1 พ.ค. เวลา 02:10 • ไลฟ์สไตล์

เด็กยุคใหม่ไม่ได้หายไปจากโซเชียล... พวกเขาแค่ “ไม่อยากให้คุณเห็น”

(เมื่อการไม่โพสต์ คือการแสดงออกแบบใหม่ในโลกของเด็ก GenZ ที่เราควรเข้าใจ)
ผู้เขียนดูรายการ “เสือร้องไห้” ที่สัมภาษณ์น้องๆ 4EVE มี topic นี้ขึ้นมาว่าเด็กๆ สมัยนี้ไม่ค่อยโพสต์รูป หรือแม้กระทั่งเล่น Facebook พอฟังแล้วก็เลยลองรวมข้อมูลดู เป็นหนึ่ง Gap ที่สำคัญมากที่แตกต่างระหว่าง GenX/Y กับ GenZ การเข้าใจพฤติกรรม และทัศนคติจะทำให้เราเข้าใจโลกที่เปลี่ยนไปมากขึ้น โดยเฉพาะคน GenX/Y ที่ต้องทำงานร่วม หรือดำเนินชีวิตร่วมกับ GenZ ที่จะเข้ามาสู่ตลาดแรงงานเต็มรูปแบบว่า “พวกเค้าไม่เหมือนพวกเราอย่างไร แม้กระทั่ง Social Lifestyle”
===
เคยสังเกตไหมว่า เด็กสมัยนี้โพสต์น้อยลง?
ทั้งที่โลกเต็มไปด้วยกล้องหน้า กล้องหลัง และสตอรี่ให้เล่น 24 ชั่วโมง... แต่กลับมีวัยรุ่นจำนวนมากที่เลือก “ไม่แชร์อะไรเลย” หรือแค่ดูแบบเงียบ ๆ
คำถามที่น่าสนใจไม่ใช่แค่ “พวกเขาหายไปไหน?” แต่คือ “พวกเขากำลังคิดอะไร?” และ “อะไรคือการแสดงออกที่แท้จริงในยุคนี้?”
===
โพสต์ให้น้อยลง = ฉลาดขึ้น?
สำหรับคนรุ่นพ่อแม่หรือ Gen Y อย่างเรา การโพสต์คือการแบ่งปัน แต่กับเด็กยุคใหม่ มันอาจคือ “ความเสี่ยง”
“โพสต์อะไรไป เดี๋ยวก็โดนแคป โดนแชร์ โดนล้อ”
“โซเชียลเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่พื้นที่ส่วนตัว แต่มันคือเวทีสาธารณะที่ทุกคนพร้อมตัดสินคุณ”
“เพราะทุกครั้งที่ลงอะไรไป จะมีคนเงียบ ๆ คอยจ้องจับผิด”
– ม.5 โรงเรียนรัฐในกรุงเทพฯ
“เสียงสะท้อนจากน้องๆ Gen Z และอัลฟ่ามีทั้งเหตุผลที่เข้าใจได้ และน่าคิดมาก”
===
เหตุผลที่เด็กยุคใหม่ไม่อยากโพสต์?
* กลัวโดนล้อ โดนบูลลี่: โซเชียลกลายเป็นสนามแข่งที่ใครพลาดก็โดนเล่น
* ขาดความมั่นใจในวัยเปลี่ยนผ่าน: รูปร่าง หน้าตา บุคลิก — เด็กๆ บอกว่า ยังไม่มั่นใจพอจะแชร์อะไรออกไป
* รู้สึกว่าไม่มีอะไรให้อวด: เพราะเห็นแต่คนที่ “ประสบความสำเร็จ” เต็ม feed
* เบื่อวัฒนธรรมโชว์ออฟ: มีแค่ “รูปถ่ายอาหารแพง” หรือ “ชีวิตดีๆ”
* แพลตฟอร์มเปลี่ยนไป: Facebook ถูกมองว่า “เป็นที่ของผู้ใหญ่” ไปแล้ว
* บางคนอยากดูมีเทสต์ สุขุม น่าค้นหา: ยิ่งไม่โพสต์ ยิ่งดู ‘ลึกลับ’ (เขาว่างั้น)
“ผมก็แค่เลือกซ่อนรูปไว้ ไม่ได้ไม่ชอบถ่าย แต่อยากดูเท่ห์เฉยๆ”
– เสียงจากวัยรุ่นชายคนหนึ่ง
===
ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือสัญญาณวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป
พฤติกรรมนี้ไม่ใช่แค่ ‘เบื่อโซเชียล’ แต่มันคือ “แนวคิดใหม่” ที่สะท้อนยุคสมัย
🔍 ความเป็นส่วนตัว = คุณค่ารูปแบบใหม่
* เด็กยุคใหม่เห็นโซเชียลเป็นพื้นที่เสี่ยงมากกว่าจะเป็นพื้นที่สนุก
* หลายคนเลือกใช้ Stories, Snapchat หรือกลุ่มส่วนตัว มากกว่าการโพสต์สาธารณะ
📸 การถ่ายรูปยังอยู่ — แต่การแชร์กลายเป็น “พิธีกรรมที่ต้องคิด”
* ถ่ายไว้ดูเองได้ แต่ไม่จำเป็นต้องโชว์
* ถ่ายให้เพื่อนกลุ่มใกล้ชิดเท่านั้น
* หรือถ่ายเงียบ ๆ เพื่อเก็บเป็นความทรงจำ
🤝 การไม่โพสต์ ไม่ได้แปลว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์
* เด็กบางคนยังดูสตอรี่ทุกคน ตอบ DM ตลอด แต่ไม่โพสต์อะไรเลย
* พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ในแบบที่ “เลือกได้ว่าใครจะเห็น”
===
มองข้าม Generation แล้วจะเห็นว่าเราทุกคนมีมุมของตัวเอง?
* คน Gen X ใช้โซเชียลมีเดียเหมือน “สมุดภาพ” ที่เก็บทุกช่วงเวลาแบบไม่ต้องคิดมาก
* คน Gen Y เติบโตมากับ Facebook + IG ใช้โพสต์เพื่อแสดงออกทั้งความสุข ความเศร้า ความสำเร็จ และความเฮฮา
* คน Gen Z เริ่มเปลี่ยนมาใช้โซเชียลเป็น “พื้นที่ที่เลือกเปิด-ปิดได้” — ไม่ใช่เพื่อโชว์ แต่เพื่อเชื่อมเฉพาะบางคน
* ส่วน Gen Alpha ที่กำลังเติบโตขึ้น อาจไม่ได้รู้สึกว่าโซเชียลคือเวทีอีกต่อไป — แต่คือระบบหนึ่งที่เขาจะเลือกใช้เฉพาะเมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยพอ
ความแตกต่างเหล่านี้ไม่ใช่เรื่อง Generation…แต่มันคือ “บริบทของยุค” และ “ระดับภูมิคุ้มกันใจ” ที่แต่ละรุ่นสะสมมาไม่เหมือนกัน
===
แล้วคนรุ่นก่อนควรเข้าใจอย่างไร?
เราอาจเคยใช้ Facebook เป็นไดอารี่ออนไลน์ แต่กับคนรุ่นใหม่ พวกเขาไม่ได้ต้องการ “ให้ทุกคนเห็น” อีกต่อไป
สิ่งที่พวกเขาต้องการอาจเป็น…
* พื้นที่ปลอดภัยที่ไม่มีใครตัดสิน
* การเลือกว่าจะเล่าอะไร เมื่อไหร่ และให้ใครดู
* ความเงียบสงบจาก feed ที่ไม่ได้เต็มไปด้วยแรงกดดัน
สิ่งที่เราควรทำคือ…
* อย่ากดดันให้เขาต้องโพสต์: ความสุขไม่จำเป็นต้องออกสื่อ
* สนับสนุนการเก็บความทรงจำในแบบที่เขาสบายใจ
* สร้างพื้นที่ที่ไม่ต้องเพอร์เฟกต์เพื่อให้เขาอยากแชร์เอง
===
มองย้อนกลับไป แล้วจะเข้าใจ
หลายคนเมื่อโตขึ้น มักกลับไปดูรูปเก่า ๆ แล้วรู้สึกเสียดาย
“ตอนวัยรุ่นฉันดูดีขนาดนั้น ทำไมไม่มั่นใจ?”
“เสียดายที่ไม่เก็บช่วงเวลานั้นไว้ให้ตัวเองดูบ้างเลย”
วันนี้ เด็ก ๆ อาจยังไม่เข้าใจคุณค่าของภาพถ่ายหรือเรื่องเล่า แต่ถ้าเราส่งต่อแนวคิดว่า “เก็บไว้ก่อน แม้ไม่ต้องโชว์” — วันหนึ่งพวกเขาจะขอบคุณ
===
ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนต้องโพสต์ — แต่ทุกคนควรได้เข้าใจ
การที่เด็กยุคใหม่ “หายไปจาก Feed ใน Social” ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่สนใจโลก แต่อาจแปลว่า พวกเขากำลังเลือกวิธีอยู่กับโลกในแบบของตัวเอง
“บางคนโพสต์น้อย…แต่ใช้ชีวิตเยอะมาก”
“บางคนไม่มีไอจี…แต่มีเงินเก็บสิบล้าน”
และนั่นคือเสน่ห์ของ Generation ที่ไม่ได้ตัดสินคุณค่าจากสิ่งที่โชว์ แต่จากสิ่งที่เขาเลือกจะไม่โชว์ต่างหาก
“การไม่โพสต์ ไม่ได้แปลว่าไม่มีชีวิต — บางครั้งมันคือการมีชีวิตที่ไม่ต้องให้ใครเห็นก็ได้”
====
ผู้เขียน เขียนถึงบรรทัดนี้ ก็รู้สึกแก่ขึ้นมาเลย เพราะมั่นใจว่าเด็ก GenZ ก็จะ “ไม่มาอ่านบทความนี้ หรืออ่านอะไรยาว ๆ ถ้าไม่มีความจำเป็น”
ดังนั้น Content (text, image, audio, video) ในรูปแบบที่จะทำให้เขา engage หรือแม้กระทั่ง educate พวกเขาได้ คงไม่ใช่รูปแบบเดิม ๆ อีกต่อไป…
“โลกดิจิทัลในวันนี้ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนวิธีสื่อสาร แต่กำลังเปลี่ยน ‘วิธีที่เรามีตัวตน’ บนโลกนี้ด้วย”
และคนเขียนที่เป็น GenY อย่างผม ต้องเข้าใจคนที่จะมาช่วย drive อนาคตของสังคมต่อไป
#วันละเรื่องสองเรื่อง
โฆษณา