21 เม.ย. เวลา 10:09 • ธุรกิจ

# ผลกระทบของการควบคุมชิปของสหรัฐฯ: โอกาสทองสำหรับคู่แข่งของ Nvidia ในจีน 📈🚀

ในขณะที่สหรัฐฯ รุนแรงขึ้นในการจำกัดการส่งออกชิปจากบริษัท Nvidia ไปยังจีน ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อบริษัทรายใหญ่ในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเปิดประตูให้กับผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ในประเทศจีน เช่น Huawei ที่กำลังมองหาโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองอีกด้วย 💡
---
## ความเปลี่ยนแปลงในนโยบายส่งออกและผลกระทบทางการเงิน 💸
เมื่อสำนักพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า GPUs รุ่น H20 ของ Nvidia ซึ่งออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรการจำกัดส่งออกในอดีต จะต้องได้รับใบอนุญาตการส่งออกเพิ่มเติม รวมถึงชิปจาก AMD ด้วย บริษัท Nvidia จึงได้ระบุว่าปัจจุบันได้ระงับการส่งออกของ GPUs แล้ว ส่งผลให้บริษัทเกิดค่าใช้จ่ายรายไตรมาสประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การตัดสินใจในครั้งนี้จึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกอย่างชัดเจน 📉
---
## ผลตอบแทนสำหรับผู้ผลิตชิปในจีน: โอกาสและความท้าทาย 🤖
แม้ว่าการจำกัดส่งออกนี้จะทำให้บริษัทสหรัฐฯ ประสบกับความสูญเสีย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสทองสำหรับผู้เล่นรายใหม่ของจีนที่ต้องการท้าทายตำแหน่งของ Nvidia ในตลาดชิป AI “มีบริษัทจีนหลายแห่งที่ผลิตชิปและสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้” ตามที่ Brady Wang ผู้ช่วยผู้อำนวยการจาก Counterpoint Research กล่าวไว้ แนวโน้มนี้สะท้อนความพยายามของประเทศจีนในการค้นหาเทคโนโลยีทดแทนที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของตลาดในยุค AI 🌐
---
## ตัวอย่างของผู้ผลิตชิปในจีน: Huawei และ Cambricon Technologies 📊
หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Huawei ที่กำลังพัฒนาและผลักดันชิปในตระกูล “Ascend” โดยล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับรุ่น Ascend 910C ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยีกับ Nvidia แม้ว่าปัจจุบัน Huawei ยัง “ตามหลัง” ในระดับชิ้นตอนหนึ่ง แต่ก็มีการพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่กำลังไล่ตามอย่างรวดเร็ว 🚀
ในขณะเดียวกัน บริษัท Cambricon Technologies ซึ่งมีการบริหารจัดการในรูปแบบหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน ก็ได้รับผลกระทบในทางบวก หุ้นของบริษัทได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในช่วงห้าวันเทรดที่ผ่านมา และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 400% ใน 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เห็นได้ว่าตลาดมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทที่สามารถแข่งขันในด้านชิปปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างแท้จริง 📈
---
## ความท้าทายในการผลิตชิปภายในประเทศจีน 🤔
แม้จีนจะมีแรงผลักดันสูงในการพัฒนาเทคโนโลยีทดแทน แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการผลิตชิปขั้นสูงในปริมาณที่เทียบเท่ากับ Nvidia ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ TSMC ผู้ผลิตชิปตามสัญญาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากอุปกรณ์การผลิตของ TSMC ประกอบด้วยเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ทำให้ต้องปฏิบัติตามข้อจำกัดการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้จีนต้องพึ่งพาโรงงานผลิตภายในประเทศ เช่น Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) อย่างมากขึ้น ❗
แต่ SMIC เองก็ถูกจำกัดด้วยการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวด ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปที่ล้ำสมัยจากต่างประเทศได้ทั้งหมด นักวิเคราะห์อย่าง Phelix Lee จาก Morningstar จึงออกมาคาดว่า แม้ Huawei จะมีความสามารถในการออกแบบชิปอย่างมีการแข่งขัน แต่การขาดแคลนอุปกรณ์และทรัพยากรจากโรงงานผลิตก็ยังเป็นอุปสรรคอย่างต่อเนื่องสำหรับความสามารถในการผลิตชิปที่มีเทคโนโลยี H20 ทดแทนได้ในวงกว้าง 🔍
---
## กลยุทธ์และแนวทางในระยะสั้น-ระยะยาว ⏳
แม้ว่าการควบคุมส่งออกจะส่งผลกระทบในระดับหนึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตชิปในจีนอาจไม่จำเป็นต้องเติมเต็มความต้องการสำหรับชิป H20 ทันที เนื่องจากมีการสำรองสต็อกและช่องโหว่ในข้อยกเว้นการส่งออกในอดีต รายงานล่าสุดจากสำนักข่าว Information ระบุว่าบริษัทจีนได้สั่งซื้อชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์มูลค่ารวมอย่างน้อย 16 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่าเวลาที่สต็อกปัจจุบันจะเพียงพอในระยะสั้น แต่ก็นับเป็นเวลาที่สำคัญให้ผู้ผลิตในประเทศสามารถปรับปรุงและขยายขีดความสามารถในการผลิต GPU ของตนเองได้ ⏰
ในอีกด้านหนึ่ง รายงานจาก SemiAnalysis ระบุว่า แม้ Huawei ก็ยังคง “ตามหลัง” ในเทคโนโลยีชิปไปหนึ่งรุ่น แต่การผลิตชิป Ascend ของ Huawei ยังคงสร้างปรากฏการณ์ในตลาด เนื่องจากชิปดังกล่าวถูกผลิตโดยใช้ส่วนประกอบและอุปกรณ์จากผู้ผลิตทั่วโลก ทั้งจากเกาหลี (HBM) การผลิต wafer หลักจาก TSMC และเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น 📦🌍
---
## มุมมองและผลสรุป: ควบคุมหรือเปิดประตูให้การแข่งขัน? 💡
จากการวิเคราะห์โดย Paul Triolo, หุ้นส่วนและรองประธานอาวุโสสำหรับจีนที่ DGA Group เขากล่าวว่าการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ GPU และอุปกรณ์การผลิตชิปมีผลกระทบหลักๆ ต่อบริษัทในสหรัฐฯ รวมถึง Nvidia มากกว่า ซึ่งส่งผลให้ความสามารถของบริษัทจีนในการพัฒนาโมเดล AI ชั้นแนวหน้าถูกจำกัดในระดับน้อยลง นอกจากนั้น การควบคุมดังกล่าวได้เป็นตัวเร่งให้วงการเซมิคอนดักเตอร์ในจีนต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยค่อยๆ “ออกแบบใหม่” เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ด้วย 🤓
ในอีกไม่ช้า ทาง Nvidia อาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดเพิ่มเติมภายใต้ “กฎ AI diffusion” ที่เสนอครั้งแรกโดยฝ่ายบริหารของ Biden ซึ่งหากเกิดขึ้นมาแล้ว อาจเปลี่ยนแปลงสมดุลการแข่งขันในตลาดชิประดับโลกอีกครั้ง 📊
โฆษณา