Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BirdBrand
•
ติดตาม
28 เม.ย. เวลา 01:20 • ธุรกิจ
จ้างแล้วไม่เชื่อก็อย่าจ้าง ถ้าจ้างแล้วต้องเชื่อและปล่อยให้ทำ! 💰
เรื่องนี้เป็นปัญหาคลาสสิกของวงการเอเจนซี่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ไทย แต่ระดับความรุนแรงต่างกันตาม "วัฒนธรรมการตลาด" ของแต่ละประเทศ เช่น
🌎 อเมริกา, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์: ลูกค้าจะ "เชื่อ" เอเจนซี่มากกว่า เพราะมีการแบ่งหน้าที่ชัด — ครีเอทีฟคือ ผู้เชี่ยวชาญในการสื่อสาร, นักการตลาดคือ ผู้วางกลยุทธ์และเป้าหมาย ไม่ล้ำเส้นกันมาก
🌏 เอเชีย (รวมไทย, จีน, ญี่ปุ่น): ลูกค้ามักมองเอเจนซี่เป็น "ลูกน้อง" มากกว่า "พาร์ทเนอร์" จึงอยากควบคุมและสั่งแก้เยอะ โดยเฉพาะวัฒนธรรม "เกรงใจผู้ใหญ่" และ "ลดความเสี่ยง" เป็นตัวขัดขวางงานสร้างสรรค์อย่างมาก
🧑🏻🏭 ทางแก้ที่ต่างประเทศทำ และเราน่าจะปรับใช้ได้บางอย่าง เช่น:
1. Client Education (ฝึกและสอนลูกค้า)
- บางเอเจนซี่อย่าง Droga5, Wieden+Kennedy จะมี Workshop ให้ลูกค้าทำ
- ชวนลูกค้าเวิร์กช็อปตั้งแต่ต้น เช่น "What makes good communication?"
- สอนวิธีดูงานครีเอทีฟ, อธิบายว่า ไอเดียต้องมีพื้นที่ให้ตีความ ไม่ใช่ระบุทุกอย่างแบบ Manual
- ให้ลูกค้าเข้าใจว่า Creative Work = Emotional + Strategic
2. Creative Rationale (เขียนเบื้องหลังงานอย่างมีเหตุผล)
- ไม่ใช่เสนอแต่ไอเดีย แต่ต้องเขียน "เหตุผล" ประกบทุกครั้ง เช่น
> ไอเดียนี้สอดคล้องกับ Brand Promise ยังไง?
> Insight อะไรที่ถูกใช้?
> งานนี้จะเชื่อมกับ Brand Loyalty อย่างไร?
- ให้ลูกค้ากลัวว่า ถ้าแก้มั่ว งานจะหลุดจากกลยุทธ์
3. Involve Early, Align Early (ดึงลูกค้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เนิ่นๆ)
- ดึงลูกค้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ช่วง Insight & Brief
- ให้เขารู้สึกว่า มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ไม่ใช่พึ่งมาดูตอน Final
- พอเขามี Ownership เขาจะอยากให้ไอเดียเดินหน้ามากกว่า "ยิงตก"
4. Tiered Approval Process (ทำให้ระบบอนุมัติมีขั้นตอนที่ชัด)
- เวลานำเสนองาน ต้องรู้ว่า ใครคือคนมีอำนาจจริง
- ทำ Pre-sell กับคนที่จะนำเสนอขึ้นเจ้านายใหญ่ล่วงหน้า เพื่อกันการโดนยิงตก
5. Pick Your Battles (เลือกสงครามที่จะสู้)
- ไม่ใช่ทุกเรื่องต้องสู้เลือดตาแตก เลือกประเด็นที่สำคัญจริงๆ ที่ต้องรักษาไว้
- บางเรื่องยอมลูกค้าได้ แต่บางเรื่องเกี่ยวกับ Essence ของไอเดีย ต้องสู้ให้สุด
🗒️ ตัวอย่าง Workshop รูปแบบง่ายๆ สำหรับลูกค้า (Client + Creative Alignment Workshop)
ชื่อเวิร์กช็อป: "Building Effective Communication Together"
เวลา: 2-3 ชั่วโมง (ไม่ต้องยาวมาก)
โครงสร้างเวิร์กช็อป:
Session 1: เข้าใจ Insight ร่วมกัน (30 นาที)
- นำเสนอ 3-5 Insight ที่เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย
- ให้ลูกค้าโหวต Insight ที่โดนใจที่สุด
- เปิดวงคุย: ทำไม Insight นี้โดน? จะใช้ต่อยอดอะไรได้?
Session 2: กำหนด Messaging & Tone of Voice ร่วมกัน (45 นาที)
- นำเสนอ Message Directions 2-3 แบบ เช่น:
> แบบ Emotional
> แบบ Functional
> แบบ Fun / Playful
- ให้ลูกค้าช่วยเลือกและอธิบายเหตุผล
- ตกลงร่วมกันว่า เราจะโฟกัส Tone แบบไหน
Session 3: Creative Exploration (45 นาที)
- โชว์ Rough Concepts 2-3 ไอเดียใหญ่ (ยังไม่ละเอียดมาก)
- อธิบายที่มาที่ไปของแต่ละไอเดีย (อย่าให้ลูกค้าคิดเอง)
- รับ Feedback เฉพาะ "Direction" (ยังไม่ลงลึกงาน Art / Copy)
Session 4: Alignment Summary (15 นาที)
- สรุป Insight / Tone / Idea ที่ลูกค้าเลือก
- เขียน "Alignment Note" ส่งให้ลูกค้าเห็นตรงกันก่อนเริ่มทำจริง
✍🏻 ตัวอย่าง แนวทางเขียน Creative Rationale แบบโน้มน้าวใจ
Creative Rationale Template:
1. Objective
- ระบุให้ชัดว่าต้องการทำอะไร เช่น สร้าง Awareness, กระตุ้น Interest, เปลี่ยน Perception ฯลฯ
2. Insight
- อธิบายว่าคนดู / กลุ่มเป้าหมายคิดอะไร รู้สึกยังไง (จิ้มใจให้ได้)
3. Strategy
- บอกแนวทางสื่อสารที่เลือก เช่น Emotional Connection, Humor, หรือ Product Superiority
4. Idea
- สรุปไอเดียเป็น 1-2 ประโยค พร้อมอธิบาย Concept เบื้องหลัง เช่น "เราจะเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์เหมือนฮีโร่ที่ช่วยชีวิตในทุกวัน"
5. Why This Idea Works
- ยกเหตุผลให้ครบ:
> เชื่อมโยง Insight
> ตรงกับเป้าหมายธุรกิจ
> สร้างอารมณ์หรือความรู้สึกที่ต้องการ
> มีโอกาสเป็นที่จดจำ (Memorability)
6. Tone of Voice & Brand Consistency
- อธิบายว่าไอเดียนี้สอดคล้องกับบุคลิกแบรนด์ยังไง
ตัวอย่างจริง (ย่อ):
Objective: เพิ่มการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มวัยทำงาน
Insight: คนวัยทำงานรู้สึกเหนื่อยและต้องการแรงบันดาลใจระหว่างวัน
Strategy: ใช้ Emotional Storytelling เพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ เชื่อมโยงกับแบรนด์
Idea: "ทุกวันของคุณ มีฮีโร่ตัวจริงอยู่ข้างๆ — เราพร้อมช่วยเติมพลัง"
Why This Works: ตรง Insight, ตรงอารมณ์, เป็น Soft Selling ที่ไม่กดดัน
Tone of Voice: อบอุ่น จริงใจ เหมือนเพื่อนที่เข้าใจคุณ
ถ้าคุณทำทั้ง Workshop และ Creative Rationale อย่างนี้ได้ตั้งแต่เริ่ม ไม่ใช่แค่งานผ่านง่ายขึ้น แต่ลูกค้าจะ "รู้สึกอิน" และ "อยากให้ไอเดียเดินหน้า" ด้วยตัวเองครับ 🔥
พูดจริงๆ นะ... เหนื่อยไหม? เหนื่อยชิบหาย! เพราะ "Trust" ไม่ได้สร้างได้ด้วย Present อย่างเดียว มันต้องใช้เวลา, ต้องสร้าง Success Case, และต้องอาศัยการ Educate ลูกค้าไปเรื่อยๆ
สรุป:
เราไม่สามารถหวังให้ลูกค้าเข้าใจเองได้ เราต้อง "ออกแบบกระบวนการ" ที่ทำให้เขาเข้าใจไปพร้อมๆ กับการพางานไปถึงจุดหมาย
เกร็ดเล็กๆ ของแบรนด์ by BirdBrand
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย