Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
P
Pro Fess
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 05:48 • ครอบครัว & เด็ก
ความจริง
EP.1 ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
ธรรมชาติไม่เคยโกหก
ไม่เคยปรุงแต่ง
ไม่เคยพยายามจะเป็นอะไรที่ไม่ใช่
ต้นไม้ยืนต้นตามวิถีของมัน
แม่น้ำไหลไปตามแรงโน้มถ่วง
ดอกไม้บานแล้วก็ร่วง
ไม่มีการต่อต้าน ไม่มีการอธิบาย
ธรรมชาติไม่เคยถามว่า
“ทำไมฉันต้องเจอพายุ?”
“ทำไมฉันถึงเหี่ยวเฉา?”
เพราะมันรู้ว่า ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเอง
คนต่างหากที่หลง
พยายามจะหนีความจริง
สร้างภาพ
ตั้งความหวัง
แปะป้ายคุณค่า
แล้วร้องไห้เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป
จะพบว่า…
ธรรมชาติกำลังสอนเราอยู่ทุกลมหายใจ
ฝนที่ตก… บอกให้เรายอมรับความเปียก
แดดที่ร้อน… บอกให้เราหาที่ร่มอย่างมีสติ
ใบไม้ที่ร่วง… บอกให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดอยู่คงทน
ความจริงไม่ได้ซ่อนอยู่ในตำรา
แต่อยู่ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
อยู่ในทุกสิ่งที่ดับไป
อยู่ในความเปลี่ยนแปลง
ที่เรามักพยายามปฏิเสธ
ผู้ที่ฟังธรรมชาติด้วยใจนิ่ง
จะเริ่มได้ยินเสียงของสัจธรรม
ผู้ที่มองโลกด้วยดวงตาไม่ปรุงแต่ง
จะเริ่มเห็นความจริงที่ไม่ต้องตีความ
บางครั้ง เราไม่ต้องแสวงหาอะไร
แค่หยุดนิ่ง
มอง
ฟัง
แล้วเรียนจากสิ่งที่เป็นอยู่ตรงหน้า
เพราะธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
…แต่เราต่างหากที่หลบตา
---
EP.2 ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
: นอกเหนือความเป็น คน สัตว์ สิ่งของ
ธรรมชาติที่แท้ ไม่ได้มีชื่อเรียก
ไม่ใช่คน
ไม่ใช่สัตว์
ไม่ใช่ต้นไม้ ภูเขา หรือแม่น้ำ
ไม่ใช่ “สิ่งของ” ที่จับต้องได้
ธรรมชาติที่แท้…
คือ “ความเป็นไป”
คือ “ความเป็นเช่นนั้นเอง”
คือ “กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง” ที่ไม่เคยหยุด
คนมักมองธรรมชาติผ่านฉลาก
นี่คนดี
นั่นสัตว์เลว
นี่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
นั่นของต้องห้าม
แต่นั่นเป็นแค่การมองผ่านกรอบคิด
ไม่ใช่การมองด้วยจิตที่ว่าง
ความจริงของธรรมชาติ
ไม่จำเป็นต้องมีรูปร่าง
ไม่จำเป็นต้องอธิบาย
ไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ
ธรรมชาติแสดงความจริง
ผ่านความเงียบ
ผ่านการดับของดวงอาทิตย์ในทุกเย็น
ผ่านการผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ
โดยไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียว
ถ้าเราหยุดมองว่า "สิ่งนี้เป็นคน"
"สิ่งนั้นเป็นสัตว์"
"สิ่งโน้นเป็นของมีค่า"
เราจะเริ่มเห็นสิ่งที่ไม่มีใครตั้งชื่อให้
นั่นคือ… ความจริงดั้งเดิม
ความจริงที่ไม่ถูกแบ่งแยก
ความจริงที่ไม่มีตน ไม่มีเขา ไม่มีเรา
สัจธรรมที่แท้ ไม่เคยแบ่งแยก
และธรรมชาติ ก็ไม่เคยเลือกข้าง
พายุไม่เคยถามว่าบ้านนี้รวยหรือจน
แดดไม่เคยเลือกส่องเฉพาะผู้มีศีลธรรม
ฝนไม่เคยถามว่าควรตกเฉพาะพื้นที่เกษตร
เพราะธรรมชาติไม่ได้มองโลกแบบเรา
ธรรมชาติมองทุกอย่างเป็นความว่าง
และในความว่างนั้น
มีความจริงที่สุดของทุกชีวิตซ่อนอยู่
จงเรียนรู้จากธรรมชาติ
ที่ไม่แบ่งแยก
ไม่เรียกร้อง
ไม่สร้างตัวตน
แล้วเราจะเข้าใจว่า
"ความจริง" อยู่เหนือความเป็น คน สัตว์ หรือสิ่งของ
---
EP.3 ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
