Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BirdBrand
•
ติดตาม
28 เม.ย. เวลา 00:46 • การตลาด
กลยุทธ์การตลาดที่กล้าหาญ!♟️
"ตลาดเทคโนโลยีขายของ (Sales Technology) ตอนนี้อิ่มตัวสุดๆ แล้ว"
การเล่นแบบปลอดภัย คือสิ่งที่เสี่ยงที่สุดที่คุณจะทำได้ในฐานะผู้นำธุรกิจ และการทำอะไรแบบอ้อมๆ หรือเนียนๆ นั้น...น่าเบื่อ
สิ่งที่ "คาดเดาได้" = น่าเบื่อ
สิ่งที่ "เหนือความคาดหมาย" = น่าตื่นเต้น, แตกต่าง, และทำให้ละสายตาไม่ได้!
🦜นกกระซิบ: เรื่อง “Expected = Boring” และ “Unexpected = Exciting!”
เหตุผลที่ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดหลายคนยังทำสิ่งที่น่าเบื่อ มีหลายอย่างรวมกันนะ:
1. ความกลัวล้มเหลว: คนส่วนใหญ่กลัวว่า ถ้าทำอะไรที่แหวกแนว แล้วมันไม่เวิร์ก จะถูกตำหนิ หรือเสียหน้าหนักกว่าเดิม
2. แรงกดดันจากองค์กร: บริษัทใหญ่ๆ มักมีระบบที่ให้รางวัลกับ “ความถูกต้องตามสูตร” ไม่ใช่ “ความกล้า” ทำให้คนในระบบไม่อยากเสี่ยง
3. ความสบายใจในความคุ้นเคย: คนเราจะรู้สึกปลอดภัยกับสิ่งที่เคยทำมาก่อนและได้ผล (แม้ว่าตอนนี้ตลาดจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม)
4. ขาด Insight จริงๆ: หลายคนทำการตลาดตามๆ กัน เพราะไม่เข้าใจลูกค้าลึกพอ เลยไม่กล้าคิดนอกกรอบแบบถูกทิศ
สรุป: กลัวเสียมากกว่ากลัวไม่เด่น และหลายคนยังไม่เชื่อจริงๆ ว่า “การแตกต่าง” คือกุญแจ (ไม่ใช่แค่ความเก๋เฉยๆ แต่มันคือ “ความอยู่รอด” ในตลาดอิ่มตัว)
นี่คือ 3 ขั้นตอน ที่จะ “กล้าแตกต่าง” แบบ มีชั้นเชิง ไม่ใช่มั่วๆ:
1. เข้าใจ “กฎ” อย่างแตกฉาน ก่อนจะ “แหกกฎ” อย่างมีศิลปะ
อย่ารีบทำตัวแตกต่างเพื่อความเท่เฉยๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่ตลาดคาดหวังคืออะไร — พอเข้าใจ “สูตรสำเร็จ” แล้ว เราจะรู้ว่า ควรแหกตรงไหนเพื่อให้เกิดแรงสะเทือนจริงๆ ไม่ใช่แหกแบบงงๆ
ตัวอย่าง: ศึกษาว่า แบรนด์ในตลาดขายของแบบไหน เล่าเรื่องยังไง แล้วเราค่อย “พลิก” จุดที่คนคุ้นเคยมากที่สุด เช่น ภาพจำ, โทนเสียง, ช่องทางการสื่อสาร
2. คิดให้ชัดว่า “จะผิดคาดเรื่องอะไร”
ไม่ต้องผิดคาดทุกอย่าง เอาให้แม่นแค่ 1–2 จุดใหญ่พอ เช่น รูปแบบโฆษณา, คำพูด, ตัวสินค้า หรือ วิธีให้ลูกค้าได้ลองใช้
จุดเดียว แต่โดนแรง ดีกว่าทำทุกอย่างประหลาดแต่ไม่มีแก่น
ตัวอย่าง: โฆษณาน้ำหอมที่ไม่พูดเรื่อง “ความหอม” แต่เล่าเรื่อง “ความทรงจำ” (ผิดคาดจากสิ่งที่คนรอคอย)
3. มี “Safety Net” สำหรับการทดลอง
ความกล้าแตกต่างที่ฉลาด ต้องมี “พื้นที่ปลอดภัย” เช่น ทดลองแคมเปญในกลุ่มย่อย (Soft Launch) หรือออกแบบให้งานที่แหวกแนวสามารถ “ดึงกลับ” ได้ถ้ามันไม่เวิร์ก
อย่าเสี่ยงแบบเอาหัวโหม่งกำแพง แต่เสี่ยงแบบนักบินที่มีร่มชูชีพติดตัว
ตัวอย่าง: ยิงโฆษณาแบบใหม่เฉพาะใน Facebook Ads Group ก่อน ถ้า Feedback ดีค่อยขยาย
สรุป: “แตกต่างอย่างฉลาด = เข้าใจกฎ → เลือกผิดคาดให้แม่น → มี Safety Net กันพลาด”
ตัวอย่างบริษัทจริง ที่ทำตาม 3 ขั้นตอนนี้แบบเทพๆ มาให้ดู 3 เจ้า — และบอกด้วยว่า เขาทำยังไง:
1. Apple (ตอนเปิดตัว iPod) 🍎
เข้าใจกฎ: ตอนนั้นตลาด MP3 Player เน้น “ความจุ” เช่น 512MB, 1GB
ผิดคาดแบบแม่น: Apple ไม่พูดถึง GB เลย แต่พูดว่า
“1,000 songs in your pocket.”
ผิดคาดมาก — คนทั่วไปไม่อินกับหน่วยความจำ แต่ “เพลง 1,000 เพลง” มันจับต้องได้ทันที
Safety Net: เปิดตัวในกลุ่ม Early Adopter ที่ชอบเทคโนโลยีก่อน (ยังไม่หว่านตลาดแมส)
→ ผลลัพธ์: iPod กลายเป็น Iconic ทันที แตกต่างแต่โดนใจ
2. Dove (Real Beauty Campaign) 🧴
เข้าใจกฎ: โฆษณาความงามยุคนั้น = นางแบบผิวสวย หุ่นเพอร์เฟกต์
ผิดคาดแบบแม่น: Dove เลือกใช้ “ผู้หญิงธรรมดา” ทุกรูปแบบ — ทุกไซส์ ทุกรอยเหี่ยวย่น สื่อสารว่า
“ความงามที่แท้จริง ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ”
Safety Net: เริ่มจากแคมเปญเล็กๆ วัดกระแสก่อน แล้วค่อยขยายเป็น Global Campaign
→ ผลลัพธ์: ยอดขายพุ่ง, Brand Loyalty สูงขึ้นมหาศาล
3. Tesla (เปิดตัว Cybertruck) 🛻
เข้าใจกฎ: รถกระบะต้องเท่ ดุดัน แบบ Ford หรือ Chevrolet
ผิดคาดแบบแม่น: Cybertruck ดีไซน์เหมือน “ยานอวกาศ Polygon” หักทุกกฎของดีไซน์รถกระบะ
Safety Net: Elon Musk แถลงชัดว่า Cybertruck ตั้งใจทำตลาด “คนกลุ่มใหม่” ไม่ได้มาแย่งลูกค้ารถกระบะแบบเดิม
(และตอนเปิดตัวแม้มี Fail เช่น กระจกกันกระสุนแตก แต่ก็กลายเป็นไวรัล)
→ ผลลัพธ์: ยอดจองถล่มทลายภายในไม่กี่วัน แม้หลายคนยังงงๆ
สรุป: 3 บริษัทนี้ไม่ใช่แค่ “กล้า” แต่ เข้าใจตลาดก่อน, เลือกผิดคาดให้ถูกจุด, และ เซฟเกมเพื่อวัดผลก่อนบุกเต็มที่
🤞🏻 ขอให้โชคดี!
Credit: Udi Ledergor, CMO @ Gong
เกร็ดเล็กๆ ของแบรนด์ by BirdBrand
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย