27 เม.ย. เวลา 03:19 • การศึกษา

การเป็นทหารเกณฑ์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด🤔

การเกณฑ์ทหารเป็นสิ่งที่ชายไทยแทบทุกคนต้องเผชิญเมื่ออายุครบ 21 ปี สำหรับผู้ที่จับได้ใบดำ ก็อาจโล่งใจที่ได้ก้าวต่อไปบนเส้นทางชีวิตของตนเอง แต่สำหรับผู้ที่ได้ใบแดง หลายคนกลับต้องพบกับความเสียใจและผิดหวัง เพราะต้องพลัดพรากจากอนาคตที่วางไว้ คนรัก หรือแม้กระทั่งการงานที่มั่นคง หลายโอกาสต้องถูกสละ เพื่อมาทำหน้าที่รับใช้ชาติ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัวการเกณฑ์ทหาร — ไม่ใช่เพราะไม่รักชาติ แต่เพราะต้องแลกบางสิ่งบางอย่างในชีวิตที่สำคัญสำหรับพวกเขา
ในขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่าการเป็นทหารเกณฑ์คือโอกาส แม้เงินเดือนจะน้อยเมื่อเทียบกับงานทั่วไป แต่สำหรับพวกเขา มันคือจุดเริ่มต้นสู่อนาคตที่มั่นคง ด้วยนโยบายของกองทัพที่เปิดโอกาสให้พลทหารสามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบได้ พวกเขามองเห็นเส้นทางในการต่อยอดชีวิต และภายในองค์กรเองก็มีระบบช่วยเหลือและผลักดันอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้การเริ่มต้นจากการเป็นพลทหาร กลายเป็น ‘ใบเบิกทาง’ สู่การมีอาชีพที่มั่นคงในระยะยาว
การที่พลทหารจะสามารถต่อยอดไปเป็นนายร้อยได้นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้แน่นอน โดยการเปลี่ยนแปลงจากพลทหารไปเป็นนายร้อยนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมและการสอบคัดเลือกในระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น การเข้าเรียนในโรงเรียนทหารเพื่อเพิ่มทักษะทางด้านการทหาร รวมถึงการทำตามข้อกำหนดต่างๆ ที่กองทัพกำหนดให้กับผู้ที่ต้องการเข้ารับตำแหน่งนายร้อย ซึ่งจะต้องมีการทดสอบทั้งด้านร่างกาย ความรู้และความสามารถในการนำทัพ
ดังนั้น แม้จะเริ่มต้นจากตำแหน่งพลทหาร แต่การฝึกฝนและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองสามารถพาคุณไปสู่ตำแหน่งนายร้อยได้หากผ่านการฝึกฝนและสอบคัดเลือกตามขั้นตอน
วิธีสำหรับคนที่เป็นพลทหารแล้วอยากต่อยอดอาจมีหลายทางเลือก ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ต้องการ แต่หลักๆ อาจแบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้
  • วิธีที่ง่ายสำหรับคนไม่ชอบความท้าทาย
โดยการเข้าเรียนเพื่อเป็นนายสิบแล้วหลังจากจบการศึกษาและบรรจุเข้าทำงาน โดยสามารถเรียนปริญญาตรีควบคู่กับการทำงาน เมื่อเรียนจบและได้รับปริญญาตรีแล้ว สามารถสอบเลื่อนยศจากนายทหารชั้นประทวนไปยังนายทหารชั้นสัญญาบัตรได้
  • วิธีที่เหมาะสำหรับคนต้องการท้าทายตัวเอง
การเข้าเรียนเพื่อเป็นนายสิบเหมือนกับวิธีแรก แต่จะต้องพยายามทำคะแนนให้ดีในทุกด้าน เพื่อให้ตัวเองอยู่ในลำดับที่ 1-10 ของกองพัน (สมมุติเปรียบเทียบกับโรงเรียนที่มีนักเรียนทั้งหมด 2,000 คน) เมื่อทำได้แล้ว จะมีสิทธิ์ในการเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการสอบขึ้นเหล่า ซึ่งเราจะต้องเลือกเหล่าจากทั้งหมด 4 เหล่า ได้แก่ ทหารอากาศ ทหารบก ทหารเรือ และตำรวจ
เมื่อสอบติดเหล่าที่ต้องการแล้ว เช่น หากเลือกเหล่าทหารบก จะได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษา จะได้รับพระราชทานยศนายทหารสัญญาบัตรเป็นร้อยตรีทันที
จริงๆ แล้วการเป็นทหารเกณฑ์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด โดยเฉพาะภาพจำที่คนส่วนใหญ่เห็นคือการลงโทษถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งเมื่อก่อนอาจจะเคยมี แต่ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไป สื่อโซเชียลเข้าถึงได้ง่าย ทำให้การลงโทษแบบทำร้ายร่างกายได้หายไปตามกาลเวลา
ปัจจุบันการลงโทษยังคงมีอยู่ แต่จะเป็นการสั่งออกกำลังกายเพื่อพัฒนาร่างกาย เช่น กระโดดตบ ดันพื้น ลุกนั่ง หรือท่าอื่นๆ ที่ใช้กำลังแขนและขา ซึ่งแน่นอนว่าผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของตัวเราเอง ขอบคุณครับ
การเป็นทหารไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตและพัฒนาตัวเอง ทุกความท้าทาย คือโอกาสในการเรียนรู้ และสร้างความแข็งแกร่งในตัวเรา
-เล่า-
Cr.รูปภาพจาก กองพันจู่โจมรักษาพระองค์
โฆษณา