Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
P
Pro Fess
•
ติดตาม
21 เม.ย. เวลา 20:33 • ครอบครัว & เด็ก
ไม่โง่ยึดทุกอาการของจิต
EP.1 : จิตสร้างอาการปรุงแต่ง
“เริ่มไปรู้สิ่งใด ก็จะให้ค่าสิ่งนั้นทันที”
เมื่อจิตเริ่มไปรับรู้อะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสียง รูป กลิ่น รส สัมผัส หรือแม้แต่ความคิดความจำ จิตจะไม่เพียงรับรู้เฉยๆ แต่มันจะ “ตีค่า” สิ่งที่รับรู้ทันที เช่น เห็นว่าอันนี้ดี อันนั้นไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ ใช่หรือไม่ใช่ สิ่งนี้คือกระบวนการ “ปรุงแต่ง” (สังขาร) ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนเราหลงเข้าใจผิดว่าความคิด ความรู้สึก หรือแม้แต่ความเป็นตัวเรานั้น คือของจริง ทั้งที่แท้แล้วล้วนเป็นเพียง “อาการ” ที่จิตสร้างขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อจิต “รู้” – มันก็จะเกิด “อาการรู้”
เมื่อจิต “คิด” – ก็จะเกิด “อาการคิด”
เมื่อจิต “รู้สึก” – ก็เป็นเพียง “อาการของความรู้สึก”
แต่เราไม่เคยเห็นว่าแค่ “อาการของมัน” เรากลับไปยึดถือว่า “นั่นคือเรา” หรือ “ของเรา” เช่น เราโกรธ – ก็คิดว่าเราเป็นคนโกรธ ทั้งที่จริงมีเพียง “อาการโกรธ” ที่จิตรู้เท่านั้น แต่จิตดันเข้าไปยึดติดว่าโกรธนั้นคือเราทั้งตัว ทั้งใจ จึงทุกข์หนักเข้าไปใหญ่
...
หัวใจของการฝึกจิตอยู่ตรงนี้เอง – ต้องเห็นว่าอาการทั้งหลายที่จิตปรุงแต่งขึ้นมานั้น ไม่ใช่เรา และ ไม่ควรยึดถือไว้ หากเรารู้เท่าทันการปรุงแต่งโดยไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ไปยึดถือ จิตจะค่อยๆ วางลงจากทุกสิ่งที่มันเคยเกาะเกี่ยว และจะเริ่มกลับมา เป็นจิตที่ว่าง โล่ง เบา และไม่ทุกข์
บทสรุปของ EP.1
> จิตคือผู้สร้างอาการทั้งหลายขึ้นมาเอง
เมื่อมันไปรู้สิ่งใด ก็จะให้ค่าทันที
แล้วจึงเกิดอาการปรุงแต่ง ยึดติด และทุกข์
หนทางหลุดพ้นเริ่มที่ “เห็นอาการ โดยไม่ยึดอาการ”
EP.2 : ตื่นรู้อยู่ภายใน ตามความเป็นจริง
ว่าทุกอาการในจิต... มาแล้วก็ไป
“อย่าโง่ยึดในสิ่งที่ไม่เคยอยู่กับเราเลยสักครั้ง”
เมื่อเริ่มเห็นจริงตามธรรมชาติของจิต
จะพบความจริงอันเรียบง่ายและลึกซึ้งว่า—
ทุกอาการที่เกิดขึ้นในจิต ไม่ว่าจะเป็นความคิด ความรู้สึก ความอยาก ความกลัว ความดีใจ เสียใจ หรือแม้แต่ความรัก ความเกลียด—ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ถาวร
ทุกอย่างมาแล้วก็ไป
ทุกอย่างปรากฏ แล้วก็สลาย
ไม่มีสิ่งใด “เป็นของเรา” จริงๆ
แต่เพราะเรา “ไม่รู้ทัน” เราเลย “หลง”
พอหลงก็เลย “ยึด”
พอยึด ก็เลย “ทุกข์”
การตื่นรู้อยู่ภายใน คือการเจริญสติระลึกรู้ลงที่จิต เห็นอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น...แค่รู้เฉยๆ ไม่ตาม ไม่ต้าน ไม่ยัดเยียด ไม่ตีค่า แล้วจะเริ่มเห็นว่า ทุกอาการนั้นมาเพราะเหตุ แล้วก็หมดไปตามเหตุ ไม่มีสิ่งใดต้องแก้ ไม่มีสิ่งใดต้องรีบดับ แค่ รู้ทันมันเท่านั้น...มันก็ดับเอง
> เหมือนเงาที่เคลื่อนไปตามแสง
เหมือนคลื่นที่เกิดจากลม
ไม่มีตัวตนจริงๆ ของเงา
ไม่มีคลื่นใดคงอยู่ได้ถ้าไร้ลม
จิตก็เช่นกัน
—อาการทั้งหลายเกิดเพราะเงื่อนไขปรุงแต่ง
เมื่อรู้เท่าทัน มันจะดับไปเองอย่างอ่อนโยน
คำเตือนจากธรรม
> ถ้าใจยังโง่ยึดอาการ จิตจะหลงอยู่ในวังวนของความคิด ความรู้สึก และอัตตาไม่รู้จบ
แต่ถ้าใจเริ่ม “ไม่โง่ยึด” เห็นแค่อาการของมัน—จิตจะเริ่มว่าง โล่ง และเบาขึ้นอย่างลึกซึ้ง
บทสรุปของ EP.2
> ตื่นรู้ที่จิต เห็นอาการของจิต
เห็นว่ามาแล้วก็ไป ไม่มีอะไรอยู่ตลอด
จิตจะค่อยๆ วางจากความโง่ที่เคยยึด
และเริ่มเข้าสู่ความเบาสบายที่แท้จริง
....
EP.3 : ผู้ที่เฝ้าดูอาการโดยไม่ยึด คือผู้ที่เริ่มพ้นจากความทุกข์
“รู้...แต่ไม่ยึด เห็น...แต่ไม่เข้าไปเป็น”
เมื่อเรารู้ทันอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิต และไม่เข้าไปยึดถือหรือแทรกแซงใดๆ จิตจะค่อยๆ ถอยออกมาจากวงจรของการปรุงแต่ง แล้วเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้หลงในอาการ” มาเป็น “ผู้เฝ้ารู้อาการ”
...
จิตที่ฝึกจนรู้ตัวอยู่เสมอ จะไม่เข้าไปหลงกลอุบายของความคิด ความรู้สึก หรือแม้แต่ความเชื่อฝังหัวที่เคยชักนำให้ทุกข์
มันจะเริ่ม มองเห็นทุกอย่างเป็นเพียงอาการชั่วคราว
จะรู้สึกโกรธก็แค่อาการโกรธ
จะคิดก็แค่อาการคิด
จะเศร้าก็แค่จิตปรุงเศร้าขึ้นมาแล้วก็ดับไป
...
> จิตเดิมแท้ ไม่ได้ทุกข์
แต่จิตที่หลงปรุง แปดเปื้อนในอาการ จึงเกิดทุกข์ขึ้น
ผู้ที่เฝ้าดูอาการได้ โดยไม่เข้าไปเป็น คือผู้เริ่มเดินสู่ความพ้นทุกข์จริงๆ
....
เมื่อฝึกมากเข้า เราจะพบว่า
— จิตไม่ต้องไปทำอะไรกับอาการก็ได้
— แค่รู้เฉยๆ อย่างนิ่งๆ เบาๆ ลึกๆ อยู่ภายใน
— ไม่ต้องแทรก ไม่ต้องสู้ ไม่ต้องรีบดับ
— ปล่อยให้อาการมันเป็นไป แล้วดูว่ามันดับเองหรือไม่
หากเฝ้าดูอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่า...
