เมื่อวาน เวลา 03:30 • ธุรกิจ

บริษัทที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุเกิน 1,400 ปี ทำธุรกิจอะไร ?

ในประเทศไทย บริษัทที่มีอายุมากที่สุด ซึ่งยังคงดำเนินงานอยู่ คือ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
ที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า ก่อตั้งปี ค.ศ. 1878 มีอายุ 147 ปี
5
และถ้าให้เดาว่า บริษัทที่มีอายุมากที่สุดในโลก จะมีอายุกี่ปี ?
300 ปี 500 ปี หรือ 1,000 ปี
คำตอบคือ 1,447 ปี..
นั่นคือบริษัท “Kongō Gumi” อ่านว่า คงโงงูมิ
1
และถ้าถามอีกว่า บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจอะไร ทำไมถึงอยู่ยงคงกระพัน อยู่นับพันปีได้ ?
คำตอบที่ได้ อาจทำให้หลายคนคาดไม่ถึง
ไม่ใช่ธุรกิจอาหาร ธุรกิจปรุงยา ทำสินค้าทางประวัติศาสตร์ หรือค้าขาย
แต่เป็นธุรกิจก่อสร้าง ที่ไม่ใช่ก่อสร้างธรรมดา นั่นคือการสร้าง “วัด”
ทำไมบริษัท ถึงอยู่ได้นานขนาดนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ผู้สร้างตำนานของบริษัทนี้คือคุณ Shigemitsu Kongō ผู้อพยพจากเกาหลีใต้ ที่อาศัยในญี่ปุ่น และมีอาชีพเป็นช่างไม้
วันหนึ่งเขาได้ถูกเจ้าชายโชโตกุ และราชสำนัก ว่าจ้างให้สร้างวัดทางพุทธศาสนาขึ้น
เพราะสมัยนั้น ญี่ปุ่นยังไม่เคยมีวัดพุทธเลยสักแห่ง คนญี่ปุ่นจึงไม่มีความชำนาญในด้านนี้
ซึ่งคุณ Shigemitsu Kongō ก็ได้สร้างวัดพุทธแห่งแรกขึ้นในญี่ปุ่น นั่นคือ “Shitenno-ji” หรือวัดชิเทนโนจิ ที่ตั้งอยู่ในเมืองโอซากะ
ผลงานนี้ เป็นที่ยกย่องชื่นชมจากผู้คนอย่างมาก และประจักษ์ให้เห็นถึงความสามารถของคุณ Shigemitsu Kongō
จากกระแสตอบรับที่ได้ บวกกับเขาก็เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการสร้างวัดต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่น
คุณ Shigemitsu Kongō จึงได้ก่อตั้งบริษัท Kongō Gumi ขึ้นในปี ค.ศ. 578 เพื่อดำเนินธุรกิจรับสร้างวัดอย่างเต็มตัว
2
นอกจากนี้ ยังมีอานิสงส์จากการที่เจ้าชายโชโตกุ ได้เริ่มส่งเสริมพุทธศาสนาให้แพร่หลายในญี่ปุ่น
กิจการ Kongō Gumi จึงเติบโตเรื่อยมา พร้อมกับความศรัทธาของผู้คน ซึ่งวัดชื่อดังหลายแห่งก็มาจากผลงานของบริษัท เช่น วัดโคฟูกุจิ (Kōfuku-ji)
หรือ วัดโฮรีวจิ (Hōryū-ji) ที่บริษัทมีส่วนร่วมในการบูรณะวัดหลายครั้ง โดยเฉพาะการบูรณะหลังเหตุไฟไหม้และแผ่นดินไหว
Kongō Gumi นอกจากได้สร้างวัดพุทธจำนวนมากในญี่ปุ่นแล้ว
บริษัทยังได้สร้าง ศาลเจ้า ประตู ตึก รวมถึงปราสาทต่าง ๆ
5
และหนึ่งในผลงาน อันเป็นระดับตำนานในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ก็คือ “ปราสาทโอซากะ”
1
โดยในปี ค.ศ. 1583 โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ซึ่งเป็นไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่ ในช่วงปลายยุคเซ็งโงกุ ได้สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอซากะ ที่บริเวณวัดอิชิยามะฮงกันจิ
2
และ Kongō Gumi ก็ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้างและการบูรณะปราสาทโอซากะ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญในการสร้างวัด มาใช้ทำปราสาทแห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่
1
นอกจากนี้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ความต้องการสร้างวัดได้หายไป
บริษัทก็ได้ผันตัว ไปทำหีบศพขาย เพื่อรองรับความต้องการในภาวะสงคราม ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
1
หลังสงครามสิ้นสุด บริษัทก็กลับมาบูรณะวัดและศาลเจ้า ที่ถูกทำลายไปในสงครามขึ้นมาใหม่
และเริ่มหันมาใช้คอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างแทนไม้ เนื่องจากเห็นว่า ไม้ไม่ทนทานต่อไฟไหม้ แผ่นดินไหว รวมถึงสงคราม
 
Kongō Gumi ดำเนินกิจการมาอย่างยาวนาน มีการสืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่นถึง 40 รุ่น
โดยเลือกผู้นำธุรกิจ จากลูกหลานที่มีความสามารถ และเหมาะสมที่สุดให้มารับช่วงต่อ
ไม่ว่าจะเป็น ลูกชายคนเล็ก คนโต ผู้ชาย หรือผู้หญิง
7
แต่ชีวิตคนเราย่อมมีอายุขัย ซึ่งธุรกิจก็เช่นกัน..
 
ในช่วงปี ค.ศ. 1980 บริษัทได้กู้เงินจำนวนมาก มาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และดันโชคร้าย เกิดวิกฤติฟองสบู่แตก ราคาสินทรัพย์ที่บริษัทได้ลงทุนไป ร่วงลงมหาศาล จนบริษัทเหลือเพียงหนี้สินไว้กับตัว
นอกจากนี้ รายได้ของบริษัทก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสร้างวัดที่ลดลง
เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป พุทธศาสนาในญี่ปุ่นไม่ได้เจริญงอกงามเหมือนสมัยก่อน
ซึ่งรายได้จากการสร้างวัดคิดเป็น 80% ของบริษัท
1
และในที่สุด บทสุดท้ายของเรื่องก็มาถึง
ปี ค.ศ. 2006 บริษัทก็เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย และขายสินทรัพย์เพื่อมาชำระหนี้..
1
ในตอนนั้น Takamatsu Construction Group บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในญี่ปุ่น
ได้เข้ามาซื้อกิจการ Kongō Gumi เพราะต้องการรักษาตำนานกว่า 1,400 ปี นี้ไว้เป็นมรดกสืบไป
สรุปคือ Kongō Gumi ได้กลายเป็นบริษัทในเครือของ Takamatsu อย่างสมบูรณ์ และยังเป็นอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ถือเป็นการปิดตำนานธุรกิจครอบครัวตระกูล Kongō ที่สืบทอดกันมานานเกิน 1,400 ปี ไปอย่างถาวร และส่งต่อให้คนนอก ได้สืบสานตำนานนี้ต่อไป..
1
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ถ้าเอาแผนผังชื่อสมาชิกตระกูล Kongō
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท จนขายกิจการไป นับรวมเป็น 40 รุ่น มากางดู
แผงผังจะมีความยาวถึง 10 ฟุต หรือประมาณ 3 เมตร..
1
โฆษณา