29 เม.ย. เวลา 10:28 • ปรัชญา

กระดาษเปล่า

กระดาษว่างเปล่าเล่มใหญ่วางอยู่กลางโต๊ะทำงานขนาดกลาง
รอบข้างมีอุปกรณ์เครื่องเขียนมากมายหลายแบบ
-ทั้งปากกาลูกลื่น ปากกาหมึกซึม และดินสอ
แต่ก็ไม่มีอุปกรณ์ชิ้นไหนที่เหมาะกับมันเลย
เพราะมันเป็นกระดาษสำหรับวาดสีน้ำ เป็นกระดาษเนื้อดี แต่รอบข้างกลับไม่มีแม้แต่จานสีหรือภู่กันเลยแม้แต่อันเดียว
ที่นี่เป็นโต๊ะทำงานของคุณตาซึ่งคุณตาเป็นนักกฎหมาย แล้วทำมัยกระดาษวาดสีน้ำถึงได้มาวางอยู่ที่นี่กัน
ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก
มือเล็กๆผลักประตูเข้ามาอย่างตั้งใจ เด็กหญิงเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับคุณตาของเธอ
“นี่ไงจ้ะ ของขวัญที่ตาซื้อมาให้…ขวัญใจ”
คุณตาพูดพร้อมรอยยิ้ม
ก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษวาดสีน้ำปึกใหญ่จากบนโต๊ะ
แล้วยื่นให้หลานสาวตัวน้อย
“อ้อ! เกือบลืม…มีสีน้ำด้วยนะ”
คุณตาเดินไปเปิดลิ้นชัก ยกถุงใบใหญ่ที่ใส่อุปกรณ์วาดภาพสีน้ำครบชุด ออกมา
“ของขวัญสำหรับหนูน้อยคนเก่ง ”
เด็กหญิงยิ้มแก้มแทบปริ ดวงตาเป็นประกาย
เธอชอบวาดภาพมาก…
เธอหลงรักการวาดมาตั้งแต่ยังอยู่เตรียมอนุบาล
และตอนนี้เธอกำลังจะก้าวเข้าสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
“ขอบคุณค่ะคุณตา”
น้ำเสียงสดใสของเธอเต็มไปด้วยความสุข
ปากและตาของเด็กหญิงยิ้มกว้าง จนแก้มอวบๆ กลมกลึงกลายเป็นลูกกลมสีชมพู
ถึงแม้กระดาษวาดเขียนเล่มนี้จะไม่ได้อยู่ในที่ของมันแต่แรก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันอยู่ผิดที่
เพราะบางครั้ง…
สิ่งที่ดูเหมือนไม่เข้าที่
อาจถูกวางไว้อย่างตั้งใจ
เพื่อรอให้ “คนที่เหมาะสม” เดินเข้ามาหา
ถึงกระดาษวาดเขียนเล่มนี้จะไม่ได้อยู่ในที่ของมันแต่แรก ก็ไม่ได้หมายความว่ามันอยู่ผิดที่เพราะมันได้ถูกเตรียมไว้ให้กับคนที่จะได้ใช้มัน
“กระดาษเปล่า” ที่ดูเหมือนผิดที่ผิดทาง กลับถูกจัดเตรียมไว้ให้ใครบางคนเสมอ
มันเหมือนกับหัวใจของคนคนหนึ่ง…ที่แม้จะรู้สึกว่างเปล่า ไม่เป็นที่ ไม่รู้ว่าควรอยู่ตรงไหน
แต่อย่างน้อย…มันก็ยังรอวัน ที่ใครบางคนจะเข้ามาเติมเต็มอย่างพอดี
✒️จากด้านเงียบของดวงจันทร์
โฆษณา