28 เม.ย. เวลา 03:36 • บ้าน & สวน

"แนวทางสิ่งที่ควรทำ เมื่อแรงดันไฟฟ้าที่บ้านตก"

1. ตรวจสอบอาการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดขึ้น ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านทำงานผิดปกติไหม เช่นแอร์ไม่เย็น , หลอดไฟสว่างน้อยลง , ปั๊มน้ำไม่ทำงาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามีเสียงผิดปกติหรือไม่
ถ้าใช่ → เป็นสัญญาณว่า แรงดันไฟฟ้าผิดปกติ
2. วัดแรงดันไฟฟ้า ( ถ้ามีอุปกรณ์เครื่องวัด มัลติมิเตอร์ , โวลต์มิเตอร์ )
- แรงดันไฟ 1 เฟส ทางการไฟฟ้าจะระบุว่าเป็นไฟที่มีแรงดัน 230 โวลต์ ซึ่งทางการไฟฟ้าจะยอมรับระดับแรงดันที่ตกจากปกติไม่เกิน 5% หรือ 220 โวลต์ ดังนั้นปัญหาไฟตกจึงเกิดขึ้นเมื่อแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายมาลดลงต่ำกว่า 220 โวลต์ ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ
- ใช้มิเตอร์ตั้งย่านวัดวัดแรงดันที่เต้ารับ และวัดที่เมนเบรกเกอร์ด้วย ถ้าแรงดันต่ำกว่า 220V → ถือว่าแรงดันไฟตกกว่ามาตรฐาน ผิดปกติ
3. ตรวจสอบระบบไฟในบ้านเบื้องต้น
- ตรวจสอบปลั๊กไฟ สวิตช์ เต้ารับ ว่ามีรอยไหม้ หลวม ชำรุดไหม
- ตรวจสอบเบรกเกอร์ ว่ามีรอยแตกร้าวไหม
- สังเกตเสียงผิดปกติ (เช่น เสียงจี่ๆ ในตู้เมน)
4. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก ที่กินกระแสไฟเยอะ ๆ
- ปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าสูง เช่น แอร์ ปั๊มน้ำ เตาไฟฟ้า เพื่อลดภาระโหลดในบ้าน ป้องกันความเสียหายจากแรงดันไฟฟ้าต่ำ
5. ให้ช่างไฟฟ้ามืออาชีพช่วยตรวจสอบ
- ถ้าไฟฟ้าตกเฉพาะในบ้านตัวเอง อาจมีปัญหาที่ สายเมนไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป
- จุดต่อสายไฟฟ้า สายเมนไฟฟ้า อาจมีจุดที่หลุด-หลวม
- ระบบโหลดภายในบ้านไม่สมดุล ต้องให้ช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญมาช่วยวิเคราะห์
6. แจ้งการไฟฟ้า (MEA หรือ PEA)
- หากวัดที่เมนแล้วแรงดันไฟฟ้าตก → ปัญหาอาจอยู่นอกบ้าน โทรแจ้งการไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อขอให้ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า
- แจ้งชื่อ-ที่อยู่-เบอร์ติดต่อ-เลขผู้ใช้ไฟ ระบุว่า "ไฟฟ้าตกต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน" และแจ้งอาการที่พบ
7. อัพเกรดระบบไฟฟ้า (ถ้าจำเป็น)
- เพิ่มขนาดสายเมน หรือ ปรับปรุงระบบไฟฟ้า
- ติดตั้งเครื่อง Stabilizer หรือ UPS สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าสำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์
.
#ไฟตก #แรงดันไฟฟ้า #แรงดันตก #บ้านและสวน #ช่างไฟฟ้า
โฆษณา