หัวหน้าไม่ได้สบายอย่างที่คุณคิด
(เบื้องหลังความกดดันของผู้บริหารที่หลายคนไม่เคยมองเห็น)
ในสายตาของพนักงานหลายคน คำว่า “หัวหน้า” หรือ “ผู้บริหาร” มักถูกเชื่อมโยงกับอำนาจ เงินเดือนสูง และชีวิตที่ดูเหมือนจะมีทางเลือกมากกว่าใครในองค์กร
แต่ในความเป็นจริง การเป็นหัวหน้าไม่ใช่ตำแหน่งที่มาพร้อมความสุขสบายอย่างที่คิด ตรงกันข้าม มันคือ “การแบกรับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างเงียบงัน”
ผมจะพาคุณไปสำรวจอีกด้านหนึ่งของ “หัวหน้า” ที่มักไม่ถูกพูดถึง เพื่อให้เราเข้าใจและทำงานร่วมกันอย่างเห็นอกเห็นใจมากขึ้น
====
“คุณเชื่อไหมหัวหน้าหลายคนต้องแบกภาระหนี้สินอย่างหนัก”
ในช่วงที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังขยาย หัวหน้าหลายคนเลือกใช้เงินทุนจากการกู้ยืม ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้จากธนาคาร สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่เงินจากครอบครัวและเพื่อนฝูง เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ หลายคนต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูงมาก บางรายดอกเบี้ยวิ่งวันละหลักหมื่นบาท
ลองจินตนาการว่า ตื่นเช้ามาทุกวันต้องเริ่มต้นวันด้วยตัวเลขหนี้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณจะทำงานด้วยสภาพจิตใจแบบไหน? ความเครียดเหล่านี้ไม่ได้ถูกพูดออกมา แต่ฝังแน่นอยู่ในใจของหัวหน้าจำนวนมาก
====
“บางทียังไม่ทันขายของ ก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายประจำ”
หนึ่งในความเครียดของหัวหน้าคือ “Fixed Cost” ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะ “เงินเดือนพนักงาน” หากองค์กรมีพนักงาน 10 คนๆ ละ 15,000 บาท หัวหน้าต้องจ่ายเงินเดือนรวม 150,000 บาทต่อเดือน โดยไม่รู้เลยว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ในเดือนนั้น การที่ต้องจ่ายก่อนขายได้จริง คือความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ของผู้บริหาร และเป็นสิ่งที่พนักงานจำนวนมากไม่เคยรู้
====
“กำไรที่ได้มา ไม่ได้เอาไปใช้ แต่ต้องหมุนกลับไปลงทุน”
เมื่อธุรกิจมีกำไร สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคือ “หัวหน้าคงได้เงินกลับมาใช้สบายๆ” แต่ในความเป็นจริง เงินจำนวนมากต้องถูกหมุนกลับเข้าไปในธุรกิจ เพื่อขยายกำลังการผลิต เพิ่มบุคลากร หรือรับมือกับวิกฤตในอนาคต การใช้ชีวิตอย่างประหยัด แม้จะมีรายรับหลักล้าน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกของผู้บริหารจำนวนมาก เพราะพวกเขาเห็นโอกาสและความเสี่ยงที่ต้องวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้าเสมอ
====
“ความไว้ใจ = สินทรัพย์ที่หายากของหัวหน้า”
แม้หัวหน้าจะมองว่าทีมคือหัวใจขององค์กร แต่ความเป็นจริงที่น่าเศร้าคือ หัวหน้าหลายคนเคยเจอประสบการณ์ “โดนแทงข้างหลัง” ไม่ว่าจะเป็นการลาออกกะทันหัน การรวมตัวกันประท้วง หรือการทำให้ข้อมูลภายในรั่วไหล สิ่งเหล่านี้ทำให้หัวหน้าเกิดความไม่มั่นใจ และต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แม้จะไม่ได้แสดงออกมา
====
พลาดของลูกจ้าง ก็แค่เปลี่ยนงาน - “แต่พลาดของหัวหน้า = หนี้ติดตัว”
หากพนักงานทำพลาด อาจถูกให้ออก แล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่นได้ง่าย แต่สำหรับหัวหน้า ความผิดพลาดหนึ่งครั้งอาจหมายถึงหนี้จำนวนมหาศาลที่ต้องตามชำระไปอีกหลายปี ความเสี่ยงไม่เท่ากัน และผลกระทบก็ไม่เท่ากันเช่นกัน
====
หัวหน้าแบก "สุขภาพจิต" ของทีมโดยไม่พูดออกมา
ในหลายครั้ง หัวหน้าคือตัวรับแรงกระแทกจากลูกค้า จากผู้ถือหุ้น และจากทีมงาน พวกเขาต้องทำหน้าที่เป็นคนกลาง คอยปลอบใจ คอยยืดหยุ่นในเวลาทุกคนไม่พอใจ แม้ตัวเองจะเหนื่อยล้าเพียงใด พวกเขาก็ยังยิ้มเพื่อไม่ให้ทีมเสียกำลังใจ
====
“หัวหน้าคือต้นแบบของพลังเงียบ”
หัวหน้าหลายคนไม่พูด ไม่บ่น ไม่ชี้นิ้วโทษใคร พวกเขาเรียนรู้ที่จะสงบ และรับมือกับปัญหาด้วยสติ หัวหน้าที่แท้จริงไม่ใช่คนที่เอาแต่สั่ง แต่คือคนที่รับแรงสะเทือนและเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง เพื่อพาทีมไปถึงเป้าหมาย
====
ดังนั้น หัวหน้าก็เป็น “คน” ที่ต้องการความเข้าใจ
การเข้าใจหัวหน้าคือจุดเริ่มต้นของ “วัฒนธรรมการทำงานที่มีความเคารพซึ่งกันและกัน” เพราะในวันที่เราเห็นแต่สิ่งที่เราต้องการจากหัวหน้า อาจถึงเวลาที่เราควรลองถามตัวเองว่า “หัวหน้าต้องการอะไรจากเรา?”
อย่ามองแค่ความเงียบ หรือความเข้มงวดของหัวหน้าเป็นความไม่เข้าใจ แต่จงเข้าใจว่าหลายครั้ง มันคือเกราะกำบังความเครียด ความกลัว และความเหนื่อยล้าที่เขาไม่อยากให้ใครเห็น
"ผู้นำไม่ใช่คนที่ยืนอยู่บนสุดของโครงสร้างองค์กร แต่คือคนที่ยอมรับความเสี่ยงมากที่สุด เพื่อให้คนอื่นปลอดภัยและเติบโตได้อย่างมั่นคง"
บทความนี้จึงไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อให้รู้สึกสงสารหัวหน้า แต่เพื่อให้เราทำงานด้วยหัวใจที่เปิดกว้างมากขึ้น เพราะหากทีมกับหัวหน้าเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง องค์กรจะไปได้ไกลกว่าที่เคย
#วันละเรื่องสองเรื่อง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
