29 เม.ย. เวลา 23:13 • บ้าน & สวน

"เวลากระแสไฟฟ้าดับ ควรทำอย่างไรบ้าง" ดังนี้ครับ :

🛑 1. ตั้งสติ อย่าตื่นตกใจ !!
- ตั้งสติให้ได้ก่อน เพราะไฟดับอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ระบบไฟฟ้าขัดข้อง , ไฟฟ้าลัดวงจร , เบรกเกอร์ตัด , สายไฟหลุด-ขาด หรือ การไฟฟ้าตัดไฟเพื่อปรับปรุงระบบ เป็นต้น
🔦 2. หาทางส่องสว่างอย่างปลอดภัย
- ใช้ ไฟฉาย หรือ ไฟฉุกเฉิน ที่เตรียมไว้ หลีกเลี่ยงการจุดเทียนในพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ เช่น ใกล้ผ้าม่าน วัสดุติดไฟง่าย
🔌 3. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทันที
- ดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่ไม่จำเป็นออก เช่น ทีวี ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น คอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันไฟกระชากเวลาที่ไฟฟ้ากลับมา เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย
⚡ 4. ตรวจสอบเบรกเกอร์ในบ้าน
- เดินไปดูตู้เมนเบรกเกอร์
- ถ้าเบรกเกอร์ "Trip" (คันโยกเบรกเกอร์ตก) ให้ สังเกต ว่ามีไฟไหม้ หรือกลิ่นไหม้ไหม ? ถ้ามีควรให้ช่างไฟฟ้าที่มีความชำนวญเข้ามาตรวจสอบและแก้ไข
- ถ้าไม่มีสิ่งผิดปกติในตู้เมน อาจทดลองสับเบรกเกอร์ขึ้น แต่ถ้าเบรกเกอร์ตัวไหนตัดซ้ำ → วงจรไฟฟ้าในบ้านมีปัญหา → ห้ามสับซ้ำหลายครั้ง ให้เรียกช่างไฟฟ้าที่มีความชำนวญเข้ามาตรวจสอบและแก้ไข
🏠 5. สังเกตรอบๆ บ้านและละแวกบ้าน
- เพื่อดูว่าบ้านข้างๆ ไฟดับเหมือนกันไหม?
- ถ้าดับหลายหลัง → อาจเป็นปัญหาระดับสายส่ง หรือหม้อแปลง ทางด้านการไฟฟ้า
- ถ้าดับเฉพาะบ้านเรา → น่าจะเป็นปัญหาภายในบ้าน
📞 6. แจ้งการไฟฟ้า (MEA หรือ PEA)
- โทรแจ้งศูนย์บริการการไฟฟ้าในพื้นที่ ระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร หมายเลขผู้ใช้ไฟ ( ดูได้จากบิลค่าไฟ ) และแจ้งอาการไฟดับ
- เบอร์สายด่วนการไฟฟ้าที่ควรรู้ :
MEA Call Center (กฟน.): 📞 1130
PEA Call Center (กฟภ.): 📞 1129
🧯 7. เตรียมพร้อมกรณีไฟดับนานๆ
- ควรมีไฟฉาย ไฟฉุกเฉิน และแบตสำรองโทรศัพท์มือถือให้พร้อม
- ตู้เย็น : อย่าเปิดบ่อย เพื่อรักษาอุณหภูมิอาหาร
- ปั๊มน้ำ : บางบ้านน้ำจะไม่ไหลถ้าไฟดับ → เตรียมน้ำสำรองไว้ในถัง
.
#ไฟดับ #ไฟฟ้าดับ #ไฟฟ้าในบ้าน #บ้าน
โฆษณา