ล่าสุดได้มีโอกาสฟังพี่มี่ ในอีเวนต์ "ลงทุนแมน Beat the Market"
ซึ่งเป็น Session ที่ได้ดีเบตกับพี่ มิกกี้ ในหัวข้อ 7 นางฟ้าอเมริกา vs 10 ทศเทพจีน
ซึ่งในรอบนี้ส่วนตัวก็ค่อนข้างชื่นชอบ มุมมองของพี่มี่ ที่ได้นำเสนอออกมามาก ๆ อธิบายได้ชัดเจน และทำให้ผมได้ความรู้เกี่ยวกับหุ้นจีนที่มากขึ้น
โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ ในท้าย Session พี่มี่ได้เลือก 3 หุ้นจีน ที่คิดว่าน่าจะเติบโตได้ต่อไปยาว ๆ นั่นคือ
- BYD
- Xiaomi
- SMIC
ถ้าสังเกตดีดี หุ้น 3 ตัวนี้ มีจุดร่วมที่เหมือนกัน คือในแง่ของการผลิต
ผลิตเยอะ ๆ และก็ผลิตให้ได้ต้นทุนที่ถูก
โดยตัวที่ผมสนใจคือ SMIC หรือโรงงานรับจ้างผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ (Foundry) ที่ใหญ่ที่สุดในจีน แน่นอนว่าในอนาคต โรงงาน SMIC ก็จะต้องรับจ้างผลิตชิปให้ แบรนด์ดังต่าง ๆ ในจีน หนึ่งในนั้น ก็คือ BYD และ Xiaomi นั่นแหละ
อย่างที่คุณโบ๊ท InnovestX ออกมาพูด
ว่าตอนนี้ อเมริกา ต้องการ Ecosystem สำหรับส่งเสริมซัปพลายเชนในประเทศถึง 5 อย่าง
แต่สำหรับจีนแล้ว เขาต้องการอย่างเดียวคือ "เซมิคอนดักเตอร์"
เอาจริง ๆ จีนเองก็มีโรงงานผลิต ที่ใหญ่อยู่แล้วอย่าง SMIC
แต่สิ่งที่จีนกำลังขาดไป ก็คือเรื่อง KnowHow หรือ เทคโนโลยีน่ะแหละ
ในเมื่อ ASML ไม่ได้ส่งเครื่องผลิตชิปชั้นสูงไปให้ แน่นอนว่า จีนก็ต้องหาทางสร้างเครื่องผลิตของตัวเอง
ซึ่ง SMIC ส่วนตัวมองว่า ตัวนี้ จะกลายเป็น Foundry ชิป ในโลกของอุตสาหกรรมไอทีของจีน
คือเมื่อเทคโนโลยีดีพอแล้ว ก็อาจจะรับจ้างผลิตชิป ให้พวกแบรนด์จีนทั้งหลาย
อย่าง Tencent, BYD, Xiaomi, Huawei, หรือ Bytedance อะไรทำนองนั้น
ซึ่งถ้าพูดถึงในแง่เทคโนโลยี ผมได้ลอง Research ดูคร่าว ๆ แล้วว่า ในปัจจุบัน
- TSMC สามารถผลิตชิปได้เล็กกว่า SMIC
ปัจจุบัน TSMC ผลิตเป็น Mass Production ได้ 3 nm
ส่วน SMIC ผลิตเป็น Mass Production ได้ 7 nm
- ต้นทุนการผลิตของ TSMC ต่ำกว่า SMIC
- Yield ที่ได้จากการผลิตของ TSMC ที่ 3-5 นาโนเมตร
มากกว่า SMIC ที่ 7 นาโนเมตร
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีของ SMIC จะดูแย่กว่า
แต่ผมก็เชื่อว่าในอนาคต จีน ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาให้ TSMC รับจ้างผลิตชิปให้
และ TSMC ก็ไม่จำเป็นต้องผลิตชิปให้กับแบรนด์จีนเช่นเดียวกัน
เพราะ ลูกค้าหลัก ๆ ของ TSMC ในตอนนี้ ก็คือ
ชิปของแบรนด์ดังฝั่งอเมริกา อย่าง Apple, NVIDIA, AMD, Qualcomm หรือ Broadcom
หรือแบรนด์ญี่ปุ่นหรือไต้หวันอย่าง Sony หรือ Mediatek ยังไงก็ต้องจ้าง TSMC ในการผลิตชิปให้
ซึ่งสัดส่วนรายได้ของ TSMC มากกว่า 90% ก็มาจากประเทศอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน หรือยุโรป
ซึ่งอนาคตผมเชื่อว่า TSMC อาจจะผลิตชิป ให้กับโลกทุนนิยม ที่ไม่มีจีนอยู่ในสมการ
ส่วน จีน ก็อาจไม่จะเป็นต้องพึ่งพาการผลิต จากประเทศข้างนอกอย่าง TSMC อีก โดยใช้บริษัทในประเทศ อย่าง SMIC ผลิตให้
และถึงแม้ว่า ในจุดหนึ่งที่จีนจะสามารถยึดหัวหาดในตลาดการผลิตอย่างชิปภายในประเทศไปได้
แต่ในด้านการออกแบบชิป อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจีน จะสามารถทำได้ดี เท่า ๆ กับ NVIDIA, AMD, Qualcomm หรือ Broadcom หรือเปล่า..
ซึ่งสุดท้าย ก็เลยมองว่าแม้ SMIC จะดูมีอนาคตไกล
แต่ยังไงซะ TSMC ก็น่าจะยังมี Compettitive Advantage หรือความได้เปรียบในการแข่งขันอยู่ดี ด้วย Ecosystem ของการรับจ้างผลิตชิป จากบริษัทผู้ออกแบบชิปทั้งหลาย
ด้วยเหตุผลนี้ ถ้าหากลองมองเรื่อง Geopolitical
แน่นอนว่า อเมริกา ก็จะไม่มีทางเอา TSMC ที่มี Know How การผลิตชิป ที่เหนือชั้นมากกว่าอยู่หลายขุม ไปให้จีนแบบง่าย ๆ
(แม้ TSMC จะไปสร้างโรงงานผลิตชิปขนาด 2-3 nm ที่แอริโซนาแล้ว แต่ผมก็เชื่อว่า ไต้หวันเอง ก็น่าจะฉลาดพอ ที่จะกั๊ก KnowHow บางอย่าง โดยไม่เอาไปให้สหรัฐอเมริกา)
ซึ่งแน่นอนว่า TSMC ก็หมายถึง "ไต้หวัน" ที่อเมริกา หวงมาก ๆ
และก็คงจะไม่ให้ดินแดนแห่งนี้ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมหาอำนาจ "จีน"
ไปแบบง่าย ๆ นั่นแหละ..
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
