สรุปงาน BEAT THE MARKET ได้ข้อคิดอะไรจากงานนี้บ้าง ? /โดย ลงทุนแมน
- งานนี้มีการพูดคุยในหลายมิติ จบแล้วมาคิดต่อได้หลายชั้น ได้ Insight ของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งปัจจุบัน และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- ในงานนี้มี 8 Sessions มีหลายประเด็นที่แต่ละเนื้อหาที่ Speakers พูด ได้เชื่อมโยงต่อกันไปอีก Session หนึ่ง คนได้เข้าร่วมงานอย่าง ลงทุนแมน ได้ต่อจิ๊กซอว์เหล่านั้น และทำให้คิดได้อีกหลายเรื่องจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้
นอกจากความรู้เรื่อง Megatrend แล้ว สิ่งที่ลงทุนแมนสังเกตได้จากงานนี้ก็คือ ในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการจัดการทางด้านอารมณ์ของผู้ลงทุนสูงมาก ทั้งทัศนคติในการลงทุน และการเข้าใจจิตวิทยาของตลาดทุน เมื่อเข้าใจ เราจะจัดการ หรือปล่อยวางมันได้อย่างถูกต้อง
สรุปแล้วงานนี้ ได้ทั้งข้อมูลเชิงลึก และวิธีคิดมากมาย ที่ทำให้ผู้ร่วมงานเก่งขึ้น
งานนี้เป็นงานรวม Speakers ระดับหัวกะทิ ที่ถ้านับรวมคุณวุฒิ, วัยวุฒิ, ชั่วโมงบินในการลงทุนของ Speakers ทุกคนรวมกันคงประเมินมูลค่าไม่ได้ และไม่แน่ใจจะจัดแบบนี้อีกทีได้หรือไม่
ถ้าให้นับคุณวุฒิ CFA ในงานก็มี 3 คนแล้ว (รวมพิธีกร)
ถ้าใหนับทรัพย์สินที่ Speakers ทุกคนลงทุนรวมกัน ก็น่าจะระดับหมื่นล้านบาท
มีคุณประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ที่เป็นผู้จัดการกองทุนให้นักลงทุนสถาบัน ระดับหลายหมื่นล้านบาท มาเล่า Blackswan ที่ตัวเองเจอตอนเริ่มต้นลงทุน วิกฤตินั้นคือ Black Monday ปี 1987 คุ้มค่ามากที่ได้ฟัง
มี ดร.นิเวศน์ ที่คราวนี้ลงทุนแมนคิดว่า ดร.นิเวศน์ เตรียมตัวมาดีมาก อธิบายเรื่องผลตอบแทนแต่ละตลาดทั้ง สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ไทย ทำให้เห็นความสำคัญของการเลือกสถานที่ เลือกเวลา การอยู่ในสิ่งที่ "ถูกที่ ถูกเวลา" ทำให้แตกต่างได้ จนลงทุนแมนอยากไปฟัง rerun ช่วง ดร.นิเวศน์ ซ้ำอีกรอบ
Session ที่ลงทุนแมนประทับใจที่สุด session หนึ่งในงานนี้
คือ ช่วงที่คุณยศพนธ์, CFA กับ คุณมี่ ทิวา มาวิเคราะห์หุ้น 7 นางฟ้าสหรัฐ และ 10 เทพจีน ในทุกมิติ
คือได้เห็นภาพชัดเลย ว่าเมื่อเทียบตัวต่อตัวเป็นอย่างไร
นอกจากนั้น คุณยศพนธ์ ยังได้สรุป "สมการ GDP" ได้อย่างกินใจ GDP = C+I+G+(X-M)
สิ่งสำคัญคือ X และ M
X คือ Export เป็นผลบวกต่อ GDP
M คือ Import เป็นผลลบต่อ GDP
สมการนี้จะไม่มีปัญหาอะไร หากแต่ละประเทศสามารถ Export ในสิ่งที่ตัวเองเก่ง
แต่ในโลกนี้ ดันมีอยู่ประเทศหนึ่งที่ผลิตสินค้าเกือบทุกอย่างได้ราคาถูกกว่าทุกประเทศ
ทำให้ประเทศนี้เพิ่ม GDP ด้วยตัว X และโยนภาระ M ไปลด GDP ประเทศอื่น
และในที่สุดก็มีประเทศหนึ่งที่มีอำนาจ ลุกขึ้นมาแก้ไข และมันก็ทำให้เกิดเรื่องราวที่เราเห็นในทุกวันนี้ เรื่องนี้คุณยศพนธ์อธิบายได้ลึกและเฉียบคมจริง ๆ
คุณมานะชัย อธิบายให้เห็นมุมมองเฉพาะตัว ที่น่าสนใจอยู่เสมอ มาคราวนี้เขาได้เน้นถึงการบอกว่า การคิดแตกต่างจากคนอื่น ไม่ได้ทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนเสมอไป เช่นหุ้นตกเยอะ ๆ และซื้อสวนจะไม่ได้กำไรเสมอไป แต่ที่เราคิดต่างมันเป็นความจริงแบบที่เราคิดในตอนสุดท้ายหรือเปล่า รวมไปถึงเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องที่ใหญ่จริง ๆ หรือเปล่า ถ้าเรื่องเล็ก ๆ ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
คุณชนาเมธ ได้เตือนใจใน session 10X สำหรับคนมองกิจการที่เติบโตว่า ในบางครั้งงบการเงินที่สะท้อนถึงแต่อดีต อาจทำให้การทำ Valuation ประเมินมูลค่ากิจการไม่ได้ ถ้าเรายึดติด เราอาจตาบอด เราควรมองที่ธุรกิจในอนาคตว่ามันจะเป็นอย่างไร
คุณเมธพนธ์ ก็ได้เสริมข้อเท็จจริงว่าแต่ในบางครั้งกิจการที่มีประวัติ และที่เราจับต้องได้ ก็ดีกว่าถ้าได้ทำ Valuation ประเมินมูลค่าก่อนที่จะซื้อ
คุณพสุวุฒิ, CFA ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล บอกเทคนิคเวลาหุ้นเกิดวิกฤติว่า หากวิกฤติจบเร็ว บางครั้งอาจทำอะไรไม่ทัน แต่ถ้าวิกฤติลากยาวมีเวลาให้เราคิด เราอาจจะเปลี่ยนตัวไปซื้อหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่ามาก ๆ ได้
คุณเชาว์ เฉลิมเดช ให้การเปรียบเทียบว่า เราควรวางแผนตั้งแต่ก่อนวิกฤติให้พอร์ตเราแข็งแรง เมื่อเกิดวิกฤติให้เราทำตัวเหมือนเต่า หดอยู่ในกระดองเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร ถ้าเราทำอะไรในช่วงฝุ่นตลบ เราอาจทำผิดพลาดได้
คุณหลิน วีระพงษ์ ทำให้เห็นว่าการลงทุนเป็นเรื่องสนุก มันอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด แม้แต่ตุ๊กตา Popmart ก็เปลี่ยนความชอบให้เป็นการลงทุนได้
คุณสิทธิชัย หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุน InnovestX ได้เชื่อมโยงเทคโนโลยีอนาคต EV, Smartphone, Humanoid Robot, Autonomous Car, Low Orbit Satellite ได้อย่างน่าสนใจ โลกในอนาคตหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเดินไปทางนี้
คุณศุภอรรถ ได้อธิบาย Cycle ของ P/E ว่าให้เตรียมใจไว้ อย่าคิดว่า P/E ของตลาดที่เราเห็นกันอยู่มันจะคงอยู่ได้ตลอดไป นี่คือความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่นักลงทุนควรระวังไว้
คุณภาคย์ภูมิ นายกสมาคม Thai VI ได้สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดการลงทุนให้เห็นภาพชัดเจน การชนะตลาด เราต้องมีความคิดเป็นอิสระ มีกลยุทธ์ที่มีความได้เปรียบ และรู้จักเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่เสมอ
ปิดท้ายด้วย คุณวิบูลย์ พาให้เห็น "แก่นแท้" ของการลงทุนอย่างแท้จริง และหากเรากลุ้มใจไม่รู้จะทำอย่างไรในวิกฤตินี้ เขายกคำพูดของ เบนจามิน เกรแฮม ว่า “เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป”
สิ่งที่สัมผัสได้..
งานนี้ เป็นหนึ่งในไม่กี่งานที่พอ Speakers พูดจบ ก็วนกลับมานั่งฟังกันเอง เพราะแม้แต่ Speakers เองก็ยังอยากอัปเดตความรู้จากกันและกัน
ขอขอบคุณ Speakers ทุกท่านที่ให้เกียรติ "ลงทุนแมน" มาร่วมถ่ายทอดความรู้ในงานนี้
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงการสรุปจากบางส่วน ถ้าอยากดูรายละเอียดเต็ม ๆ เหมือนเข้าร่วมงาน งานนี้มีออนไลน์ Rerun ดูย้อนหลัง
ถ้าไม่อยากพลาด https://www.zipeventapp.com/e/BEAT-THE-MARKET-2025
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
