Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
windasharing
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 10:11 • หนังสือ
🌸หลักการตลาดที่ไม่เน้นยอดขายให้รวยเร็ว แรง แต่ส่งเสริมการสร้างคุณค่าและความสุข🌸
หนังสือ : Makoto Marketing หลักสูตรการตลาดแบบจริงใจสไตล์ญี่ปุ่น
ผู้เขียน : ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ (เกตุวดี Marumura)
สำนักพิมพ์ : The Cloud
ในขณะที่ทุกคนเข้าใจว่าการตลาด คือ การสร้างยอดขายให้ได้มากๆ ทุกคนรู้จักเครื่องมือเหมือนๆกัน เล่มนี้จะพาเราไปรู้จักกับการตลาดที่มาจากใจ ทั้งจริงใจและใส่ใจ การตลาดที่ยั่งยืน และเป็นการตลาดที่จะทำให้ผู้คน รวมถึงตนเองมีความสุข นั่นคือ Makoto Marketing ซึ่งคำว่า ”Makoto“ (มาโกโตะ) แปลว่า ความจริงแท้ ไม่ปรุงแต่ง
ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ หรือที่รู้จักกันในนาม เกตุวดี Marumura อาจารย์ได้เขียนคอลัมน์ Makoto Marketing ว่าด้วยเรื่องการตลาดแบบจริงใจสไตล์ญี่ปุ่น บนเว็บไซด์ The Cloud จนมารวมเล่มในครั้งนี้ ซึ้งมันดีมาก จึ้งมาก ประโยชน์แน่นมากค่ะ
ในเล่มจะมี กรณีศึกษาของธุรกิจญี่ปุ่นที่มีอายุยืนยาวนานกว่า 100 ปี กว่า 10 ธุรกิจ โดยมีวิธีทางการตลาดแบบ Makoto Marketing อย่างชัดเจน วินดาว่าการตลาดแบบนี้มีเสน่ห์ที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น อบอวลไปด้วยใจที่สบายเมื่อได้เป็นลูกค้า ขนาดแค่ได้อ่านยังสัมผัสได้เลยค่ะ
จากสิบว่า case มีสองเรื่องที่วินดาชอบมากๆ คือ
เรื่องแรก ร้านช็อกโกแลตที่ไม่เคยจ้าง Influencer และมีสื่อ 200 เจ้ามาสัมภาษณ์ฟรีๆ ร้านนี้ชื่อว่า Minimal เป็นร้านที่ทำและขายช็อกโกแลตแบบไม่ใส่อะไรเลยนอกจากโกโก้กับน้ำตาลเท่านั้น มันเป็นรสชาติที่เรียบง่าย แต่ลุ่มลึก และมีความเป็นญี่ปุ่น
Minimal จะนำส่งประสบการณ์การกินช็อคโกแลตแบบใหม่ เช่น ตอนเช้ากินช็อกโกแลตที่มีรสเปรี้ยวให้ตาสว่าง และเริ่มตันวันด้วยความสดใส ก่อนไปประชุมก็กินช็อกโกแลตอีกรสหนึ่ง หรือตอนง่วงๆเพลียๆก็กินช็อกโกแลตอีกแบบ ตอนไปจิบวิสกี้ที่บาร์ก็กินช็อกโกแลตอีกแบบหนึ่ง เรียกได้ว่า วิถีการกินช็อคโกแลตจะเปลี่ยนไป และช็อกโกแลตจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ถือเป็นวิธีการที่เรียบง่ายและดึงรสชาติวัตถุดิบออกมาให้ความอร่อยตามธรรมชาตินั้นโดดเด่นที่สุด
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการใช้ถุงซิปล็อคแทนการห่อด้วยกระดาษสีเงินเพื่อให้เก็บง่ายเมื่อกินไม่หมด และยังให้ได้กลิ่นหอมของโกโก้เวลาเปิดได้ดีกว่า, มีการ์ดแนะนำว่าควรกินคู่กับอะไร, ช็อกโกแลตมีความหนาไม่มากเกินไป และมีช่องให้หักขนาดต่างกันเพื่อให้สนุกกับการกิน หักง่าย เป็นต้น
อีกเรื่องคือ ร้านขนมญี่ปุ่น 500 ปี ชื่อร้านโทระยะ จุดเด่นของขนมคือใช้แป้งและถั่วแดง สินค้าหลักคือ วุ้นถั่วแดง หรือในภาษาญี่ปุ่น คือ ‘โยคัง’
ปรัชญาในการทำธุรกิจของร้านโทระยะ คือ ทำให้ผู้คนมีความสุขด้วยการส่งมอบขนมญี่ปุ่นที่อร่อย เป็นปรัชญาที่ฟังดูเรียบง่าย แต่คิดอย่างละเอียดลออทุกคำ โทระยะใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบอย่างดี การผลิตอย่างประณีต และการดูแลลูกค้า
เรื่องที่วินดาชอบมากความในใส่ใจลูกค้าคือ เวลาพนักงานออกแบบขนมเสร็จ พวกเขาจะลองชิมในสถานการณ์เดียวกัน ทีมงานจะวางขนมตัวอย่างบนจานเล็กๆ และลองจิ้มด้วยไม้จิ้มแบบญี่ปุ่น พวกเขาเลือกกินตอนบ่าย 3 โมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้ามักจะกินขนมมากที่สุด
การลองทำแบบนี้ทำให้พนักงานรู้ว่า ขนมที่ทำสดๆในตอนเช้า พอวางถึงตอนบ่ายแป้งจะแห้งกรอบหรือไม่ หรือถ้าลูกค้าใช้ไม้จิ้มกินจะลำบากรึป่าว ถ้าปั้นเสร็จแล้วชิมเลยก็จะรู้แค่รสชาติดีหรือไม่แค่นั้น นี่คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ออกแบบขนมได้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด
ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจและวินดาเชื่อว่าคนอ่านจะได้ประโยชน์กลับออกมาแน่นอน ลองหาอ่านกันดูนะคะ แนะนำ แนะนำเลยค่ะเล่มนี้
🦋winda
IG : windasharing
IG : winda_read_and_share หนังสือมือสองอ่านเอง
รีวิว
ญี่ปุ่น
ธุรกิจ
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
หนังสือให้ได้มากกว่าการอ่าน📚📖🔍
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย