24 เม.ย. เวลา 04:28 • ท่องเที่ยว
จังหวัดโอะกินะวะ

Road trip Okinawa สไตล์หอยทาก เน้นถ่ายรูปเอาใจเพื่อน

สวัสดีครับทุกท่าน
ห่างหายไปนานเหมือนกันนะครับ หลังจาก โพสล่าสุด จริงๆ ช่วงที่หายไปนี่คือไปเที่ยวมาแบบจริงจังกับ การทำงานเพื่อเอาเงินไปเที่ยวครับ แต่ก็ยังจัดสรรเวลาไม่ค่อยดีเลย เลยไม่ได้มาเล่าสู่กันฟังอย่างที่ควรจะเป็น แหะๆ
เอาเป็นว่า cut to the chest เลยดีกว่านะครับ ก่อนที่ พี่ๆ จะเบื่อผม อารัมพาบท ไปมากกว่านี้
เมือไม่นานมานี้ ไม่นานในที่นี้คือ สิ้นเดือน มีนาคม ผมได้มีโอกาสกลับไป เยือนเมืองที่ มีความ เรโทร ย้อนยุด อเมริกันอิช
ที่สุดมากๆ เมืองหนึ่ง เป็นเมืองที่ อยู่ทางตอนใต้สุด ของ ภูมิภาคคิวชู และเป็นเกาะ ที่มี ฐานทัพ สหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ และ มีทะเล ที่สวยไม่แพ้ที่ใดใน ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็น เกาะฮาวายแห่งแดนปลาดิบ และมีวัฒนธรรม ที่ หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น ประวัติศาสตร์ อันยาวนานของ ราชวง ริวกิว ก่อนที่ ญี่ปุ่นจะเข้ามา ครอง หรือ หมู่เกาะอันมากมายกว่า 160หมู่เกาะ และ ความเป็นอเมริกันที่มาผสมมสานเข้ากัน ตามช่วงเวลา ต่างๆ เสมือน เวลาได้หยุดเมืองแห่งนี้ไว้ที่ช่วงปี 1960เลย และยังถือว่าเป็น เมืองที่เป็น บลูโซน 1ใน5 ของโลก และ อาหารพื้นเมืองอย่าง มะระผัดไข่ หมูอากุ เป็นต้น
และนั่นแหละครับ เกาะที่ผมพูดถึง “เกาะโอกินาว่า” ฮาวายแห่งญี่ปุ่นนี้นี่เองงงงงงงงง
*บลูโซนคือ เมืองที่ มี ผู้คนอายุยืนมากกว่าคนทั่วไป โดยอายุเฉลี่ยที่90-100ปี
ต้องเกริ่นก่อนว่า โอกินาว่า รอบนี้เป็นรอบที่สองที่ผมมาเยือน ซึ่งครั้งแรกที่ผมมา สมัยปี 2019 ที่มีสายการบิน peach airline บินตรง BKK-OKA แต่เห็นว่าได้ยกเลิก เส้นทางการบินนี้แล้ว ปัจจุบัน ตอนนี้มีสายการบิน ตรง จาก กทม อยู่ 1สาย คือ Thai airasia ส่วนสายการบินอื่น จะเป็นการต่อเครื่องทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเวียดเจ็ทที่ต่อเครื่องที่ เถาหยวน ไต้หวัน หรือ ฮ่องกงแอร์ไลน ที่ฮ่องกง เป็นต้น
สำหรับผมในทริปนี้ เป็นทริป ของชาวแก๊ง เดินทางกัน 4คนตลอดทั้งทริป โดยสายการบิน ฮ่องกงแอร์ไลน์ ต่อเครื่องที่ ฮ่องกงทั้งไปและกลับ
คำถามคือ ต่อเครื่องทำไม? อ่อพอดีว่าตอนจองช่วงนั้น สายบินตรงราคาแกแรงอยู่ ไปกลับ น่าจะ 12k ไม่รวม สัมภาระโหลด
บังเอิญว่า ช่วงนั้นมีงานท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตอนปลายปี 24 ที่ พารากอน ได้ตั๋วไปกลับพร้อม น้ำหนัก20kg ในราคา 12k ก็เลยตกลงปลงใจกันว่า จะลองต่อเครื่องกันดู. ซึ่งการซื้อตั๋วในงาน ผมว่าค่อนข้างคุ้ม นะครับ ได้ cashback เอย ของแถมที่เป็นหมอนที่ตอนนี้ไปไหนแล้วไม่รู้เอย แต่ถึงเเม่ว่าการไปจองที่งาน แฟร์ต่างๆ อาจจะมีของแถมจุกจิกต่างๆให้
ทางเลือกอีกทางที่ สะดวกไม่แพ้กันเลย คือ จองผ่าน trip.com ซึ่งเป็นที่ทางเลือก ที่ผมมองว่า ราคา ค่อนข้างดี โดยปกติผมก็จะจองกับเค้านี่แหละ แต่รอบนี้ไหนๆมันก็มีงานแฟร์ ก็สู้ไปเดินดูหน้างานก็ดีไปอีกแบบครับ
ที่นี้เรามาดูกันว่า การต่อเครื่องที่เวลาสั้นขนาดนี้ของผมจะเป็นยังไง
เริ่มที่แพลนเที่ยวก่อนเลยฮ่ะ แพลนของเราคือ เดินทาง 27-31/03 เป็นเวลาทั้งสิ้น 5วัน4คืน ออกเดินทาง ไฟล์กลางคืนถึงสายๆ และกลับ บ่ายๆ ถึง ดึกๆ
เราเดินทางจาก สุวรรณภูมิ ไฟล์ HX780 ด้วยเครื่อง Airbus A330-300
ที่นั่งแบบ2-4-2 ออกเดินทางเวลา2.00ถึง ฮ่องกง5.55 เวลาเดินทาง2.55hr
จากฮ่องกงไปโอกินาว่า ด้วย HX682 Airbus A320 ที่นั่งแบบ 3-3 ออกเดินทางเวลา 7.25-11.00 เวลาเดินทาง2.35hr
ส่วนขากลับนั้นสบายๆเลยครับเวลาเหลือเฟือครับ
HX659 Airbus A330-300 ที่นั่งแบบ2-4-2 ออกเดินทางเวลา16.15-18.00 เวลาเดินทาง2.45hr
HX761 Airbus A330-300 ที่นั่งแบบ2-4-2 ออกเดินทางเวลา22.45-0.45 เวลาเดินทาง3hr
ด้วยความที่เคยเข้าใจว่า Hk airline เป็นสายการบิน full service ได้ น้ำหนักกระเป๋ามี อาหาร ที่นั่งสบาย มีเอ็นเตอเทนเม้น เลยไม่ได้ห่วงอะไรมาก แอบคิดว่า คงเป็นการเดินทางสบายๆ นอนไม่หลับก็ หาอะไรดู…………………
สรุป แล้วก่อนบินไม่กี่วัน algorithm ของ ติ้กต้อกก็ทำงาน ครับ รีวิวบินไป ฮ่องกงกับ ฮ่องกงแอร์ไลน์ก็ขึ้นมาให้รับชมเหมือนรู้ใจคนดู
สรุปแล้ว ผมขอ เรียกเค้าว่าสายการบิน Half service แล้วกันครับ ด้วยความที่ว่า ที่นั่งก็จะกว้างขวาง เบาะไม่ได้แข็งมากเหมือนนั่ว โลวคอส แต่ทีวีที่ติดมาใช้ไม่ได้ เครื่องค่อนข้างเก่า(สำหรับขาไป ฮ่องกง) แต่มี หนังให้ดูโดยที่ต้องเชื่อมต่อ ไวไฟบนเครื่อง เป็น เอนเตอเทนเม้น on demand แบบ ใช้ เซอเวอสายการบิน แต่ใช้มือถือเราเป็นจอ ซึ่งอันนี้เข้าใจได้ เพราะผมเคยบินไฟล์ จากการ์ต้า ไป ทิบิลิซซี ก็จะเป็นแบบนี้เหมือนกันครับ
ส่วนอาหารนั้น คิดแล้วว่า ข้าวหน้าหมูฮ่องกงมาแน่ ยัยติ้กต้อก เฉลยเลย ขนมปังหนึ่งก้อน หรือ ขนมป้อปคอน กับน้ำเปล่า 1 ขวด และท้ายที่สุด คือ ถ้าจะ เลือกที่นั่งต้องเสียเงิน แต่ถ้าไม่อยากเสีย ระบบ ของ สกบ จะ สุ่ม และ กระจาย ที่นั่ง แบบ กระจ้าย กระจาย เลยครับ ส่วน ที่นั่ง ราคาตั้งแต่ 400-1000 บาทคร่าวๆ ครับ จบบริบูรณ์ ครับ 5555
รีวิวโดยรวมของสายการบินนี้ ก็คือๆ พอกับราคาครับ ที่นั่งไม่แย่ อาหาร ถือว่า ขนมอร่อย แต่ไม่สุด เอ็นเตอเทนเม้น โอเคดี แต่หนังน้อยไปหน่อย แต่ขอหักคะแนน แบบ เยอะๆ เลยคือขาไปเนื่องจากเป็นไฟล์เช้าหลังเที่ยงคืน โดยปกติแล้ว จะต้องปิดไฟ เพื่อให้ ผดส พักผ่อน แต่เห็นว่าช่วงนี้ข่าวมิจฉาชีพเยอะ เลย เปิดไฟตลอดไฟล์ครับ เป็นไงหละครับ 4คนชาวแก๊ง ตาโหลลงมาเลยครับ นอนไม่ได้เลย ฮ่าๆ
ต่อมาพอแลนแล้ว
หากดูตามไฟล์ข้างต้นแล้วหลายๆคนอาจจะ คิดว่า ขาไปเวลาต่อเครื่องจะพอไหมเพราะเวลาค่อนข้างสั้น และมีเวลาต่อเครื่องแค่ ราวๆ 1ชมครึ่งเท่านั้นครับ ทีนี้นี่แหละครับ ปห ไฟล์บินของผม แลนลง ฮ่องกงตอนตีห้าห้าสิบห้า ซึ่งลงตามเวลา แต่ทีนี้ กว่า คุณพี่แกจะเข้างวงช้างก็ปาไป 6โมง15 และครับ ซึ่ง เวลาบอร์ดดิ้งของไฟล ไปโอกินว่าคือ 6.45 เหลือเวลาแค่ครึ่ง ชม
ซึ่ง ใครๆก็ต้องรู้ถึง กิตติศัพท์ของ สนบ ฮ่องกง คือ มัน กว้างมาก หลายเทอมินอล และ ประเด็นของเราคือต้องนั่งรถไฟ เพื่อผ่าน การเช็คสัมภาระติดตัว และต้องนั่ง รถไฟไปๆมาๆ สองรอบเพื่อกลับมา ตึกเดิม
พอลงเครื่องแล้ว เราก็จั่มเลย ครับ กึ่งวิ่งกึ่งเดินเพราะกลัวตกเครื่อง พอเดินมาถึง ประตู Transfer
ผมกับเพื่อนนี้ omg กันอยุ่เพราะคิวยาวมาก อาจจะเป็นเพราะช่องทรานเฟอร์ตอนเช้าเปิดน้อยแล้ว ผดส รอ ทรานเฟอร์ เยอะมาก 6.35แล้วผมยังต่อแถวกันอยุ่เลยครับ แต่โชคดี ที่อยู่ๆ แถวก็รันเร็วซะงั้น เลยทำให้ เข้าไป ด้านในและไปถึงเกต ไม่เกิน 7โมง อาจจะเป็นความโชคดี ที่พอถึงเวลาบอร์ดดิ้งแล้ว เค้ายังไม่เรียกขึ้นเครื่องก็ ถือว่า เค้าต่อเวลาให้แล้วกันนะครับ ก็เป็นอันว่า บอร์ดได้ไม่ต้องถึงกับโดนไฟนอลคอล ขึ่นเครื่องโดยสวัสดิภาพครับ
ไฟล์ไปโอกินาว่าจากฮ่องกงรอบนี้ถือว่าเป็นเครื่องเล็กที่ใหม่ เลยครับ เบาะนี่นิ่มแต่ไม่มี เอ็นเตอเทนเม้น ส่วนอาหารก็ขนมปัง1ก้อน ขึ้นเครื่องปุ้ปได้ก็หลับกันทั้งแก๊ง เอาแรงซะหน่อย
ก่อนไปทริปนี้ทางกลุ่มเราทำการบ้านกันสุดๆ เพื่อนผม เปิดดู พยากรอากาศ ก่อนไปทุกวัน เพื่อจะได้เตรียมชุดไปถูก
อากาศตอนแรกที่ดูคือ 20ต้นๆ ก็ชิวๆ ไม่ต้องเอาเสื้อกันหนาวหรอก ไม่ต้องแบก เอาแค่ผ้าหมดกับหมอนไปนอนบนเครื่องก็พอ
ชุดก็ชิวๆ เนอะ ขาสั้น เสื้อกล้าม เสื้อฮาวาย ชุดเดรส ผ้าโปร่ง ฟิว ทะเลๆ ภูเก็ตบ้านเรา
พอแลนเท่านั้นแหละครับ พยากรขึ้นเลย ฝนตก อุณภูมิลงต่ำ กลาย เป็น 14องศา และ feel lik 8องศา อวสานชุดไปทะเล โดยปริยาย
ก่อนไป ทุกคนก็ทำ visit Japan ไว้ เพื่อที่ไปถึงก็จะผ่าน แบบง่ายดาย ออกมาถึงเราก็มาหาเจ้าหน้าที ที่เราจองรถไว้ หลังจากพ้นประตูสนามบินสิ่งแรก ที่กระทบหน้าคือลม ทะเลญี่ปุ่น กลิ่นนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมรู้ว่า ผมถึงแล้ว ฮาวานแห่งญี่ปุ่น
ทริปนี้ เราจองเป็น Mitsubishi eclipse cross เป็นรถ5ที่นั่ง กับ OKS rent a car ผ่าน Klook.com
โดยที่รอบนี้ ผมเลือกรถใหญ่เพราะว่าครั้งก่อนที่มาคือมากัน สามคน เลือก รถเล็ก สี่เหลี่ยมคันจิ๋ว คือ ไม่มีที่เก็บของหลังรถเลย
ต้องพับเบาะ ที่นั่ง1เพื่อวางกระเป๋า ส่วนรถคันนี้ ก็นั่งได้4คนแบบ สบายๆ แต่ กระเป๋า ที่นำมาและแนะนำคือ ไม่เกิน24นิ้ว 2ใบ และใบ 20นิ้ว 2 ใบ
ของผมรอบนี้คือ 24นิ้ว 4ใบ เลยต้อง วาง แบบที่เห็น คือ มองไม่เห็นกระจกหลัง ในใจก็คิดว่าถ้าใหญ่กว่านี้คงต้องขยับไปขับรถตู้แล้วครับ
โดยค่าเช่ารถ ตก 11842บาท ต่อ 5วัน หาร4คนก็ตกคนละ เกือบ3000บาท ส่วนตัวคิดว่าราคาสมเหตุสมผล จริงๆ ตอนแรก จะจองของ Toyota rent a car เพราะ ไกล้ สนบ มากกว่า แต่อยู่ๆ ราคาก็กระโดดขึ้นเลย เลือกของเจ้านี้แทนแต่ขอเสียคือ นั่งรถ ประมานครึ่งชม เพื่อมาเอารถ เพราะวันนั้นรถค่อนข้างติดในช่วงขาออกจาก สนบ
แพลนคร่าวๆ ของเราสำหรับทริปนี้ เราจะเริ่มที่ ในเมือง นาฮะ และวนขึ้นด้านบน คือ เขต Motobu และ เลาะลงมาเพื่อเที่ยวที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น American village/ cape munzamo และอื่นๆ แล้วกลับมาจบที่ นาฮะ ตามแผนที่นี้เลย
ซึ่ง หลังจากเอารถเรียบร้อย หาอะไรทาน ไปแวะศาลเจ้า นามิโนะอุเอะ (Naminoue shrine) เป็นศาลเจ้าประจำเมือง นาฮะที่ ถ้าไปถึงจะเห็นเป็นศาลเจ้าสีแดง ตั้งสง่าอยู่ ริมผา ซึ่ง สามารถ เดินไปทะเล มีหาดเล็กๆให้เราไปรับบรรยากาศได้เลยครับ
โดยปกติแล้ว ตามความเชื่อ ของคนญี่ปุ่น ศาลเจ้าแต่ละแห่งนั้นจะให้พร ที่ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะ ศาลเจ้า นามิโนะอุเอะ แห่งนี้ คนที่เดินทาง หรือ เดินเรือมา มักจะขอเรื่องของ การค้าขาย และการเดินทาง เนื่องจาก โอกินาว่าเป็นเกาะ ที่ การเดินทางหลักนั้นมาจากทางเรือ และอย่างที่กล่าวข้างต้น เป็นศาลเจ้าที่อยู่ริมผา ทำให้เรือที่สัญจรเข้าสู่เกาะแห่งนี้เห็น และจะต้องขอพรเพื่อการเดินทางและการค้าขายทุกครั้งไป
หลังจากไหว้พระขอพรแล้ว เราก็จะไปเช็คอินที่ โรงแรมกันครับ โรงแรมที่เราพักนั่นอยู่ในตัวเมืองห่างจาก สนามบิน 15นาที และห่างจากวัด 6นาที ซึ่งการเดินทางในเมือง นาฮะจากการขับรถนั้นค่อนข้างสะดวกเพราะทุกอย่างมักจะอยู่ไกล้ๆ กันทั้งหมดเลยครับ
โรงแรมที่เราเลือพักนั้นคือ Tokyu stay Naha ตั้งอยู่ไกล้ สถานีรถราง mono rail Tsubogawa และข้างๆ โรงแรม เป็นDon Quijote และอีกอย่างที่เลือกที่นี่เพราะ เป็นวิว ริมแม่น้ำ ครับ ค่าที่พัก สำหรับ 2ห้อง 4คน ตกที่ 29320เยน ตีเป็นเงินไทย คร่าวๆ ประมาณ6700กว่าบาท
ซึ่งห้องที่จองไว้เป็น ห้อง twin กว้างประมาน 24ตรม และนี่คือข้อดีของการมาเที่ยว ต่างจังหวัดของ ญป ครับ ที่พักไม่อุดอุ้เหมือนในเมืองแน่ๆ และ ยังไม่หมด บังเอิญห้องที่จองไว้ไม่ว่าง ทาง โรงแรมเลย ทำการอัพเกรด ขนาดให้เป็นได้ห้อง ขนาด 32ตรม มา ครับ ส่วนเรื่องความสะดวกสบายนั้นครบครับ มี เครื่องซักผ้าพร้องเครื่องอบ ตู้เย็นไมโครเวฟ อ่างแช่น้ำในห้องให้ครบครัน
พอ อาบน้ำพักผ่อนไม่นาน ก็ต้องออกไปหาอะไรทำกันหละครับ โดย ที่จะไปเทอเรส วิวสวยๆ ริมทะเล และเห็นวิวเครื่องบินขึ้นลงตลอดเวลาได้เลยครับ นั่นคือ อูมิคาจิ เทอเรส Umikaji Terrace ตั้งอยุ่ บนเกาะ Semaga Island
ซึ่ง เจ้าเกาะน้อยๆนี่ตั้งอยู่ข้างๆ สนามบินเลยครับ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ของทั้งนักท่องเที่ยวเองและคนญี่ปุ่นเองด้วยครับ ถ้าพี่ๆคนไหนชอบ vibe แบบชิวๆ ก็แนะนำเลยครับที่นี่ พอมาถึง ก็จะเห็นวิวทะเล โอกินาว่า ที่กว่างสุดลูกหูลูกตา ประกอบกับ สิ่งปลูกสร้างสีขาว เรียงกันแบบขั้นบันได โดยมี ฉากหลังเป็น โรงเเรม ตั้งตระหง่าน โดยที่ โรงเเรม Ryukyu Onsen Senagajima Hotel ที่อยู่ด้านหลังนั้น มีจุดเด่นตรงที่มีที่เเช่ออรเซ็น วิวทะเล ซึ่งรอบนี้ผมไม่ได้พักที่นี่นะครับ แต่ถ้ามีโอกาส ก็จะมาพักให้ได้เลยครับ
ส่วนอาหารเย็นที่ผม เล็งไว้ คือ ปิ้งย่าง ยากินิกุ นามว่า An-an Yakiniku ราคาไม่แรงมาก อร่อย ไม่ไกลจากเทอเรส ใช้เวลาขับรถประมาน 6 นาทีเองครับ สี่คนประมาน 8000เยน ครับ
พี่ๆสามารถ เสิชหาจากชื่อ นี้ได้เลยครับ
Yakiniku An-An (Japanese BBQ) Oroku Bypass Branch
七輪焼肉 安安 小禄バイパス店
ข้อเเนะนำ ส่วนตัวนะครับ
หากพี่ๆท่านไหน เเลนช่วง บ่ายๆ มาเอารถที่ OKS rent a car แล้ว สามารถ มาที่ umikaji terrace และเเวะกินปิ้งย่างได้เลยเเล้วค่อยเข้า รร ครับ ของผม แพลนเวลาผิดไปหน่อยเลยต้องย้อนไปย้อนมา จาก ที่เช่า รถ ไปร้านปิ้งย่างกับ เทออเรส นี่ ห่าง กันแค่ ไม่เกิน 10นาทีครับ
จบวันก็เดินเล่น ดองกี้ ข้างๆโรงแรมเลยครับ สะดวกมาก ลืมเอาอะไรมาก็ซื้อที่นี่เอาครับ หายห่วง
หมดวันไปแบบ เร็วมาก สำหรับ Okinawa Day one
Day two จะเป็นยังไงเดี๋ยวมาตามกันครับ
โฆษณา