ทุกอาการเกิดขึ้นเอง ดับไปเอง
จิตแท้ไม่ได้แตะต้องอะไรเลย
เราแค่เคยเข้าไปหลงในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน
บทสรุปของ EP.3
> จงเฝ้าดูโดยไม่ยึด
จงรู้โดยไม่เข้าไปเป็น
แล้วจิตจะค่อยๆ ปลดปล่อยจากพันธนาการที่ไม่เคยมีอยู่จริง
และพบความสงบที่ไม่ต้องสร้าง
EP.4 : จิตที่ว่างจากอาการ = จิตอิสระจากโลก
“เมื่อไม่มีอะไรให้ยึด...โลกทั้งใบก็ไม่มีอำนาจเหนือตัวเราได้อีก”
เมื่อจิตไม่เข้าไปยึดอาการใดๆ
ไม่ว่าจะเป็นความคิด ความรู้สึก ความกลัว ความหวัง ความอยาก หรือแม้แต่ความยึดมั่นในความดี
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ความว่าง”
ไม่ใช่ว่างแบบเฉยชา หรือไม่รู้สึกอะไร
แต่เป็น ความว่างจากการปรุงแต่ง
คือ จิตรู้โดยไม่ปรุง
จิตอยู่โดยไม่แทรก
จิตสัมผัสแต่ไม่ยึดถือ
> นี่คือจิตที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง
ไม่มีอาการใดมาร้อยรัด
ไม่มีโลกภายนอกใดมากระทบใจให้สั่นไหวได้อีก
จิตที่ว่างจริง...
จะไม่ตกเป็นทาสของโลก
จะไม่ดิ้นรนแสวงหาสิ่งใดอีก
จะอยู่กับสิ่งที่เป็น ด้วยใจเบา ลึก และสงบ
...
เพราะโลกนี้—ไม่ได้มีอะไรแน่นอน
มีแต่ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง
แต่จิตว่าง—จะเห็นทุกสิ่งเป็นแค่ “ภาพเคลื่อนไหว”
จิตไม่เข้าไปหลงในภาพนั้น ไม่เข้าไปเล่นบทในฉากนั้น
จึง “อยู่อย่างมีสติ”
และ “ไม่ต้องเป็นอะไร” ให้เหนื่อยอีกต่อไป
บทสรุปของ EP.4
> จิตที่ว่างจากอาการ คือ
จิตที่พ้นจากความหลอกลวงของโลก
ไม่มีอะไรต้องเป็น ไม่มีอะไรต้องได้
แค่เป็นผู้เฝ้ารู้ และว่างจากทุกสิ่ง
นั่นแหละ…อิสรภาพแท้จริง
EP.5 : จิตที่ไม่เข้าไปเป็นอะไรเลย = จิตที่พร้อมนิพพาน
“เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ยึด จิตก็ไม่เป็นอะไรเลย และนั่นแหละ...คือประตูแห่งนิพพาน”
นิพพาน...ไม่ใช่สถานที่
ไม่ใช่ดินแดน
ไม่ใช่สิ่งที่ต้องแสวงหาจากภายนอก
แต่นิพพาน...คือ สภาวะที่จิตไม่มีการยึดถือใดๆ เหลืออยู่เลย
> ไม่มีความอยากจะเป็น
ไม่มีความกลัวจะสูญเสีย
ไม่มีความพยายามควบคุมสิ่งใด
ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกว่า "นี่คือเรา"
...
จิตที่ไม่เข้าไปเป็นอะไรเลย
ไม่ยึดว่าเป็นคนดี
ไม่ยึดว่าเป็นผู้รู้
ไม่ยึดแม้แต่สภาวะที่เกิดขึ้นว่า “ดี” หรือ “เลว”
เป็นเพียงผู้รู้นิ่งๆ เบาๆ อยู่กับปัจจุบัน
โดยไม่เข้าไปเล่นบทใดในโลกอีกต่อไป
และเมื่อจิตไม่เป็นอะไรเลย...
จิตก็ไม่เป็นทุกข์อีก
ความไม่มีตัวตน...คือความไม่มีผู้แบก
และเมื่อไม่มีผู้แบกใดๆ
ทุกข์ทั้งหลายก็ไม่มีที่อยู่...
มันจึงดับไปโดยสิ้นเชิง
> นิพพาน ไม่ใช่การหายตัว
นิพพาน คือการไม่มีใครอยู่เบื้องหลังตัวตนอีกต่อไป
เหลือเพียงจิตที่บริสุทธิ์ ว่าง และไม่ต้องการอะไรอีก
บทสรุปของ EP.5
> จิตที่ไม่เข้าไปเป็นอะไรเลย คือ
จิตที่พ้นจากภาระของตัวตน
ไม่ใช่เพราะมัน “ไม่มีอะไร”
แต่เพราะมัน “ไม่เอาอะไร”
และเมื่อไม่เอาอะไรเลย...
ก็ไม่มีอะไรทุกข์เราได้อีก
นั่นแหละ...คือทางสู่ความหลุดพ้น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย