23 เม.ย. เวลา 03:43 • ข่าว

ร่างกฎหมายใหม่ คุ้มครองผู้เสียหาย คดีทางเพศ-คดีกระทบจิตใจรุนแรง

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 มีเรื่องสำคัญด้านสังคมถูกนำเข้ามาหารือ หลังครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉบับใหม่ ที่มุ่งเน้นการคุ้มครองผู้เสียหายและพยานในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศหรือคดีที่มีผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี ซึ่งเดิมกฎหมายยังไม่มีมาตรการคุ้มครองที่ครอบคลุมเท่าเทียมกับผู้เสียหายที่เป็นเด็ก
ปัจจุบันประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีมาตรการคุ้มครองสำหรับผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี โดยกำหนดให้มีสหวิชาชีพร่วมในกระบวนการสอบสวน มีการจัดสถานที่ที่เป็นสัดส่วนเหมาะสม และห้ามการถามปากคำซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น รวมถึงสามารถนำสื่อภาพและเสียงที่บันทึกในชั้นสอบสวนมาใช้แทนการเบิกความในชั้นศาลได้ แต่สำหรับผู้ที่อายุเกิน 18 ปี แม้จะเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง กลับไม่มีมาตรการคุ้มครองในลักษณะเดียวกัน
ร่างกฎหมายใหม่นี้มุ่งลดช่องว่างดังกล่าว โดยขยายขอบเขตการคุ้มครองให้ครอบคลุมผู้เสียหายและพยานที่มีอายุเกิน 18 ปี ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น คดีอนาจาร คดีข่มขืนกระทำชำเรา หรือคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง รวมถึงกรณีความรุนแรงในครอบครัว
ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้นำเสนอมาตรการสำคัญหลายประการ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกของกระบวนการยุติธรรม โดยกำหนดให้การรับคำร้องทุกข์และการถามปากคำผู้เสียหายหรือพยานในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศหรือคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง ต้องกระทำในสถานที่ที่เป็นสัดส่วนเหมาะสม พร้อมทั้งจัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงการถามปากคำ ทั้งนี้ ภายใต้ความยินยอมของผู้เสียหายหรือพยาน
นอกจากนี้ ยังให้อำนาจศาลในการพิจารณาอนุญาตให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงคำให้การของผู้เสียหายหรือพยานที่ได้บันทึกไว้ในชั้นสอบสวนหรือในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำเบิกความในชั้นพิจารณาของศาล แม้ว่าในกรณีของผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี ยังคงต้องมาปรากฏตัวต่อศาล แต่การที่สามารถใช้บันทึกภาพและเสียงประกอบคำเบิกความได้ จะช่วยลดผลกระทบทางจิตใจจากการต้องนึกถึงเหตุการณ์ที่เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้ว่าร่างกฎหมายใหม่จะขยายความคุ้มครองไปยังผู้เสียหายและพยานที่มีอายุเกิน 18 ปี แต่ก็ยังมีความแตกต่างบางประการเมื่อเทียบกับมาตรการคุ้มครองสำหรับเด็ก โดยเฉพาะในชั้นพิจารณาคดีของศาล ผู้เสียหายหรือพยานที่มีอายุเกิน 18 ปี ยังคงต้องมาปรากฏตัวต่อศาล ในขณะที่เด็กอาจได้รับการยกเว้นไม่ต้องมาศาลหากมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น กรณีเจ็บป่วย ตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ตรี วรรคสี่
ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงการคำนึงถึงความเปราะบางทางจิตใจของเด็กเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็พยายามสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้เสียหายกับหลักการพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมที่จำเลยมีสิทธิเผชิญหน้ากับพยานที่ให้การปรักปรำตน
กระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามแนวทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 77 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เรื่องการดำเนินการเพื่อรองรับและขับเคลื่อนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้แสดงความเห็นชอบในหลักการของร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วย
การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายและพยานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดยเฉพาะในคดีที่มีความละเอียดอ่อนและส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เพียงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางจิตใจของผู้เสียหาย แต่ยังอาจส่งผลให้มีการรายงานคดีประเภทนี้มากขึ้น เมื่อผู้เสียหายรู้สึกมั่นใจว่าระบบยุติธรรมมีมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองพวกเขา
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้จะต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม ทั้งในด้านสถานที่ที่เหมาะสม อุปกรณ์บันทึกภาพและเสียง รวมถึงบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมให้มีความเข้าใจและทักษะในการรับมือกับคดีประเภทนี้ ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
สรุป :
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายและพยานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดยเฉพาะในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศและคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง การขยายขอบเขตมาตรการคุ้มครองให้ครอบคลุมถึงผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี จะช่วยเติมเต็มช่องว่างของกฎหมายเดิมที่ให้การคุ้มครองเฉพาะเด็กเท่านั้น
การแก้ไขนี้จะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมที่มีความเข้าใจและเคารพต่อสภาพจิตใจของผู้เสียหายมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ยังสะท้อนถึงการพัฒนาของสังคมไทยที่ให้ความสำคัญกับการเยียวยาและคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมในทุกช่วงวัย
ภาพประกอบ : การประชุมครม. รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากสำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล
โฆษณา