Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Sharp Lion
•
ติดตาม
30 เม.ย. เวลา 05:12 • กีฬา
เชลซี: จากทีมล่าแชมป์ สู่ยุคแห่งความสับสนไร้เป้าหมาย
นับตั้งแต่โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมผู้พาเชลซีก้าวขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรป ต้องอำลาสโมสรจากสถานการณ์ทางการเมือง สโมสรเชลซีก็เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การนำของ ท็อดด์ โบห์ลี่ และกลุ่มทุนจากอเมริกา ซึ่งแม้จะมีความตั้งใจลงทุนอย่างมหาศาล แต่ทัศนคติและแนวทางการบริหารทีมกลับแตกต่างจากยุคอับราโมวิชโดยสิ้นเชิง
จากชัยชนะสู่ผลกำไร: ความแตกต่างของเจ้าของทีม
โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเพื่อสร้างทีมที่ยิ่งใหญ่ เป้าหมายของเขาชัดเจนคือ “แชมป์” ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก แชมเปียนส์ลีก หรือบอลถ้วย เขาเลือกลงทุนกับโค้ชระดับท็อปและผู้เล่นที่ดีที่สุด ไม่เคยลังเลที่จะปลดโค้ชหากผลงานไม่ตามเป้า ความสำเร็จจึงเป็นสิ่งที่จับต้องได้
ในทางกลับกัน เจ้าของใหม่อย่างโบห์ลี่ กลับมองทีมในเชิงธุรกิจมากกว่า มุ่งเน้นการสร้างนักเตะอายุน้อยด้วยสัญญาระยะยาวเพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคต แผนระยะยาวที่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า “จะเอาแชมป์เมื่อไหร่” กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ทีมหลุดจากเส้นทางความสำเร็จที่เคยมีมา
แผนระยะยาวที่ล่องลอย กับอดีตที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล
ยุคอับราโมวิชแม้จะดูเป็นการทำทีมแบบระยะสั้น เปลี่ยนโค้ชบ่อย แต่ทุกการเปลี่ยนล้วนมุ่งไปที่ผลลัพธ์ — แชมป์ ลีก หรือถ้วยใหญ่ การทำทีมของโบห์ลี่กลับดูไร้แก่นสาร มองหาความยั่งยืนจากนักเตะวัยรุ่นที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ และเปลี่ยนโค้ชโดยไม่สนประสบการณ์หรือบุคลิกภาพที่เหมาะกับความกดดันของทีมใหญ่
ผอ.กีฬาผู้ไม่เคยสร้างทีมยักษ์ให้ประสบความสำเร็จ
โลรองต์ วิวีย์ และ พอล วินสแตนลีย์ สองผู้อำนวยการกีฬาของเชลซี ไม่เคยมีผลงานการบริหารระดับสโมสรใหญ่ที่จับต้องได้ ความสามารถในการเลือกนักเตะ หรือสนับสนุนโค้ชยังเป็นเครื่องหมายคำถาม พวกเขาเดินเกมตลาดซื้อขายแบบหว่านเงินโดยไม่มีความเฉียบคม การเสริมนักเตะจำนวนมากแต่ไม่ตอบโจทย์ทันทีทำให้ทีมขาดความลงตัวและไม่มีผู้นำในสนาม
มาเรชกา: โค้ชที่พูดเหมือนผู้แพ้ตั้งแต่วันแรก
เอ็นโซ มาเรชกา คือการแต่งตั้งที่สร้างความงุนงงให้แฟนบอลทั้งลีก ด้วยโปรไฟล์ที่ยังไม่เคยคุมทีมพรีเมียร์ลีก และผลงานกับเลสเตอร์ก็ไม่ได้ถึงขั้นโดดเด่น แต่สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือ "ทัศนคติ" ในการให้สัมภาษณ์ของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยคำพูดแบบคนพ่ายแพ้ ขาดความทะเยอทะยาน และไม่มีออร่าของผู้นำที่จะพาทีมคว้าแชมป์
แตกต่างจากโค้ชในยุคเสี่ยหมีอย่างโชเซ มูรินโญ ที่กล่าวไว้ว่า “ผมไม่อยากเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้แชมป์” หรือ โธมัส ทูเคิล ที่เคยพูดว่า “เรามาเพื่อคว้าชัยชนะ ไม่ใช่เพื่อทดลอง” สิ่งเหล่านี้คือทัศนคติของผู้ชนะที่แฟนเชลซีเคยภาคภูมิใจ แต่กำลังถูกแทนที่ด้วยความเฉื่อยชา
จากโปเช็ตติโน่ถึงมาเรชกา: วังวนของศัตรูแฟนบอลคนใหม่
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ถูกแต่งตั้งด้วยความคาดหวัง แต่กลับจบลงด้วยความล้มเหลวในสนามและความห่างเหินจากแฟนบอล มาเรชกาดูจะมาถึงจุดเดียวกันเร็วขึ้น เพราะเขาเริ่มต้นด้วยคำพูดที่ไม่สร้างแรงบันดาลใจ และไม่มีผลงานที่พิสูจน์ความสามารถได้เลย
บทสรุป: การทำทีมไร้ทิศทางและนโยบายระยะยาวเพ้อฝัน
การทำทีมเชลซีในยุคปัจจุบันดูเหมือนจะเดินวนอยู่ในวังวนแห่งความหวังลมๆ แล้งๆ ด้วยแนวคิด “สร้างทีมระยะยาว” ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ไม่มีผู้นำที่มีประสบการณ์ และขาดจิตวิญญาณแห่งผู้ชนะ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เรียกว่าการสร้างทีมเพื่ออนาคต แต่คือการ “ทำลาย” ทีมที่เคยยิ่งใหญ่
เชลซีในวันนี้อาจไม่ใช่ทีมที่แฟนบอลรักและคุ้นเคยอีกต่อไป
chelsea
premierleague
ฟุตบอล
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย