2 พ.ค. เวลา 07:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
efinanceThai

Meta เผย ร้านค้าออนไลน์จีนลดงบโฆษณาดิจิทัล หลังนโยบายการค้าทรัมป์กดดันหนัก

บรรดาร้านค้าออนไลน์จีน ปรับลดงบโฆษณาบน Facebook และ Instagram ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ในเครือบริษัท Meta หลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการการค้าเข้มงวด โดยซูซาน ลี หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Meta เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกอีคอมเมิร์ซที่มีฐานในเอเชีย ลดการใช้จ่ายโฆษณากับบริษัทลง ซึ่งคาดว่าเป็นการเตรียมรับมือการปิดช่องโหว่การค้าจากข้อยกเว้น “de minimis” ที่จะมีผลในวันนี้
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อยกเลิกการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ค้ารายใหญ่อย่าง Temu และ Shein โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า Temu และ Shein เป็นผู้ลงโฆษณาหลักที่ทำให้ Meta มีรายได้จากจีนในปี 2024 รวม 18,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ Meta ระบุว่ายอดขายโฆษณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 8,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 8,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซูซาน ลีเผยว่า รายได้ของ Meta ในไตรมาส 2 น่าจะอยู่ระหว่าง 42,500 – 45,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 44,030 ล้านดอลลาร์ “มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้แน่ชัดว่าจะเป็นอย่างไรตลอดไตรมาส และยิ่งไม่แน่นอนสำหรับทั้งปี”
คำแถลงนี้ สะท้อนสิ่งที่ Google กล่าวในการประชุมผลประกอบการเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเตือนว่าอาจมีแรงต้านต่อธุรกิจโฆษณา โดยเฉพาะจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในทำนองเดียวกัน Snap ก็เผชิญแรงต้านมาตั้งแต่ต้นไตรมาสนี้
ภาษีนำเข้าจากจีนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์บังคับใช้ อยู่ในอัตรา 145% ยังส่งผลกระทบต่อแผนก Reality Labs ของ Meta ซึ่งรับผิดชอบด้านอุปกรณ์ VR และ AR โดย Reality Labs ขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีรายได้ 412 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก
Meta คาดว่าในปี 2025 รายจ่ายฝ่ายทุน (capital expenditures) จะอยู่ที่ 64,000–72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 60,000–65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Meta ระบุในแถลงการณ์ว่า “แนวโน้มใหม่นี้สะท้อนถึงการลงทุนในศูนย์ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนโครงการด้านปัญญาประดิษฐ์ของเรา และต้นทุนฮาร์ดแวร์โครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ ซูซาน ลีกล่าวเสริมว่า ต้นทุนฮาร์ดแวร์ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจาก “ผู้จัดหาที่นำเข้าสินค้าจากหลายประเทศทั่วโลก” และต้นทุนสินค้า Reality Labs ที่คาดว่าจะสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนรวมในปี 2025 แม้จะมีการปรับลดบางส่วน ก็ยังคงถูกชดเชยด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นจากปัจจัยเหล่านี้ “ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากการเจรจาการค้าที่กำลังดำเนินอยู่” พร้อมเผยว่า Meta กำลังปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
โฆษณา