Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
24 เม.ย. เวลา 12:37 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค 6 ปีศาจอวกาศถล่มไทยแลนด์แดนสไมล์
.
ตอน 35 จบบริบูรณ์ภาค 6
.
ก่อนที่ร่างของภานิชาจะกระแทกเข้าใส่หุ่นเหล็ก เธอก็สามารถชะงักความเร็วนั้นได้เปลี่ยนเป็นใช้มือทั้ง2ยันหุ่นเหล็กเพื่อเป็นแรงส่งตัวเธอย้อนกลับไปหาอีงะ
.
ด้วยการใช้เท้าทั้งคู่นำไปก่อน เมื่อถึงเป้าหมายคือศีรษะของอีงะ เท้าทั้งคู่ของเธอก็ระดมเตะโดยที่สายตามนุษย์นับไมทัน แล้วตามด้วยการถีบหัวส่งท้ายจนอีงะลงไปหลับยาว
.
"ชนะอย่างขาวสะอาด" เป็นเสียงของGPSฝอย ตามด้วยเสียงคำรามของเจ้าปีศาจ "ไม่ได้เรื่องสักตัว แอชมัท เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้เองรึ ดูท่าว่าข้าต้องลงมือเองแล้ว"
.
หุ่นยักษ์จึงขยับตัวด้วยการยื่นแขนทั้ง2ข้างออกไปข้างหน้าแล้วยิงจรวดใส่ทันที "แช้ะๆ" เป็นเสียงจรวดขัดข้องยิงไม่ออก "นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีก" หุ่นยักษ์หัวเสีย
.
แอชมัท "ขอโทษด้วยนายท่าน คือข้าลืมใส่จาระบีช่วยให้มันหายติดขัด"
.
หุ่นยักษ์ "ข้าตัดสินใจใหม่แล้ว ข้าจะไล่ทุบนางหญิงคนนี้ก่อน แล้วจัดการกับพวกเจ้าทุกคนยกเว้นนรสิงห์"
.
แอชมัท "ได้ไงล่ะ นายท่าน แล้วข้าผู้เป็นทาสที่ซื่อสัตย์ของท่านเล่า"
.
หุ่นยักษ์ "เจ้าแหละตัวดี นี่เจ้าเป็นนักประดิษฐ์แห่งกาแล็กซี่จริงหรือว่านักโม้กันแน่ เพราะสิ่งประดิษฐ์ของเจ้าทุกชิ้นมีข้อบกพร่องในส่วนสำคัญทุกชิ้น ตั้งแต่โกโร่มาแล้ว ทำไมจุดอ่อนของมันต้องไปเหมือนคนจริงๆ แล้วยังนินจาอีงะที่ฝีมือห่วยแตก"
.
แอชมัท "นี่แหละคือความวิเศษของข้า นายท่าน สามารถสร้างได้เสมือนจริง"
.
หุ่นยักษ์ "ข้าเบื่อที่จะเถียงกับเจ้าแล้ว" จากนั้นเจ้าหุ่นยักษ์ก็เงื้อมือขึ้นไล่ทุบภานิชาที่เอาแต่หนี กระโดดหลบไปทางโน้นทีทางนี้ที จนหุ่นยักษ์โกรธา
.
"อย่าหนีนะ นางมนุษย์ ยอมให้ข้าทุบเสียดีๆ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าทรมาน รับรองว่าทุบแค่หมัดเดียวเท่านั้น ถ้าเจ้าดื้อรับรองว่าเจ้าจะไม่ตายดี ศพไม่สวยแน่"
.
ภานิชายังคงหนีการไล่ทุบไล่กระทืบของหุ่นยักษ์ ซึ่งตอนนี้เธอถูกบีบให้ต้องหนีเข้าไปใกล้ทะเลแมกมาที่กำลังเดือดพลั่ก
เจ้าปีศาจ หัวเราะก้อง "เห็นไหมนางมนุษย์ ชายเหล่านี้ล้วนเอาเปรียบเจ้า เจ้าต่อสู้แทบตายแต่พวกเขาไม่มีใครช่วยเจ้าเลย แม้แต่สามีของเจ้า"
.
