เมื่อวาน เวลา 04:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปหลักการลงทุน เซียนหุ้นอินเดีย ผู้เปลี่ยนเงินหลักหมื่นบาท ให้กลายเป็น 10,000 ล้านบาท

ความปรารถนาอันสูงสุดของนักลงทุนหลาย ๆ คน คือการปั้นพอร์ตการลงทุนจากเงินก้อนเล็ก ๆ ให้เติบโตกลายเป็นเงินก้อนใหญ่
แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ก็ต้องอาศัยระยะเวลา ทัศนคติที่ถูกต้อง และกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
เฉกเช่นเดียวกับ เรื่องราวของคุณ Vijay Kedia นักลงทุนชั้นเซียนจากอินเดีย ที่สามารถเปลี่ยนเงิน 13,000 บาท ให้กลายเป็น 69,400 ล้านบาท ได้ภายในระยะเวลา 32 ปี
แล้วคุณ Vijay มีหลักการลงทุนอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
คุณ Vijay เกิดในปี 1962 ที่เมืองโกลกาตา เมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย
ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของธุรกิจโบรกเกอร์ในอินเดีย ทำให้เขามีโอกาสเริ่มซื้อขายหุ้นตั้งแต่ที่เขาอายุได้เพียง 14 ปีเท่านั้น โดยใช้บัญชีซื้อขายหุ้นของครอบครัว
ในช่วงแรก แนวทางการลงทุนของเขา เน้นไปที่การเก็งกำไรเป็นหลัก ไม่ได้มีความคิดที่อยากลงทุนในระยะยาวเลย
แต่การลงทุนในช่วงแรกของเขาไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก จนเพื่อนของเขาที่ชื่อ คุณโมดี ได้แนะนำให้เขารู้จักกับการลงทุนระยะยาว
เขาจึงแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนแบบระยะยาว ตามคำแนะนำของเพื่อนเขา และนั่นก็ทำให้เขาค้นพบแนวทางการลงทุนที่เขาถนัดเสียที
เมื่อเขาอายุได้ 19 ปี เขาต้องจำใจสานต่อธุรกิจโบรกเกอร์ของครอบครัว เพื่อรับช่วงต่อจากพ่อของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว
แต่ทำไปได้เพียง 3 ปี เขากลับไม่ชอบการทำธุรกิจโบรกเกอร์เลย เพราะในใจของเขาคิดแต่เพียงอยากจะลงทุนในตลาดหุ้นด้วยตัวเองเท่านั้น
ในปี 1990 เขาตัดสินใจลาออกจากธุรกิจที่บ้าน แล้วย้ายไปแสวงโชคที่เมืองมุมไบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งธุรกิจการเงินในอินเดีย
ตอนนั้นเขามีเงินลงทุนในพอร์ต สำหรับการลงทุนระยะยาวเพียง 13,000 บาทเท่านั้น ที่เหลือเป็นเงินสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างมุมไบ
ในช่วงแรกที่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่มุมไบ เขาต้องอยู่อย่างประหยัด ด้วยการอยู่ในห้องพักรวมกับคนอื่น ๆ ถึง 6 คน
แล้วจังหวะเปลี่ยนชีวิตของเขาก็มาถึงในปี 1992 เมื่อเขาเจอบริษัทที่ชื่อว่า Punjab Tractors ซึ่งเป็นบริษัทแห่งแรกของอินเดีย ที่ผลิตรถแทรกเตอร์ได้
เขาใช้เงินที่มีอยู่ทั้งหมดจำนวน 13,000 บาท เข้าซื้อหุ้นตัวนี้ และได้รับผลตอบแทนมากถึง 500%
หลังจากที่เขาทำกำไรจากหุ้น Punjab Tractors แล้ว เขาก็นำเงินทั้งหมดไปซื้อหุ้นบริษัทปูนซีเมนต์ที่ชื่อว่า ACC ซึ่งให้ผลตอบแทนมากถึง 1,000% ภายใน 2 ปี
เมื่อเขาทำกำไรจากหุ้นตัวนี้ได้แล้ว เขาก็มีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านเป็นของตัวเองในเมืองมุมไบ และชวนภรรยากับลูกให้มาอยู่ด้วยกัน
ต่อมาในปี 2004 เขาได้เข้าลงทุนใน 3 บริษัท คือ
- Atul Auto บริษัทผลิตรถ 3 ล้อ
- Cera Sanitaryware บริษัทผลิตสุขภัณฑ์ภายในบ้าน
- Aegis Logistics บริษัทขนส่ง และจัดเก็บน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์เคมี
ซึ่งอีก 10-12 ปีต่อมา บริษัททั้ง 3 แห่ง ก็กลายเป็นหุ้น 100 เด้งของเขา
เมื่อคุณ Vijay มีเงินทุนที่มากเพียงพอแล้ว เขาก็เริ่มจัดตั้งบริษัทการลงทุนของตัวเองชื่อว่า Kedia Securities ในปี 2012
โดยบริษัทแห่งนี้ มีการลงทุนในบริษัทที่อยู่ทั้งใน และนอกตลาดหุ้นอินเดีย รวมถึงบริษัทสตาร์ตอัปขนาดเล็กด้วย
ด้วยการลงทุนที่ครอบคลุมถึงบริษัทขนาดเล็ก ที่ยังไม่เข้าตลาดหุ้นด้วย ทำให้เขาสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงถึง 62% ต่อปี ตลอดระยะเวลาการลงทุน 32 ปี
ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในการลงทุนของเขา ไม่ใช่แค่การเข้าถึงบริษัทขนาดเล็กที่อยู่นอกตลาดหุ้น
แต่ยังรวมไปถึงหลักการลงทุนของเขา ที่ชื่อว่า “SMILE” ที่ไม่ได้แปลว่าให้ยิ้ม แต่ย่อมาจาก..
S - Small in Size หากเป็นหุ้นในตลาด เขามักจะชื่นชอบการลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ที่มีมูลค่าบริษัทประมาณ 2,000 ถึง 4,000 ล้านบาท
MI - Medium in Experience มองหาผู้บริหารที่มีประสบการณ์ทำงานที่ไม่มากจนเกินไป แต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป
โดยทีมผู้บริหาร ที่คุณ Vijay มองหาอยู่ คือคนที่มีประสบการณ์ทำงานประมาณ 15-20 ปี
เพราะเขามองว่า หากผู้บริหารมีประสบการณ์ที่สูงมากเกินไป มักจะเป็นผู้บริหารที่ยึดติดกับความสำเร็จ หรือประสบการณ์แบบเดิม ๆ จนไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนไปได้
L - Large Aspirations เน้นลงทุนในบริษัทที่หิวความสำเร็จ
E - Extra-large Potential อุตสาหกรรมที่บริษัททำธุรกิจอยู่ ต้องมีขนาดใหญ่มาก
นอกจากนี้ เขายังให้คำแนะนำการลงทุนอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น
- ให้ซื้อหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงที่ความกังวลปกคลุมตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ราคาหุ้นถูกซื้อขายในระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
- ให้ซื้อหุ้น หลังจากที่เราศึกษาคุณภาพของผู้บริหาร, การเติบโตของบริษัท และเข้าใจความเสี่ยงเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น
- จัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นน้อยตัว เพื่อให้เราติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างใกล้ชิด
- มีมุมมองการลงทุนระยะยาวในระดับ 5 ปีขึ้นไป และอย่าตื่นตระหนกกับความผันผวนระยะสั้น
เรื่องราวของคุณ Vijay เป็นกรณีศึกษาที่ดีว่า ต่อให้เรามีเงินทุนที่น้อย แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนเลย
เพราะหากเรามีความอดทนต่อการถือหุ้นในระยะยาว และมีกลยุทธ์การลงทุนที่ถูกต้องแล้ว
เราก็สามารถเปลี่ยนเงินก้อนเล็ก ๆ ให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ แบบที่คุณ Vijay ทำได้เหมือนกัน..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#หุ้นอินเดีย
โฆษณา