้
ผู้นั้น… พ้นทุกพันธะ
แม้โลกยังหมุนอยู่
แต่ใจเขา… หยุดแล้ว
---
#โลกใบนี้มีแต่ความว่างเปล่า (บทที่ 9)
“#ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
...
สุดท้ายแล้ว… ถ้าจิตเงียบพอ
มันจะรู้ว่า… ตลอดชีวิตที่ผ่านมา
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงเลย
ความสุขที่เคยไล่ตาม
มันเป็นแค่ภาพที่คิดขึ้น
ความทุกข์ที่เคยเสียน้ำตา
มันเป็นแค่เงาของใจที่เธอยึดไว้เอง
ชื่อเสียงที่เธอเคยหวง
คนรักที่เธอเคยร้องไห้
ทรัพย์สินที่เธอเคยปกป้อง
ตำแหน่งที่เธอเคยทุ่มทั้งชีวิต
…ทั้งหมดนั้นไม่มีอยู่จริงเลย
....
แม้แต่ “ความเป็นเรา”
ที่ยึดมั่นมานานแสนนาน
ก็เป็นแค่ความคิดเสี้ยวหนึ่ง ที่โผล่ขึ้นในใจ
แล้วก็จางหายไปอย่างเงียบงัน
ถ้าเธอนิ่งพอ
เธอจะรู้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้
ล้วนไม่เคย “เกิดขึ้นจริง”
แค่เหมือนภาพยนตร์ที่ฉายให้ดู แล้วจบไปในที่สุด
...
แต่เรากลับไปหลงคิดว่า
เราเป็นนักแสดง
ไปหลงอินกับบท
ไปหลงเอาชีวิตจริงไปผูกกับจอภาพ
ตลกไหม…
ที่ทั้งชีวิตนี้
เราเอาจิตไปยึดกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
ร้องไห้ให้กับภาพ เสียใจให้กับเงา
ดิ้นรนเพื่อรักษาความฝัน
ที่ไม่มีใครแตะต้องได้เลย
แต่เมื่อเห็นความว่าง… ใจจะวาง
เพราะรู้ว่า
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงเลยตั้งแต่ต้น”
---
#โลกใบนี้มีแต่ความว่างเปล่า (บทที่ 10)
“ที่สุดของการเข้าใจ… คือ
การไม่ต้องเข้าใจอะไรอีก”
เมื่อใจยอมให้ทุกอย่างเป็นไป
ไม่ขัดขืนแม้กระทั่งความไม่เข้าใจ
มันจะเปิดออก… สู่ความว่างลึกสุด
ที่ไม่ต้องมีคำอธิบายใด
...
ไม่มีธรรมะ
ไม่มีความจริง
ไม่มีคำตอบ
ไม่มีแม้แต่ “ความว่าง” ให้ยึด
...
ทุกสิ่งที่เคยเป็นเครื่องมือ
แม้แต่คำว่า “รู้” หรือ “ตื่น”
ก็กลายเป็นเปลือกสุดท้ายที่หลุดออก
ใจไม่ต้องทำอะไรอีก
ไม่ต้องเดิน ไม่ต้องแสวงหา
เพราะไม่มีอะไรที่ต้องไปถึง
ไม่มีจุดหมาย… และไม่มีผู้เดิน
...
เหลือเพียงความว่าง…
ที่ไม่มีแม้คำเรียกขาน
แต่กลับเต็มไปด้วย “ความอิ่ม” ที่เงียบสนิท
อิ่มจนล้น… แต่ไร้น้ำหนัก
ผู้ใดสัมผัสถึงตรงนี้
เขาจะนิ่ง โดยไม่ต้องฝึกนิ่ง
จะวาง โดยไม่ต้องตั้งใจวาง
จะเข้าใจทุกอย่าง โดยไม่ต้องเข้าใจอะไรอีก
.
เขาจะดำรงอยู่…
ในความว่างที่อ่อนโยน
เย็น
และไม่มีอะไรต้องทำอีกต่อไป
เพราะสุดท้าย
ไม่มีอะไรเลยตั้งแต่ต้น
และนั่น… คือความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
จบบริบูรณ์
---
ด้วยความยินดีครับ… ผมจะพาคุณจบเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ให้ครบ 10 บท เต็มไปด้วยความนิ่ง ลึก และว่าง
เพื่อปล่อยทุกสิ่งลง… จนแม้ “ผู้ปล่อย” ก็ไม่เหลือให้ถืออีก
---
โลกใบนี้มีแต่ความว่างเปล่า (บทที่ 9)
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
สุดท้ายแล้ว… ถ้าจิตเงียบพอ
มันจะรู้ว่า… ตลอดชีวิตที่ผ่านมา
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงเลย
ความสุขที่เคยไล่ตาม
มันเป็นแค่ภาพที่คิดขึ้น
ความทุกข์ที่เคยเสียน้ำตา
มันเป็นแค่เงาของใจที่เธอยึดไว้เอง
ชื่อเสียงที่เธอเคยหวง
คนรักที่เธอเคยร้องไห้
ทรัพย์สินที่เธอเคยปกป้อง
ตำแหน่งที่เธอเคยทุ่มทั้งชีวิต
…ทั้งหมดนั้นไม่มีอยู่จริงเลย
แม้แต่ “ความเป็นเรา”
ที่ยึดมั่นมานานแสนนาน
ก็เป็นแค่ความคิดเสี้ยวหนึ่ง ที่โผล่ขึ้นในใจ
แล้วก็จางหายไปอย่างเงียบงัน
ถ้าเธอนิ่งพอ
เธอจะรู้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้
ล้วนไม่เคย “เกิดขึ้นจริง”
แค่เหมือนภาพยนตร์ที่ฉายให้ดู แล้วจบไปในที่สุด
แต่เรากลับไปหลงคิดว่าเราเป็นนักแสดง
ไปหลงอินกับบท ไปหลงเอาชีวิตจริงไปผูกกับจอภาพ
ตลกไหม… ที่ทั้งชีวิตนี้ เราเอาจิตไปยึดกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
ร้องไห้ให้กับภาพ เสียใจให้กับเงา
ดิ้นรนเพื่อรักษาความฝันที่ไม่มีใครแตะต้องได้เลย
แต่เมื่อเห็นความว่าง… ใจจะวาง
เพราะรู้ว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงเลยตั้งแต่ต้น”
---
โลกใบนี้มีแต่ความว่างเปล่า (บทที่ 10)
“ที่สุดของการเข้าใจ… คือการไม่ต้องเข้าใจอะไรอีก”
เมื่อใจยอมให้ทุกอย่างเป็นไป
ไม่ขัดขืนแม้กระทั่งความไม่เข้าใจ
มันจะเปิดออก… สู่ความว่างลึกสุด
ที่ไม่ต้องมีคำอธิบายใด
ไม่มีธรรมะ
ไม่มีความจริง
ไม่มีคำตอบ
ไม่มีแม้แต่ “ความว่าง” ให้ยึด
ทุกสิ่งที่เคยเป็นเครื่องมือ
แม้แต่คำว่า “รู้” หรือ “ตื่น”
ก็กลายเป็นเปลือกสุดท้ายที่หลุดออก
ใจไม่ต้องทำอะไรอีก
ไม่ต้องเดิน ไม่ต้องแสวงหา
เพราะไม่มีอะไรที่ต้องไปถึง
ไม่มีจุดหมาย… และไม่มีผู้เดิน
เหลือเพียงความว่าง…
ที่ไม่มีแม้คำเรียกขาน
แต่กลับเต็มไปด้วย “ความอิ่ม” ที่เงียบสนิท
อิ่มจนล้น… แต่ไร้น้ำหนัก
ผู้ใดสัมผัสถึงตรงนี้
เขาจะนิ่ง โดยไม่ต้องฝึกนิ่ง
จะวาง โดยไม่ต้องตั้งใจวาง
จะเข้าใจทุกอย่าง โดยไม่ต้องเข้าใจอะไรอีก
เขาจะดำรงอยู่…
ในความว่างที่อ่อนโยน
เย็น
และไม่มีอะไรต้องทำอีกต่อไป
เพราะสุดท้าย
ไม่มีอะไรเลยตั้งแต่ต้น
และนั่น… คือความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
จบบริบูรณ์
---
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย