Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
SpacenScience TH
•
ติดตาม
28 เม.ย. เวลา 06:19 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
วงแหวนไอน์สไตน์อีกวงของกล้องเวบบ์
หนึ่งในการทำนายแรกๆ จากสัมพัทธภาพทั่วไปที่ได้พิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง ก็คือ การเบี่ยงเบนแสงของดาวโดยแรงโน้มถ่วง ปรากฏการณ์นี้ถูกสำรวจพบเป็นครั้งแรกในปี 1919 ในระหว่างการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เนื่องจากดาวปรากฏเป็นเพียงจุดแสงเท่านั้น ผลที่ได้เห็นจึงเป็นการขยับตำแหน่งของดาวใกล้คราส แต่ปรากฏการณ์นี้ยังเกิดผลมากกว่านั้น
ถ้ามีกาแลคซีที่ห่างไกลแห่งหนึ่งถูกกาแลคซีที่ไกล้กว่าบังไว้ แสงบางส่วนจากแหล่งที่ไกลโพ้นจะเกิดปรากฏการณ์เลนส์ความโน้มถ่วง(gravitational lensing)ไปรอบๆ กาแลคซีที่พื้นหน้า ให้ภาพแหล่งไกลที่บิดเบี้ยว ปรากฏการณ์นี้ยังอาจขยายแสงจากกาแลคซีที่ไกลโพ้น ทำให้แสงของมันสว่างขึ้น และเราก็ใช้ปรากฏการณ์นี้เพื่อสำรวจดาวที่ห่างไกลที่สุดบางส่วนในเอกภพด้วย แต่บางที สิ่งที่สวยงามที่สุดจากเลนส์ความโน้มถ่วงก็คือสิ่งที่เรียกว่า วงแหวนไอน์สไตน์(Einstein ring)
วงแหวนไอน์สไตน์เกิดขึ้นเมื่อกาแลคซีที่ห่างไกลอยู่ตรงกลางหลังกาแลคซีที่พื้นหน้าพอดีเป๊ะ จนแสงของมันเลี้ยวไปรอบๆ กลายเป็นวงแหวนแสง ไอน์สไตน์เองก็รับรู้ปรากฏการณ์นี้แต่กล่าวในปี 1936 ว่าไม่มีความหวังเลยว่าจะสำรวจปรากฎการณ์ประหลาดนี้ได้โดยตรง แต่คนฉลากอย่างไอน์สไตน์เองก็คงไม่เคยจินตนาการถึงพลังของกล้องโทรทรรศน์รุ่นใหม่ๆ
ขณะนี้ เราได้พบวงแหวนไอน์สไตน์หลายสิบแห่ง และหนึ่งในตัวอย่างที่สวยงามมากก็เพิ่งพบโดยกล้องเวบบ์ ตามที่ได้เห็นในภาพ กาแลคซีที่พื้นหน้าเป็นกาแลคซีทรงรี(elliptical galaxy) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระจุกกาแลคซีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า SMACS J0028.2-7537 กาแลคซีที่มีสีสันกว่าเลี้ยวไปรอบๆ มันนี้เป็นภาพจากกาแลคซีกังหันแห่งหนึ่งซึ่งคล้ายกับทางช้างเผือก อยู่ไกลกว่าอีกหลายพันล้านปีแสง แต่ก็เรียงตัวอย่างสมบูรณ์แบบจนสร้างวงแหวนที่เกือบสมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่าภาพนี้เป็นไปได้ก็เพราะมุมการมองของเรา นักดาราศาสตร์ในกาแลคซ๊อื่นๆ ไม่น่าจะพบภาพที่น่าตะลึงอย่างนี้ได้ แน่นอนว่าคงมีตัวอย่างความสวยงามอื่นๆ ปรากฏแก่ผู้ได้มองเห็น แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้มองอยู่ที่ไหนด้วย
ข้อมูลจากภาพรวบรวมได้อันเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจ SLICE(SLICE) ที่นำโดย Guillaume Mahler จากมหาวิทยาลัยลีจ เบลเจียม โครงการความร่วมมือจากนักดาราศาสตร์นานาชาติ ใช้กล้องอินฟราเรดใกล้(NIRCam) ของเวบบ์เพื่อศึกษาว่ากระจุกกาแลคซีเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วง 8 พันล้านปีหลัง โดยรวม โครงการได้สำรวจกระจุก 182 แห่ง ภาพนี้ยังผนวกข้อมูลจากเครื่องมือสองชิ้นบนกล้องฮับเบิลคือ กล้องมุมกว้าง 3(WFC3) และกล้องเพื่อการสำรวจชั้นสูง(ACS)
แหล่งข่าว
phys.org
: a dramatic Einstein ring seen by Webb
scitechdaily.com
: Webb captures a perfect Einstein ring that reveals a hidden galaxy
ดาราศาสตร์
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย