24 เม.ย. เวลา 09:23 • สุขภาพ

การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ไม่ป่วยง่ายแม้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตอนกลางวันร้อน ตอนเย็นฝนตก และบางพื้นที่ก็ยังประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 แน่นอนว่าร่างกายของเราต้องรับมือและปรับตัวอย่างหนักจนทำให้หลายคนล้มป่วยโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงมีวิธีการเสริมสร้างสุขภาพและภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนมาฝากทุกท่านกัน
มาเริ่มด้วยวิธีพื้นฐานกันก่อน นั่นก็คือ "การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่" ร่างกายของเราต้องการสารอาหารหลากหลายชนิดและครบถ้วนในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ และวิตามิน เพื่อใช้เป็นพลังงานในการดำรงชีวิต สร้างการเจริญเติบโต และพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น การทานอาหารไม่ครบหมู่หรือขาดสารอาหารบางชนิดจึงทำให้กระบวนการเหล่านี้ไม่ดีเท่าที่ควรนั่นเอง
แน่นอนว่าเมื่อเราทานอาหารไปแล้ว สิ่งที่ควรทำควบคู่กันก็คือ "การออกกำลังกาย" เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ การไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงเสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น โดยเราควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30-45 นาทีต่อวัน เน้นความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ไม่หักโหมมากเกินไป เนื่องจากสามารถนำไปสู่อาการการบาดเจ็บและภูมิคุ้มกันตกได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เราจะทานอาหารและออกกำลังกายดีแค่ไหน แต่พักผ่อนไม่เพียงพอ สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็แทบจะไร้ความหมาย เนื่องจากการนอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราควรนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน หลีกเลี่ยงหน้าจอมือถือ 30 นาทีก่อนเข้านอน เพื่อสร้างการพักผ่อนที่มีคุณภาพ
ทั้งสามข้อนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่ทุกท่านสามารถเริ่มทำได้เลยอย่างง่ายดาย เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นเพื่อยกระดับการดูแลตนเองและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนด้วยเช่นกัน มาดูกันว่าเบื้องต้นจะมีอะไรบ้างที่เหมาะสมกับระบบภูมิคุ้มกัน
"การใช้เครื่องกรองอากาศคุณภาพสูง" ในช่วงวิกฤตการณ์ฝุ่น PM 2.5 เครื่องกรองอากาศเป็นสิ่งของอีกหนึ่งอย่างที่มีความต้องการเป็นอย่างมาก สำหรับเครื่องกรองอากาศคุณภาพสูง นอกจากจะสามารถกรองฝุ่นได้แล้ว ยังสามารถดักจับเชื้อโรค ไวรัส ขนสัตว์ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสารก่อภูมิแพ้ได้อีกด้วย ทำให้ร่างกายไม่จำเป็นต้องทำงานหนักในการรับมือกับสิ่งเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ได้ทั้งอากาศสะอาดสำหรับหายใจและให้โอกาสภูมิคุ้มกันได้พักผ่อน
"การอาบแสงสีแดง หรือ Red Light Therapy" เป็นการส่องแสงสีแดงที่มีความยาวคลื่นต่ำลงบนผิวหนัง มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของไมโทคอนเดรียและเซลล์อื่นๆ ให้ซ่อมแซมตัวเอง ฟื้นฟูสภาพ และสร้างเซลล์ใหม่ ส่งผลดีต่อการลดการอักเสบ บรรเทาอาการเจ็บปวด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงการลดริ้วรอยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์โดยไม่รุกรานร่างกายโดยใช้สารเคมี
นอกจากสองข้อที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มคนรักสุขภาพ นั่นก็คือ "การดริปวิตามิน" ซึ่งเป็นการเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามิน กรดอะมิโน หรือแร่ธาตุ เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางเส้นเลือด ส่งผลให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารอาหารเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ แตกต่างจากการรับประทานหรือทาที่มีปัจจัยแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้บางครั้งเราก็ไม่รับคุณประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
หากท่านใดต้องการดริปวิตามินเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี เราพร้อมให้บริการและคำแนะนำแก่ทุกท่าน โดยมีวิตามินให้เลือกหลายสูตรและควบคุมปริมาณตามการแพทย์ นอกจากนี้ทุกขั้นตอนยังอยู่ภายใต้การดูแลของพยาบาลวิชาชีพอีกด้วย
โดยสูตรที่ช่วยยกระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายมีชื่อว่า
"Immunity Recharge" ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและฟื้นฟูร่างกายจากอาการหวัดหรือการติดเชื้อไวรัส ด้วยวิตามินซีที่ช่วยย่นระยะเวลาการฟื้นตัว พร้อมปกป้องคุณจากเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงปัญหาผิว เช่น สิวหรือผื่น และบรรเทาอาการอ่อนเพลียไม่สบายตัวโดยรวม
และ "Myers' Cocktail" ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายอย่างล้ำลึก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ทันที ช่วยเร่งการเผาผลาญ พร้อมบรรเทาอาการเหนื่อยล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมของแมกนีเซียม กรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี) วิตามินบีรวม แคลเซียมกลูโคเนต และไฮดรอกโซวิตามินบี 12 สูตรนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหืด ไฟโบรมัยอัลเจีย และไมเกรน อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบจากอาการเจ็ตแล็กได้อย่างเห็นผล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและทำการจองได้ที่:
📞 +66 53 253 333
📲 LINE: @anantarachiangmai (https://mhg.to/dx4qm)
โฆษณา