วันนี้ เวลา 07:10 • อสังหาริมทรัพย์

แบงก์เข้ม “แผ่นดินไหว” ต้องตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง"คอนโด"ก่อนจำนอง -โอน

แบงก์เข้ม “แผ่นดินไหว” ผู้ซื้อต้องจ้างวิศวกรตรวจสอบอาคาร-โครงสร้างความมั่นคงแข็งแรง "คอนโด"ก่อนจำนอง และโอนกรรมสิทธิ์ ชี้ช่วยผู้ซื้อผ่อนคลายวิตกกังวลความปลอดภัยได้
เหตุแผ่นดินไหว วันที่ 28 มีนาคม 2568 ตัวแปรทำให้ตลาดแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และนำไปสู่การชะลอโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค จากความตื่นตระหนก วิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐ องค์กรวิศวกร รวมถึงสามสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น เนื่องจากคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพ มหานคร มีความมั่นคงแข็งแรงไม่ได้รับผลกระทบเสียหายในเชิงโครงสร้างอาคาร มีเพียงวัสดุพื้นผิวที่ชำรุดแตกร้าวซึ่งสามารถซ่อมแซมได้
ผู้ประกอบการได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ดังนั้นสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซํ้าร้ายสถานการณ์ ที่เกินการควบคุม ภัยพิบัติที่ไม่อาจคาดเดา รวมทั้งนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐ อเมริกา ที่เป็นอีกชนวนการตัดสินใจของผู้บริโภค
ขณะมาตรการรัฐ ทั้งลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ของกระทรวงการคลังสำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ที่มีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์/เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) เป็น 100%
ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำหนดไว้ชั่วคราว มีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งทั้งสองมาตรการจะสิ้นสุดลงพร้อมกันวันที่ 30 มิถุนายน 2569 จะเข้ามาช่วยพยุงไม่ให้สถานการณ์บอบซํ้าไปกว่านี้
“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาพระโขนง ที่ดูแลโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กว่า 700 อาคาร โดยระบุว่าจากสถานการณ์ แผ่นดินไหว
ยอมรับว่าผู้ที่เคยติดต่อโอนกรรมสิทธิ์บางกลุ่ม ได้ขอชะลอโอนออกไป เข้าใจว่าเกิดความวิตกกังวลแม้มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองออกมาใช้แล้ว แต่เนื่องจากยังมีเวลาอีกนาน จึงยังไม่เร่งรีบนอกจากนี้หลายรายอาจอยู่ระหว่างขอสินเชื่อจากธนาคาร
อย่างไรก็ตามหลังเกิดแผ่นดินไหว ทางธนาคาร จะให้ผู้ซื้อตรวจสอบสภาพอาคารก่อนจำนอง ซึ่ง จะช่วยให้ผู้ซื้อผ่อนคลายความวิตกกังวลมากขึ้นพร้อมกลับมาโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง
ส่วนกลุ่มที่ซื้อคอนโดมิเนียมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ก็เดินทางมาโอนตามปกติ ปริมาณงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่น ปกติโอนวันละ 2 ห้อง ก็เพิ่มเป็น 5-6 ห้อง ซึ่งเข้าใจว่ามี กลุ่มที่ชะลอโอนเพราะรอมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้เนื่องจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง สิ้นสุดอายุลงเดือนมิถุนายน 2569 ยังมีเวลาอีกนาน ที่จะตัดสินใจ ซื้อรวมถึงมาตรการ ผ่อนเกณฑ์ /เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) เป็น 100%
โดยเริ่ม มีผลบังคับใช้ 1 พฤษภาคม 2568 จนถึง 30 มิถุนายน 2569 ผู้บริโภคอาจจะรอมาตรการใช้พร้อมกัน รวมและเป็นการดูท่าทีและความเชื่อมั่นของเหตุแผ่นดินไหวว่าจะไม่กลับมากระทบซํ้าอีก
รวมถึงได้มองหา โครงการที่สภาพไม่มีรอยร้าว หรือได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ก็จะตัดสินใจซื้อหลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมใหม่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และ คอนโดมิเนียมมือสอง ในอนาคต
เช่นเดียวกับสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขาห้วยขวาง มีโครงการคอนโดมิเนียมที่ดูแลจำนวนกว่า 400 อาคาร อธิบายว่า ขณะนี้เป็นช่วงต้นของการใช้มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง
ยังไม่เห็นปริมาณเพิ่มขึ้นของผู้ที่เดินทางมาโอนมากนัก และเนื่องจากเหตุเกิดแผ่นดินไหว ผู้ซื้อบางส่วน ได้ชะลอการโอนออกไป จากเดิมเคยนัดวันจะโอนทั้งธนาคารผู้ประกอบการและผู้ซื้อ ขณะที่บางกลุ่มชะลอโอนเพราะรอมาตรการฯ และหากสภาพห้องไม่กระทบเสียหายก็จะเดินทางมาโอนตามปกติ
ส่วนความนิยมคอนโดมิเนียมมากน้อยแค่ไหนหลังจากเกิดแผ่นดินไหว มองว่า คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่โครงสร้างมีความมั่นคงแข็งแรงทุกอาคารมีการเพิ่มแรงต้านทานแผ่นดินไหวตามกฎหมายอยู่แล้ว เชื่อว่า คอนโดมิเนียมยังคงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองแต่อาจเลือกเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ และดูสภาพอาคารที่ไม่ได้รับผลกระทบ
เมื่อสอบถามว่าพื้นที่ห้วยขวาง ยังมีคนจีนซื้อคอนโดมิเนียมจำนวนมากหรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า ช่วงหลังมีคนจีนเข้ามาโอนลดลง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเช่นเดิมวันละ 5คน ปัจจุบันเหลือเพียง2คน ฯลฯ ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ทราบแน่ชัดอาจเป็นเพราะ ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจบ้านของตนเอง หรือการนำเงินออกมาใช้นอกประเทศยากขึ้น จึงเป็นไปได้ว่าจีนอาจเป็นอีกประเทศที่ชะลอการซื้อคอนโดมิเนียมในไทยมากขึ้น
ฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย ประเมินว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ มหานครในปี 2568 คาดว่าจะมีจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ในระดับที่ไม่แตกต่างจากปีที่แล้วมากนัก และมีความเป็นไปได้ที่จะมีจำนวนยูนิตลดลงหรือประมาณ 20,000 ยูนิตอาจจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับหลายๆ
ปัจจัย โดยหนึ่งในปัจจัยใหม่ที่เข้ามามีผลต่อตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพ มหานคร คือ แผ่นดินไหวที่มีผลต่อความเชื่อมั่นในโครงการที่เป็น
อาคารสูงชัดเจน ถ้าช่วงหลังจากนี้ไม่มีเหตุการณ์ซํ้ารอย และผู้ประกอบการมีการตอบสนองในเรื่องของการซ่อมแซมทั้งส่วนกลางและภายในของแต่ละยูนิตก็อาจจะไม่มีผลกระทบในระยะยาว
โฆษณา