: นอกเหนือ ภาษาสมมุติ คำ วลี ประโยค
ธรรมชาติไม่เคยพูด
แต่กลับสื่อสารชัดเจนยิ่งกว่าถ้อยคำใดๆ
ไม่มีคำอธิบาย
แต่กลับเข้าใจได้ด้วยใจที่นิ่ง
ไม่มีการแปลความ
แต่กลับกระทบจิตได้ตรงกว่าเสียงใด
ต้นไม้ยืนตายท่ามกลางแดดร้อน
โดยไม่ร้องขอความเห็นใจ
หินผุกร่อนตามกาลเวลา
โดยไม่ต้องประกาศความยอมรับ
ธรรมชาติไม่ต้องมี "คำ"
เพราะความจริงที่แท้
ไม่ต้องใช้ "วลี" ใดมาอธิบาย
และไม่เคยต้องการ "ประโยค" ใดมาพิสูจน์
ภาษาทั้งหมด เป็นเพียง "สมมุติ"
เกิดขึ้นเพื่อสื่อในโลกของความคิด
แต่มันไม่อาจจับต้องสัจธรรมได้โดยตรง
เพราะทันทีที่เราตั้งชื่อสิ่งใด
เราก็ได้แยกมันออกจากความจริงเดิมแล้ว
“ภูเขา”
ก็ไม่ใช่ภูเขา หากไม่ถูกเรียกว่าภูเขา
“ความรัก”
ก็เป็นเพียงคลื่นความรู้สึกหนึ่ง
ที่ถูกจับยัดลงในคำ
แล้วตีกรอบมันด้วยนิยามมากมาย
แต่ธรรมชาติ… เขาไม่เคยสมมุติ
ไม่เคยเรียกชื่อ ไม่เคยวิเคราะห์
เขาแค่เป็น
อยู่
ดำรง
ดับ
อย่างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา
เมื่อเราเลิกยึดภาษามาเป็นกรอบความเข้าใจ
ใจจะเริ่มเปิดรับการเรียนรู้โดยไร้คำพูด
จะเริ่มฟังเสียงของความจริง
ที่พูดด้วยความเงียบ
จะเริ่มเข้าใจ
โดยไม่ต้องอธิบาย
ผู้ที่หลุดพ้นจากความหลงในถ้อยคำ
จะเริ่มเห็นความจริงในทุกสิ่ง
ไม่ต้องถาม
ไม่ต้องตอบ
เพียงอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
อย่างสงบ
อย่างรู้
และอย่างว่าง
ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
แม้ไม่มีเสียง ไม่มีถ้อยคำ
แต่ทุกสิ่งล้วนเป็น “ประโยคแห่งสัจธรรม”
…ที่ไม่ต้องเขียนไว้ในหนังสือเล่มใดเลย
---
EP.4 ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
: นอกเหนือ สถานภาพสมมุติ อุปโลกน์หัวโขน ยศฐาบรรดาศักดิ์ ประธานาธิบดี กษัตริย์ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ปลัด พระครู เจ้าคุณ มหาเปรียญ ฯ
ในสายตาของธรรมชาติ
ไม่มีใครใหญ่ ไม่มีใครเล็ก
ไม่มีใครเป็น “คนสำคัญ”
และไม่มีใคร “ไร้ค่า”
ใบไม้ทุกใบร่วงหล่นลงพื้นเหมือนกัน
ไม่ว่าใบไหนจะอยู่บนยอดสูงหรือกิ่งล่าง
ลมพัดผ่านทุกคนโดยไม่เลือกหน้า
แดดเผาทั้งคนจนและกษัตริย์ได้ในระดับเดียวกัน
ธรรมชาติไม่รู้จักคำว่า
“นายกรัฐมนตรี”
“รัฐมนตรี”
“เจ้าคุณ”
หรือ “มหาเปรียญ”
เพราะทั้งหมดนั้น… คือสมมุติ
คือหัวโขนที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
เพื่อบอกว่าใคร “เหนือ” ใคร “ต่ำ”
แต่ในธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดเหนือสิ่งใด
มีเพียง “สิ่งที่เกิดขึ้น” และ “สิ่งที่ดับไป”
อย่างเท่าเทียม อย่างไร้ตัวตน
ภูเขาไม่ย่อเข่าให้กษัตริย์
แม่น้ำไม่หยุดไหลเมื่อประธานาธิบดีเดินผ่าน
พระอาทิตย์ไม่เคยเอียงแสงให้ใครเป็นพิเศษ
และความตายก็ไม่เคยถามว่า…
คุณเป็นถึงยศอะไร?
ผู้คนหลงในหัวโขน
จนลืมความจริงอันเรียบง่ายว่า
ทุกชีวิตล้วนเปลือยเปล่าต่อหน้าธรรมชาติ
ต่อให้เรียนจบด็อกเตอร์
มีฉายาทางธรรม
ได้รับรางวัลระดับโลก
ก็ไม่อาจหนีพ้น
“แก่ เจ็บ ตาย” เหมือนกับเด็กวัดตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
ธรรมชาติสอนให้เรารู้ว่า
"สถานภาพสมมุติ" เป็นเพียงการเล่นบทชั่วคราว
แค่แสดงจบ ฉากตก ทุกคนก็ถอดชุดกลับบ้าน
และไม่มีใครแบกบทนั้นติดตัวไปถึงปรโลกได้
ธรรมชาติไม่ได้ดูว่าคุณใส่จีวรหรือชุดสูท
ไม่ได้วัดคุณจากตำแหน่งหน้าชื่อ
แต่ดูว่าคุณ "อยู่กับความจริงได้แค่ไหน?"
"ถอดอัตตาได้หรือยัง?"
"พร้อมจะคืนทุกยศ ทุกสมมุติ ให้กับว่างเปล่าหรือยัง?"
เมื่อเข้าใจเช่นนี้…
หัวใจก็จะอ่อนลง
วางยศ วางศักดิ์
แล้วยอมเป็นเพียงเศษฝุ่นเล็กๆ
ที่ลอยในกระแสธรรมชาติ
อย่างสงบ อย่างเรียบง่าย อย่างรู้แจ้ง
ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
และความจริงนั้น…
ไม่เคยกราบใคร
ไม่เคยให้เกียรติใครเป็นพิเศษ
แต่ยุติธรรมกับทุกชีวิตเสมอ
---
EP.5 ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
: นอกเหนือศาสนา ศาสดา ลัทธิ ความเชื่อ
ชุดที่สวมใส่ และพิธีกรรม
ธรรมชาติ…
เขาไม่ใช่พุทธ
ไม่ใช่คริสต์
ไม่ใช่อิสลาม
ไม่ใช่พราหมณ์ ไม่ใช่ฮินดู หรือเต๋า
ธรรมชาติ…
เขาไม่มีศาสดา
ไม่มีตำรา ไม่มีพระไตรปิฎก
ไม่มีคัมภีร์อัลกุรอานหรือพระคัมภีร์ไบเบิล
ไม่มีพระวจนะ ไม่มีคำสอน
แต่เขา “สอน” ด้วยความจริง
ที่ไม่ต้องใช้แม้แต่คำเดียว
ต้นไม้ไม่ได้เกิดมาพร้อมศรัทธา
แต่มันก็เติบโตอย่างตรงไปตรงมา
ภูเขาไม่ได้มีพิธีกรรม
แต่มันยืนหยัดอยู่นับพันปี
น้ำไม่ได้มีศาสนา
แต่มันยังหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตโดยไม่แบ่งแยก
ผู้คนต่างสร้าง “ความเชื่อ”
เพื่อหาความหมาย
แต่บางครั้ง… ก็หลงกลคำสอน
จนลืมมอง “ธรรมชาติจริง” ที่อยู่ตรงหน้า
จนลืมไปว่า…
ความจริง ไม่ต้องมีใครเชื่อ
มันก็เป็นของมันอยู่แล้ว
ศาสดาคือผู้เห็นธรรมชาติ
แล้วนำความจริงนั้นมาเล่าด้วยภาษา
แต่เมื่อคำพูดกลายเป็นคำสอน
คำสอนกลายเป็นลัทธิ
ลัทธิกลายเป็นพิธี
พิธีกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
และที่สุด… ผู้คนก็กราบแต่พิธี
แต่ลืมความจริงดั้งเดิม
บางคนใส่จีวร
บางคนใส่ชุดขาว
บางคนคลุมศีรษะด้วยผ้าศักดิ์สิทธิ์
แต่ใจยังเต็มไปด้วยอัตตา
เต็มไปด้วยความหลงใน "เครื่องแบบ"
มากกว่าความว่างในหัวใจ
ธรรมชาติไม่เคยสนใจว่าเราจะใส่อะไร
จะสวดบทไหน
จะกินเจหรือกินเนื้อ
จะเคารพพระรูปไหน
จะถือศีลกี่ข้อ
เพราะธรรมชาติไม่ได้ฟังคำอธิษฐาน
แต่ดูว่า…
“จิตของเจ้าว่างพอหรือยัง?”
“เจ้ารู้ความจริงในทุกสิ่งหรือยัง?”
ความจริงไม่ต้องมีบทสวด
ไม่ต้องร่ายเวทย์
ไม่ต้องผ่านพิธี
ไม่ต้องรอเทศกาล
มันอยู่ตรงนั้นเสมอ
ในลมหายใจ
ในแสงแดด
ในรอยยิ้มและน้ำตา
ธรรมชาติคือครูที่ไร้นาม
ไร้ตำรา ไร้ศาสนา
แต่เปี่ยมด้วยความจริงแท้
ที่เปิดสอนอยู่ทุกวินาที
...สำหรับผู้ที่มีใจเงียบพอจะฟัง
ธรรมชาติเขาแสดงความจริงตลอดเวลา
ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
ไม่ว่าคุณจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธา
ความจริง… ก็ยังคงเป็นความจริง
โดยไม่แปรเปลี่ยนไปตามความเห็นของใครเลย
---
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย