เมื่อวาน เวลา 03:00 • ธุรกิจ

ทำประกันแล้วไม่คุ้ม เพราะอะไร?

หรือจริง ๆ แล้ว...เราควรหวังว่า มันจะไม่คุ้ม?
หลายคนอาจเคยพูดหรือได้ยินคำว่า
“ทำประกันไปตั้งแพง สุดท้ายก็ไม่ได้เคลมเลย เสียดาย!”
ฟังดูเหมือนว่าเราคาดหวังให้ "คุ้มทุน" ด้วยการเคลมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จ่ายไป
แต่นั่นอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ “หลักการของประกันภัย”
ประกันไม่ใช่การลงทุน แต่คือ “การโอนความเสี่ยง”
การทำประกันคือการยอมจ่ายเงินก้อนหนึ่ง เพื่อให้บริษัทประกันรับภาระความเสี่ยงแทนเราในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ไฟไหม้ รถชน หรือเสียชีวิต
พูดง่าย ๆ คือ
เราไม่ได้หวังจะได้เงินจากประกัน
แต่เราหวังว่า...จะไม่ต้องใช้มันเลยต่างหาก
ถ้าคุณไม่ได้เคลมเลย = ชีวิตคุณยังปลอดภัยอยู่
ลองนึกแบบนี้ดู
ถ้าคุณซื้อประกันสุขภาพ แล้วไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเลยตลอดปี
→ นั่นแปลว่าคุณแข็งแรง ไม่ต้องเจ็บป่วยหนัก
ถ้าคุณทำประกันรถ แล้วไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลย
→ นั่นคือการขับขี่ที่ปลอดภัย และประหยัดเวลาได้มาก
ถ้าคุณทำประกันชีวิต แต่ไม่เคยมีเหตุให้ต้องใช้
→ นั่นแปลว่าคุณยังมีลมหายใจ และคนที่คุณรักยังไม่ต้องร้องไห้
จะเรียกว่า "ไม่คุ้ม" จริงหรือ?
ถ้า “คุ้ม” แปลว่าต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
ในโลกของประกัน
ความคุ้มค่าในเชิงตัวเลข มักมาพร้อมกับความสูญเสียในชีวิตจริง
เช่น ถ้าคุณจ่ายเบี้ยปีละ 20,000 แล้วเคลมค่ารักษาได้ 100,000
แม้จะดู “คุ้ม” บนกระดาษ
แต่มันหมายถึงคุณต้องป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล
ดังนั้น
การไม่เคลมเลย = ชีวิตปลอดภัย = ดีที่สุดแล้ว
แล้วทำประกันไปทำไม ถ้าไม่หวังจะใช้?
คำตอบง่าย ๆ ก็คือ
เพื่อ “กันไว้ก่อน” ไม่ให้เหตุไม่คาดฝันทำลายความมั่นคงของชีวิตเรา
เพราะหากวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นจริง แล้วไม่มีประกันมารองรับ เราอาจต้องควักเงินหลักแสน หลักล้าน หรือเสียโอกาสหลายอย่างในชีวิต
ประกันที่ดีจึงเป็นเหมือน "ร่มกันฝน"
ถึงวันที่ฟ้าใส เราอาจไม่รู้สึกว่ามันสำคัญ
แต่วันที่พายุมา เราจะรู้ทันทีว่าโชคดีแค่ไหนที่มีมันอยู่กับตัว
สรุป
อย่าตัดสินความคุ้มค่าของประกันด้วยจำนวนเงินที่เราเคลมได้
แต่จงมองว่าการทำประกันคือการวางแผนชีวิตอย่างรอบคอบ
เพราะชีวิตที่ไม่ต้องใช้ประกันเลย คือชีวิตที่โชคดีที่สุดแล้ว
#วางแผนเกษียณ #วางแผนภาษี
#วางแผนการศึกษาให้บุตร #ประกันอุบัติเหตุ
#การเงิน #การลงทุน
#ประกันชีวิต #ประกันสุขภาพ
#anantheplanner
โฆษณา