โดยตอนนี้เปิดให้ผู้ลงโฆษณาทั่วโลก สามารถยิงแอดได้แล้ว แต่ Meta ยังไม่คาดหวังว่า รายได้จาก Threads จะส่งผลต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025
ส่วน Meta AI มีผู้ใช้งานรายเดือนเกือบ 1,000 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 700 ล้านคน ในเดือน ม.ค. และ Meta AI เพิ่งมีการเปิดตัวแอปแยกต่างหากไป
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วางแผนว่า Meta AI อาจเป็นช่องทางสร้างรายได้จากโฆษณา หรืออาจมีเวอร์ชันพรีเมียมในอนาคต แต่ในปีนี้ Meta ยังไม่เน้นเรื่องหารายได้ แต่จะเน้นพัฒนาโปรดักต์ก่อน
ซึ่งไตรมาสนี้ Meta ได้ประกาศซื้อหุ้นคืน 447,200 ล้านบาท ในหุ้นประเภท Class A
และได้จ่ายเงินปันผลไป รวม 44,400 ล้านบาท
สำหรับคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025
Meta บอกว่า น่าจะอยู่ระหว่าง 1,418,200 ล้านบาท ถึง 1,518,400 ล้านบาท สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้
แต่ Meta เตือนว่า เริ่มเห็น “การลดลงของการใช้จ่ายโฆษณา จากผู้ส่งออกอีคอมเมิร์ซในเอเชีย”
เช่น Temu และ Shein จากจีน ที่ลดการใช้จ่ายด้านโฆษณาบน Facebook และ Instagram
และการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษี de minimis หรือมูลค่าขั้นต่ำในการนำเข้าที่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งศุลกากรของสหรัฐฯ เคยกำหนดมูลค่าสินค้านำเข้าไว้ไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ
การที่สหรัฐฯ ยกเลิกสิทธิ de minimis กับจีนและฮ่องกง ก็ส่งผลต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีน ที่ทำตลาดในสหรัฐฯ โดยตรง ซึ่งสุดท้ายธุรกิจเหล่านี้ ก็อาจลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณากับ Meta ลง
โดยนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า Temu และ Shein ได้ใช้จ่ายไปกับ Meta กว่า 612,300 ล้านบาท ในปี 2024 ที่ผ่านมา
1
นอกจากนี้ Meta ยังเตือนเรื่องตลาดในยุโรป ที่บริษัทกำลังเผชิญอุปสรรคด้านกฎหมายและกฎระเบียบ ที่เข้มงวด จากสหภาพยุโรป (EU)
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ประกาศว่า โมเดลสมัครสมาชิกแบบไม่มีโฆษณา (Subscription for No Ads) ของ Meta ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย Digital Markets Act (DMA)
ซึ่ง Meta ระบุว่า เป็นเพราะต้องลงทุนเพิ่มใน Data Center เพื่อรองรับโครงการ AI ประกอบกับต้นทุนฮาร์ดแวร์โครงสร้างพื้นฐาน “ที่สูงขึ้น” จากซัปพลายเออร์หลายประเทศทั่วโลก เพราะยังมีความไม่แน่นอนสูง เรื่องการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ..