การศึกษาใหม่ชี้จักรวาลอาจหมุนรอบตัวเองหนึ่งครั้งทุก 500,000 ล้านปี
แบบจำลอง Lambda-CDM ปัจจุบันระบุว่า จักรวาลขยายตัวอย่างสม่ำเสมอในทุกทิศทาง โดยไม่มีสัญญาณของการหมุน แนวคิดนี้สอดคล้องกับสิ่งที่นักดาราศาสตร์สังเกตได้ส่วนใหญ่ แต่ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เรียกว่า ความตึงเครียดของฮับเบิล (Hubble tension) ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ยาวนานระหว่างสองวิธีในการวัดความเร็วของจักรวาลที่ขยายตัว
1. พิจารณาดาวฤกษ์ระเบิดหรือซูเปอร์โนวาที่อยู่ห่างไกล เพื่อวัดระยะห่างจากกาแล็กซี และให้ค่าอัตราการขยายตัวของจักรวาลตลอดหลายพันล้านปีที่ผ่านมา
.
2. ใช้รังสีตกค้างจากบิ๊กแบง และให้ค่าอัตราการขยายตัวของจักรวาลยุคแรกเมื่อประมาณ 13,000 ล้านปีก่อน โดยแต่ละวิธีให้ค่าอัตราการขยายตัวที่แตกต่างกัน
ขั้นแรก โมเดลดังกล่าวปฏิบัติตามกฎมาตรฐาน จากนั้นจึงเพิ่มการหมุนเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้สร้างความแตกต่างอย่างมาก
ดร. ซาปูดีกล่าวว่า “เราประหลาดใจมากที่พบว่าโมเดลการหมุนของเราสามารถคลี่คลายข้อขัดแย้งได้โดยไม่ขัดแย้งกับการวัดทางดาราศาสตร์ในปัจจุบัน” “ยิ่งไปกว่านั้น โมเดลนี้ยังเข้ากันได้กับโมเดลอื่นๆ ที่ถือว่า มีการหมุนด้วย”
แบบจำลองของทีมวิจัยระบุว่าจักรวาลอาจหมุนได้หนึ่งครั้งทุก 500,000 ล้านปี ซึ่งช้าเกินกว่าจะตรวจจับได้ง่าย แต่ก็เพียงพอที่จะส่งผลต่อการขยายตัวของอวกาศเมื่อเวลาผ่านไป นักดาราศาสตร์กล่าวว่า "แนวคิดนี้ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎฟิสิกส์ใดๆ ที่ทราบกันดี" "และอาจอธิบายได้ว่า ทำไมการวัดการเติบโตของจักรวาลจึงไม่สอดคล้องกันนัก"
"ขั้นตอนต่อไปคือ การเปลี่ยนทฤษฎีให้เป็นแบบจำลองคอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบ และค้นหาวิธีตรวจจับสัญญาณของการหมุนช้าๆ ของจักรวาล"
แปลและเรียบเรียงโดย
One To Many - A Brief Science
.
แหล่งอ้างอิง
[1] Universe Could Rotate Once Every 500 Billion Years, Study Suggests
[2] การขยายตัวของจักรวาลเป็นภาพลวงตาจากแบบจำลอง Timescape ไม่ใช้พลังงานมืด (dark energy) #คลิปเดียวจบ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
