เมื่อวาน เวลา 06:12 • ธุรกิจ

ดูงบ Meta ไตรมาสล่าสุด อะไรทำให้หุ้นขึ้น 5%

วันนี้ราคาหุ้น Meta เจ้าของ Facebook, Instagram, WhatsApp ได้ปรับตัวขึ้น 5% ในช่วงซื้อขายหลังตลาดปิด (After-hours)
เนื่องจากผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2025 ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทั้งรายได้และกำไร
- รายได้ 1,412,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
- กำไร 555,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35%
- อัตรากำไรสุทธิ 39%
สัดส่วนรายได้กว่า 97.8% ของ Meta มาจากค่าโฆษณา
โดยรายได้โฆษณาไตรมาสแรก ทำได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ซึ่งแพลตฟอร์มของ Meta
- มีการแสดงโฆษณา (Ad Impressions) เพิ่มขึ้น 5%
- ราคาเฉลี่ยต่อโฆษณา เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า
ในขณะที่จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในเครือ อย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน (DAU) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,430 ล้านคน (จากเดิมมี 3,350 ล้านคน ในไตรมาสก่อน) และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3,390 ล้านคน
แพลตฟอร์ม Threads ของ Meta มีผู้ใช้งานรายเดือน (MAU) แตะ 350 ล้านคนแล้ว เพิ่มจาก 320 ล้านคน ในเดือน ม.ค.
โดยตอนนี้เปิดให้ผู้ลงโฆษณาทั่วโลก สามารถยิงแอดได้แล้ว แต่ Meta ยังไม่คาดหวังว่า รายได้จาก Threads จะส่งผลต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025
ส่วน Meta AI มีผู้ใช้งานรายเดือนเกือบ 1,000 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 700 ล้านคน ในเดือน ม.ค. และ Meta AI เพิ่งมีการเปิดตัวแอปแยกต่างหากไป
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วางแผนว่า Meta AI อาจเป็นช่องทางสร้างรายได้จากโฆษณา หรืออาจมีเวอร์ชันพรีเมียมในอนาคต แต่ในปีนี้ Meta ยังไม่เน้นเรื่องหารายได้ แต่จะเน้นพัฒนาโปรดักต์ก่อน
ซึ่งไตรมาสนี้ Meta ได้ประกาศซื้อหุ้นคืน 447,200 ล้านบาท ในหุ้นประเภท Class A
และได้จ่ายเงินปันผลไป รวม 44,400 ล้านบาท
สำหรับคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025
Meta บอกว่า น่าจะอยู่ระหว่าง 1,418,200 ล้านบาท ถึง 1,518,400 ล้านบาท สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้
แต่ Meta เตือนว่า เริ่มเห็น “การลดลงของการใช้จ่ายโฆษณา จากผู้ส่งออกอีคอมเมิร์ซในเอเชีย”
เช่น Temu และ Shein จากจีน ที่ลดการใช้จ่ายด้านโฆษณาบน Facebook และ Instagram
เพราะผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
และการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษี de minimis หรือมูลค่าขั้นต่ำในการนำเข้าที่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งศุลกากรของสหรัฐฯ เคยกำหนดมูลค่าสินค้านำเข้าไว้ไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ
การที่สหรัฐฯ ยกเลิกสิทธิ de minimis กับจีนและฮ่องกง ก็ส่งผลต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีน ที่ทำตลาดในสหรัฐฯ โดยตรง ซึ่งสุดท้ายธุรกิจเหล่านี้ ก็อาจลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณากับ Meta ลง
โดยนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า Temu และ Shein ได้ใช้จ่ายไปกับ Meta กว่า 612,300 ล้านบาท ในปี 2024 ที่ผ่านมา
1
นอกจากนี้ Meta ยังเตือนเรื่องตลาดในยุโรป ที่บริษัทกำลังเผชิญอุปสรรคด้านกฎหมายและกฎระเบียบ ที่เข้มงวด จากสหภาพยุโรป (EU)
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ประกาศว่า โมเดลสมัครสมาชิกแบบไม่มีโฆษณา (Subscription for No Ads) ของ Meta ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย Digital Markets Act (DMA)
ส่งผลให้ Meta จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโมเดลดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ในยุโรป แย่ลง และกระทบต่อธุรกิจและรายได้ในภูมิภาคยุโรปอย่างชัดเจน ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2025 เป็นต้นไป
“ธุรกิจของเรายังดำเนินไปได้ดี และผมคิดว่า เราพร้อมที่จะรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ” มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าว
อย่างไรก็ตาม Meta ได้ปรับเพิ่มประมาณการงบลงทุน (CapEx) ตลอดทั้งปีนี้ ขึ้นมาเป็นระหว่าง 2.1 ล้านล้านบาท ถึง 2.4 ล้านล้านบาท
จากเดิมที่เคยตั้งไว้ระหว่าง 2.0 ล้านล้านบาท ถึง 2.2 ล้านล้านบาท
ซึ่ง Meta ระบุว่า เป็นเพราะต้องลงทุนเพิ่มใน Data Center เพื่อรองรับโครงการ AI ประกอบกับต้นทุนฮาร์ดแวร์โครงสร้างพื้นฐาน “ที่สูงขึ้น” จากซัปพลายเออร์หลายประเทศทั่วโลก เพราะยังมีความไม่แน่นอนสูง เรื่องการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ..
โฆษณา