ภานิชาชะงักกับคำพูดของเจ้าปีศาจ จึงเปิดโอกาสให้มันเงื้อกำปั้นเหล็กทุบลงมาโดยแรง ซึ่งหากเธอหลบมันไม่ทันเธอคงมีสภาพไม่ต่างจากกล้วยทับเป็นแน่
.
สภาพนั้นย่อมไม่ใช่ภานิชาเพราะทันทีที่มันเงื้อมือขึ้นภานิชาก็ทิ้งตัวลงกับพื้นแล้วไถลกายลอดหว่างขาของมัน จากนั้นทั้ง7คนก็ร่วมใจกันผลั่กหุ่นยักษ์ที่ยืนหันหลัง
ลงสู่ทะเลเดือดของแมกมา
.
ภานิชา "ฉันเชื่อใจเพื่อนของฉันมากกว่าเชื่อใจตัวเอง โดยเฉพาะสามีของฉันที่ตายแทนฉันได้"
.
ทั้งที่หุ่นเหล็กกำลังหลอมละลายแต่เจ้าปีศาจกลับหัวเราะเหมือนมันกำลังแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน "พวกเจ้าคิดว่าความร้อนเพียงแค่นี้จะทำลายข้าได้หรือ เจ้าพวกโง่
ขนาดใจกลางของโลกที่พวกเจ้าอยู่ในขณะนี้มีอุณหภูมิหลายพันองศาข้ายังทำให้กลายเป็นอุณหภูมิปกติเหมือนบนพื้นโลกได้ แมกมาเดือดจะทำอะไรข้าได้ แล้วตอนนี้ก็ได้เวลาที่ข้าจะย้ายร่างเสียที"
.
ร่างที่แท้จริงของเจ้าปีศาจร้ายเป็นวุ้นลางๆและมีสิ่งสกปรกเต็มไปหมด ขนาดของมันเหมือนผ้าผืนใหญ่ราวจะปิดทางเดินได้หมด มันวนเวียนไปมาในอากาศเหมือนคิดไม่ตกที่จะย้ายร่างไปที่ใครใน 7 คนนี้
.
ศาตราจารย์พาราด็อกซ์และแอชมัทยืนคู่กัน ดูน่าขบขันที่ส่วนสูงแตกต่างกันแถมคนละเผ่าพันธุ์
ราชาดิษยมานพถือปืนบลาสเตอร์ยืนคู่ราชาผณินทรที่ถือดาบของลุคเพราะภานิชาส่งให้ช่วยถือ
.
ภานิชาที่มือเปล่ายืนหันหลังชนกับแสนสุริยาที่ถือดาบเลเซอร์ของอนาคินผู้เป็นพ่อของลุค ดังนั้นจึงเหลือเพียงนรสิงห์ที่ยืนอยู่เพียงลำพังด้วยท่าทีที่ไม่ทุกข์ร้อน
.
เจ้าปีศาจ "เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะยึดร่างของเจ้าหรือนรสิงห์"
.
นรสิงห์ "ทุกคนอาจกลัวเจ้าแต่ไม่ใช่ข้า เพราะข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาใช้ร่างของข้าง่ายๆแน่"
.
เจ้าปีศาจไม่ตอบมันใช้ร่างที่เหมือนวุ้นสกปรกเป็นเหมือนผืนผ้าคลุมใส่ร่างของนรสิงห์ ซึ่งเขาก็พยายามต่อต้านแต่ไม่เป็นผล เพราะวุ้นสกปรกซึมเข้าไปในร่างของ
เขาจนหมด
.
แล้วเสียงของนรสิงห์ก็เปลี่ยนเป็นเสียงแหบอู้อี้ "wonderful ช่างมหัศจรรย์อะไรเช่นนี้ ข้ารู้สึกถึงพลังมหาศาลที่ไหลเวียนในกายของข้าอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน"
.
เจ้าปีศาจในร่างของนรสิงห์หกคะเมนตีลังกาอย่างสนุกสนาน มันสนุกได้ที่จึงหยุดและชูกรงเล็บของนรสิงห์ขึ้น "จัดการใครก่อนดี เจ้า2นักวิทย์นั่นไว้หลังสุดเพราะต่อสู้ไม่เป็น
.
2ราชาก็ธรรมดาไป เจ้าหนุ่มผมยาวคนนั้นข้าก็เสียดายความหล่อ 3คนนี้จัดการเมื่อไหร่ก็ได้ดังนั้นก็เหลือนางหญิงคนนั้นที่ข้าต้องจัดหนัก"
.
เสียงของนรสิงห์ "เจ้าปีศาจ ข้าจะไม่ต่อสู้กับผู้หญิงที่เป็นเพศอ่อนแอ"
.
เสียงของนรสิงห์เปลี่ยนเป็นเสียงแหบอู้อี้ "เพศอ่อนแอที่ไหนกัน เจ้าก็เห็นที่นางเล่นงานโกโร่ และ อีงะ ยังไงก็ต้องกำจัดนาง ว่าแต่...เอ๊ะ...นั่น..เจ้านักวิทยาศาสตร และ แอชมัท กำลังทำอะไร นี่มันหลุมดำนี่นา
.
นรสิงห์เจ้ากำลังเดินนำข้าไปสู่ทางหายนะ ถอยออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าเดินเข้าไปหามัน อ้อ...ลืมไปว่าเจ้ามาจากยุคโบราณจึงไม่รู้จักวิทยาการสมัยใหม่ ชะ..ชะ...พวกเจ้าใช้วิธีนี้กับข้าไม่ได้ผลหรอก เพราะข้ากำลังจะออกจากร่างของนรสิงห์ ณ บัดnow"
.
เสียงเปลี่ยนเป็นนรสิงห์ "เจ้าเสียทีแล้ว เจ้าปีศาจ ข้ามีพลังวิเศษที่สามารถคุมขังเจ้าไว้ไม่ให้ออกมาจากร่างของข้าได้ เมื่อเข้าไปสู่หลุมดำที่มีแรงโน้มถ่วงมหาศาลจนสามารถดูดกลืนทุกสรรพสิ่งไม่เว้นแม้แต่แสง
เมื่อนั้นข้าจะปล่อยเจ้าเป็นอิสระ และ ถูกกักขังร่วมกับข้าตลอดไปชั่วกัลปาวสาน ภาษาอังกฤษคือ Forever"
.
เจ้าปีศาจ "ข้าไม่อยากรู้ภาษาอังกฤษ ข้าเพียงข้องใจว่าพวกเจ้าเอาเวลาตอนไหนไปวางแผนในเมื่อข้าอ่านใจ และ รู้ถึงความคิดของพวกเจ้า ทั้งแอชมัททำไมไม่อยู่ในความควบคุมของข้า"
.
แอชมัท "ข้าจะบอกให้เจ้าหายโง่ ข้าไม่เคยอยู่ใต้อำนาจของเจ้า ที่แกล้งบ้าก็เพื่อจะได้รู้แผนการของเจ้า
ในขณะเดียวกันก็ให้ภานิชาต่อสู้กับสิ่งประดิษฐ์ที่ข้าสร้างให้มีจุดอ่อนจึงจัดการได้โดยง่าย
.
การต่อสู้นั้นเป็นการดึงความสนใจของเจ้า เพื่อให้สร้างหลุมดำสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งนรสิงห์ก็ขอเป็นผู้เสียสละเข้าสู่หลุมดำพร้อมกับเจ้าเป็นการขจัดภัยของจักรวาล
.
เจ้าปีศาจ "ถ้าเช่นนั้นกองทัพหุ่นเหล็กที่ส่งไปยึดไทยแลนด์แดนสไมล์ก็คงต้องมีจุดบกพร่องอะไรสักอย่างใช่ไหม แอชมัท"
.
"เกรงว่าจะใช่ คือเนื่องจากวันนี้เป็นวันสงกรานต์ที่คนไทยเล่นสาดน้ำกัน ข้าจึงสร้างจุดอ่อนให้หุ่นเหล็กพวกนี้ทำร้ายใครไม่ได้ เอาแต่เดินสวนสนามโชว์พลัง
และ พอโดนน้ำแม้เพียงนิดก็สลายกลายเป็นอากาศธาตุ ส่วนตอนนี้เจ้าไปอยู่ในที่ที่ไม่พึงประสงค์ได้แล้ว"
.
เจ้าปีศาจร้องโหยหวน "ไม่......." ในขณะที่นรสิงห์ซึ่งมีร่างของเจ้าปีศาจอยู่ด้วยกระโจนเข้าสู่หลุมดำ และ ตามด้วยเสียงของGPSฝอยที่โหยหวนไม่แพ้กัน "ฝอย
ลาก่อนนะคร้าบบบบทุกท่านนนนน ลาแล้วลาลับบบบบบ"(เสียงเอคโค่)
.
พวกเขาทั้ง6ไม่สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของนรสิงห์ที่เข้าไปในหลุมดำได้อีก ทุกคนต่างรำลึกถึงนรสิงห์ในความเสียสละ
คิดถึงฝอยที่แม้จะพูดมาก แต่ช่วงเวลาที่ตกอยู่ในภาวะคับขัน หากไม่มีฝอยจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
.
เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวหลุมดำนั้นก็หายไปเหมือนไม่เคยมี "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป" ของท่านพุทธทาสภิกขุเป็นกฏของธรรมชาติ เป็นสัจธรรมของชีวิตกลับนำ
มาใช้กับวิทยาศาสตรได้อย่างไม่น่าเชื่อ
.
ศาตราจารย์พาราด็อกซ์ "จบเรื่องเสียที ผมเสียใจที่งานนี้ต้องเสียฝอยไป และ ผม
คงไม่สามารถสร้างเขาขึ้นมาใหม่ได้อีก ถึงสร้างได้ก็ไม่สร้าง ของทุกสิ่งจะมีค่าและความหมายคือมีเพียง 1 เดียวเท่านั้น เอาละผมจะส่งพวกคุณกลับไปยังที่ที่จากมา"
.
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะแล้วศาตราจารย์พาราด็อกซ์จึงพูดต่อ "ขอโทษด้วยที่ผมต้องลบความทรงจำของพวกคุณ ยกเว้นภานิชาเพราะเธอมีหน่วยความจำของหุ่นยนต์
.
และข้อสำคัญเมื่อเราสามารถกำจัดปีศาจอวกาศได้แล้ว เหตุการณ์ต่างๆที่พวกคุณได้พบจึงไม่เคยเกิดขึ้น ภานิชาและแสนสุริยายังคงติดอยู่ในมิติที่บิดเบี้ยว
.
ราชาดิษยมานพยังคงติดตามเรื่องยานต่างดาวที่ตก ราชาผณินทรก็ไม่เคยออกจากนครอวตาร์และกำลังเฝ้ารอการเกิดของลูกแฝดด้วยความสุข"
.
ภานิชา "เดี๋ยวก่อนท่านศาตราจารย์ แล้วลูกฝาแฝดเด็กชายพันแสนและเด็กหญิงแสนคำนึงของฉันล่ะ พวกลูกๆกำลังรอแสนสุริยาและฉันกลับไป ทั้งสุนันทวัฒน์ก็
รอให้ฉันกลับไปหิรัณยนคร เพื่อเขาจะได้กลับไปแต่งงาน"
.
ศาตราจารย์พาราด็อกซ์ "ผมขอยืนยันว่าเมื่อปีศาจอวกาศถูกกำจัดแล้ว เหตุการณ์ต่างๆที่พวกคุณได้พบจึงไม่เคยเกิดขึ้น
เชื่อผมเถอะ เรื่องน่าอัศจรรย์ต่างๆที่พวกคุณพบเป็นภาพแห่งจินตนาการที่เจ้าปีศาจสร้างขึ้นเพื่อเลือกร่างที่ดีที่สุดสำหรับมันไว้อยู่อาศัยเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ"
.
ราชาดิษยมานพ "ถ้าเช่นนั้นมีอะไรที่เป็นเรื่องจริงบ้าง"
.
ศาตราจารย์พาราด็อกซ์ "ดาวเคราะห์น้อย Apophis ที่จะเฉียดเข้าใกล้โลก 13-4-2029(พศ.2572)ซึ่งตรงกับสงกรานต์ไทยในระยะห่าง 37399 กม. คือ
ความจริงที่มีเพียง 1 เดียว"
.
จบภาค 6 แรงบันดาลใจจาก สกูบี้ดู บริษัทป่วนผีไม่จำกัด และ ภาพปกจากภาพยนตร์สกูบี้ดู
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย