1 พ.ค. เวลา 10:26 • ปรัชญา

watthakhanun

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อวานนี้เป็นอะไรที่ชีวิตวุ่นวายเป็นพิเศษ ขนาดเวลา ๑๘.๑๐ น. ของประเทศอินเดียเขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว แม้ว่าเวลาออกคือ ๑๘.๐๐ น. พวกเราก็ยังพอให้อภัย เนื่องเพราะถือว่าล่าช้าเพียงเล็กน้อย
แต่พอขึ้นไปบนเครื่องแล้วกลับไม่ขยับขยายไปไหนเลย จนถึงเวลาทุ่มกว่าซึ่งควรจะเป็นเวลาที่ไปถึงเมืองอมฤตสาร์แล้ว เริ่มมีผู้โดยสารโวยวายประท้วง และตะโกนด่า..! ทำให้กัปตันน่าจะทนความวุ่นวายไม่ไหว จึงออกเครื่องเพื่อบินไปยังอมฤตสาร์ ทันทีที่เครื่องเริ่มวิ่งบนรันเวย์ คนด่าก็ตบมือกันเกรียว รู้สึกว่าพลิกอารมณ์ได้เร็วจนกระผม/อาตมภาพตามไม่ทัน เพิ่งจะตะโกนด่าอยู่ดี ๆ เปลี่ยนไปตบมือชมเชยกันเสียแล้ว..!
พวกเรามาถึงเมืองอมฤตสาร์เวลา ๒ ทุ่มเศษ กว่าที่จะรับกระเป๋าได้ครบถ้วน มาขึ้นรถที่รออยู่ก็เป็นเวลา ๓ ทุ่มเศษแล้ว ซึ่งผู้ที่รออยู่ก็น่าจะรอจนเบื่อหน่ายเหมือนกัน เป็นรถบัสคันใหญ่ ดูจากเปลือกนอกแล้วก็สวยงามตาทีเดียว แต่พอขึ้นไปทุกคนก็ผงะ เพราะว่าอากาศภายในรถร้อนพอ ๆ กับเตาอบไมโครเวฟ..! ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศกันอยู่พักใหญ่ กว่าที่พอจะทนกันได้ แล้ววิ่งสั่นงั่ก ๆ เหมือนชายชราอายุ ๘๐ ปี ไปยังโรงแรมที่พัก..!
คุณเอ (นายฉัตตริน เพียรธรรม) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ทั้งที่ป่วยมาจากประเทศศรีลังกา เพราะว่านำลูกทัวร์ไปกราบสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว แล้วเจอกับอากาศเปลี่ยนแปลงหนัก ซ้ำยังโดนฝนอีกด้วย เป็นหวัดเสียจนไม่มีเสียงแล้ว ก็ยังพยายามที่จะอธิบายให้พวกเราได้ทราบว่า เมืองอมฤตสาร์นี้ ชื่อจริง ๆ ถ้าเป็นภาษา
ไทยก็คืออมฤตสาคร ก็คือน้ำอมฤตนั่นเอง
เนื่องจากว่าคนอินเดียออกเสียงสั้นไปหน่อย พวกเราฟังไม่ทัน แม้กระทั่งฝรั่งก็เขียนเป็นอมฤตสาร์ เนื่องเพราะว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของสุวรรณวิหาร ซึ่งเป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะมากที่สุดของพี่น้องชาวซิกข์อยู่ด้วย
เมืองอมฤตสาร์นี้ตั้งอยู่ในรัฐปัญจาบ คำว่า ปัญจาบ ในที่นี้ก็คือปัญจะอาโป ก็คือน้ำ ๕ แห่ง หมายถึงแม่น้ำ ๕ สายที่ไหลจากเทือกเขาหิมาลัย ผ่านรัฐนี้ลงไปหล่อเลี้ยงประเทศอินเดีย เมื่อพูดตามภาษาของเขากลายเป็นรัฐปัญจาบ ซึ่งความจริงต้องเป็นปัญจะอาโป ทำให้เข้าใจเลยว่า เรื่องของภาษานั้น ถ้าไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ เราจะไม่มีวันออกเสียงได้ถูกต้อง เนื่องเพราะว่าเวลาเขาออกเสียงควบ เราก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว
พวกเรามาถึงโรงแรมที่พักก็คือ Fairfield by MARRIOTT เมืองอมฤตสาร์ กว่าที่จะได้รับกุญแจห้องก็ทำท่าไร้แรงบินไปตาม ๆ กัน เพราะว่าถ้าเป็นบ้านเราก็ตก ๕ ทุ่มกว่าไปแล้ว กระผม/อาตมภาพเข้าถึงห้องพักได้ จัดการล้างหน้าเช็ดตัว แล้วมุดเข้าใต้ผ้าห่ม กำลังเคลิ้ม ๆ ใกล้หลับ มีเสียงทุบประตูเรียก ปรากฏว่าทางเอ็นซีทัวร์
บริการดีจนเกินไป สั่งเขาเอาน้ำปานะมาถวายพระถึงห้องด้วย..!
เมื่อเข้าไปแจ้งในกลุ่มว่า สำหรับหลวงพ่อแล้วไม่ต้องส่งอะไรมาเลย ก็เห็นการนัดว่าพรุ่งนี้ปลุก ๖ โมงเช้า / ๗ โมงเช้าวางกระเป๋าหน้าห้อง แล้วลงไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารชั้น ๒ / เวลา ๘ โมงเดินทางได้ ใครที่จะเข้าชมสุวรรณวิหาร ถ้าไม่ต้องการใช้ผ้าโพกหัวของเขา ก็ให้ติดผ้าของตนเองไปด้วย เพราะเป็นข้อบังคับของ
ชาวซิกข์เขาว่า การเข้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องคลุมผมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
กระผม/อาตมภาพนอนภาวนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแก่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ซึ่งประสูติในวันที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๘ ไม่น่าเชื่อว่าจากพระราชกุมารองค์น้อย ปัจจุบันนี้ทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว..!
เมื่อภาวนาจนครบถ้วน อุทิศส่วนกุศลถวายให้แก่พระองค์ท่านแล้ว ก็ต่อว่าเจ้าแม่นภิสราเทวี ว่าทำไมไม่บอกให้ชัด ๆ ถึงเรื่องเละเทะในวันนี้ที่พวกเราจะรับ นอกจากบอกว่างานเที่ยวนี้มีปัญหาเล็กน้อย ? แม่เจ้าประคุณตอบว่า "พยายามที่จะฝืนกฎแห่งกรรมจนสุดตัวแล้ว สามารถบอกใบ้ได้แค่นั้นเอง แต่พวกเราทุกคนก็ทำกำลังใจได้ดี
มาก" พร้อมกับปลอบใจด้วยพระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษอีก ๑ ประโยค บอกว่า "ท่านย่าฝากมาให้" กระผม/อาตมภาพก็เลยเลิกต่อว่า ภาวนาจนกระทั่งหลับไป
Morning Call ของโรงแรมเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก เนื่องเพราะว่ากลัวเราจะไม่ตื่นหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ? มีการโทรศัพท์ ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง แถมยังให้คนมาเคาะประตูอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็เลยหิ้วกระเป๋าลงไปยังห้องอาหารชั้น ๒ ไป
นั่งกดดันให้เขาเร่งทำให้เร็ว ๆ เมื่อเห็นว่ามีสิ่งที่ตนเองพอจะฉันได้แล้ว ก็ตักมานั่งฉันเลย ส่วนที่ชอบใจที่สุดก็คืออาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นข้าวโพดผัดกับเม็ดถั่วลันเตา ทำออกมารสชาติอร่อยใช้ได้ทีเดียว จนกระทั่งอิ่มแล้ว พวกเราถึงได้ทยอยกันลงมา สรุปว่าวันนี้ ถ้าใครตรงเวลาก็กลายเป็นคนมาช้าไปโดยปริยาย..!
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘
โฆษณา