เพราะคิดแบบผู้หญิง บัฟเฟตต์ถึงชนะเกมการลงทุน
แนวคิดการลงทุนที่จะช่วยให้คุณเติบโต แม้ในโลกที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
เพราะ ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ 2.0 มีเพียงสิ่งเดียวที่คาดเดาได้ นั่นคือ “ความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของเขา” 😅
นับตั้งแต่วันแรกที่เรารู้ผลประธานาธิบดี ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีหลังโควิด หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศ นักวิเคราะห์หลายคนออกมาเตือนว่า ความผันผวนแบบนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไป นำไปสู่คำเตือนที่หลายๆ คนบอกต่อกัน
“เตรียมเงินสดไว้ให้ดี ปีนี้เผาจริง”
โรเบิร์ต ฮาเวิร์ธ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสของ U.S. Bank กล่าวกับ CNBC ว่า “สถานการณ์ตอนนี้เหมือนเดินทางไปในที่มืด เพราะเราไม่รู้ว่ามาตรการภาษีจะจบลงที่ตรงไหน ตลาดกำลังพยายามหาทิศทาง แต่ก็ยังไม่เจอคำตอบชัดเจน”
ในช่วงตลาดผันผวนแบบนี้ เคยเกิดขึ้นแล้ว และหลายคนอาจไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนที่รวยที่สุดคนหนึ่งของโลกคนหนึ่ง ถึงยึดหลักง่ายๆ ข้อหนึ่งไว้เสมอ และตอนนี้หลักของเขาก็ยังคงตอบโจทย์ตลาดการลงทุนในยุคนี้
เขาเคยเขียนในบทความของ New York Times ปี 2008 (ปีที่มีวิกฤตซัปพลาย) ว่า
“กฎง่าย ๆ สำหรับการซื้อของผมคือ จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”
(ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก และเขายังซื้อหุ้นสหรัฐฯ ต่อเนื่องแม้ตลาดจะตกหนัก)
เขากำลังบอกไว้ว่า ให้ใช้ความกลัวของตลาด เป็นโอกาสสร้างความมั่งคั่ง
[ 📊 วิกฤตการณ์เงินล้วนมีที่มาจาก “สภาวะทางอารมณ์ที่ผิด” ]
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยพูดถึงความสำคัญของสภาวะทางอารมณ์ไว้ว่า
"คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของของนักลงทุนคือสภาวะทางทางอารมณ์ ไม่ใช่ความฉลาด คุณจะต้องมีภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคง ไม่ลิงโลดเมื่อเกาะกลุ่มไปกับฝูงชนหรือสวนทางกับฝูงชน”
เพราะ ถ้าเราคิดพิจารณาถึงสาเหตุต่างๆ อันเป็นที่มาของวิกฤตการณ์การเงินที่ผ่านมา เราจะพบว่าต้นเหตุก็คือ “สภาวะทางอารมณ์ ประเภทที่ไม่ถูกต้องของนักลงทุน” เช่น
- การคิดสั้น มองแค่ผลกำไรในระยะเวลาอันสั้น
- ความโลภจนเสี่ยงเกินพอดี
- ก่อหนี้เกินตัวโดยไร้การวางแผน
- ความเชื่อผิด ๆ ว่า “การทำเงินด้วยความโลภ” จะไม่มีวันหยุดได้ในเร็ววัน
- การมองข้ามผลกระทบระยะยาวจากการตัดสินใจที่หุนหัน
- การหากำไรจากความไม่รู้ของผู้อื่น
เมื่อคนหมู่มากขาดสติ อารมณ์จะกลายเป็นตัวนำพา ทั้งความโลภและความกลัว และผลักดันตลาดให้วิ่งขึ้นไปอย่างไร้เหตุผล และพังครืนลงมาอย่างรวดเร็ว
นักลงทุนที่ขาดวินัยทางอารมณ์ มักขายหุ้นตอนราคาตกต่ำที่สุด พาตัวเองขาดทุนย่อยยับในขณะที่ตลาดยิ่งดิ่งลงอย่างน่าใจหาย
ตรงกันข้าม คนที่มีสติ รู้จักควบคุมอารมณ์ จะมองเห็นโอกาส ช้อนหุ้นดีราคาถูก และวางแผนลงทุนระยะยาวอย่างสุขุม
[ ที่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ แตกต่างเพราะเขาคิดแบบผู้หญิง ]
🧠 มีการศึกษาจากศาสตร์ประสาทเศรษฐศาสตร์ (Neuroeconomics) ที่ค้นพบว่า “ผู้หญิงมีแนวทางการลงทุนแตกต่างจากผู้ชายอย่างชัดเจน” นักลงทุนหญิงมีแนวโน้มจะมองระยะยาวมากกว่า ซื้อขายน้อยครั้ง และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยไม่หลงตามกระแสฝูงชน ซึ่งนี่เป็นพฤติกรรมการลงทุนที่เหมาะสมอย่างยิ่งในโลกการเงินที่เต็มไปด้วยความผันผวน
น่าสนใจตรงที่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) ซึ่งมีระดับต่ำกว่าผู้ชายในตัวผู้หญิงนั้น ถูกพบว่ามีส่วนช่วยลดแรงกระตุ้นให้ทำการตัดสินใจเสี่ยงแบบไร้เหตุผล นั่นทำให้ผู้หญิงมีแนวโน้ม “คิดเอง” มากกว่า และไม่ไหลตามแรงกดดันของเพื่อนฝูงง่าย ๆ
ซึ่งถ้าเรามองย้อนกลับไปดูนักลงทุนระดับตำนานอย่าง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” จะเห็นได้ว่า แนวทางที่เขาใช้มาตลอดหลายสิบปี คล้ายกับวิธีคิดของผู้หญิงและนั่นอาจทำให้เขาประสบความสำเร็จหลังวิกฤตการณ์การเงินเสมอๆ
บัฟเฟตต์เอง เขามองว่าการลงทุนเป็นเกมระยะยาว และถ้าเป้าหมายทางการเงินของคุณยังอยู่อีกหลายสิบปีข้างหน้า วิธีตามบัฟเฟตต์ก็ง่ายมาก
“เมื่อความกลัวทำให้ราคาหุ้นตก ให้ลงทุนในพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงในราคาถูกลงเรื่อยๆ”
ในอดีต กลยุทธ์ของบัฟเฟตต์ได้ผล เพราะในระยะยาว ธุรกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเสมอ เขาเคยชี้ให้เห็นว่าแรงกดดันที่ทำให้ตลาดตก มักเป็นเรื่องชั่วคราว
“ความกลัวเกี่ยวกับความมั่งคั่งระยะยาวของบริษัทชั้นดีในอเมริกานั้นไม่มีเหตุผล”
เขาเขียนไว้ พร้อมเสริมว่า แม้กำไรของบริษัทจะสะดุดเป็นครั้งคราว แต่ในอีก 5, 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า บริษัทใหญ่ ๆ จะทำกำไรสูงเป็นประวัติการณ์แน่นอน
ตัวอย่างเช่น ตอนตลาดหมีปี 2007–2009 ดัชนี S&P 500 เคยร่วงลงมากกว่า 50% นักลงทุนหลายคนแตกตื่นและเทขายหุ้น แต่บัฟเฟตต์กลับ “โลภ” ด้วยการเปลี่ยนพอร์ตที่มีพันธบัตรเยอะ ๆ ไปลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ แทน
และสุดท้าย บริษัทสหรัฐฯ ก็กลับมากำไรอีกครั้ง และตลาดหุ้นก็ทำสถิติใหม่
ตอนนี้ นักลงทุนยังไม่ได้แตกตื่นมากนัก
แต่ถ้าอนาคตแย่ลงอีก คนที่ยึดแนวทางของบัฟเฟตต์ก็ยังคงซื้อหุ้นสหรัฐฯ ต่อไปเรื่อย ๆ แม้ว่าพาดหัวข่าวจะเริ่มน่ากลัว เพราะตลาดหุ้นเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมากมายมาแล้ว และในที่สุดก็มักจะกลับมาแข็งแกร่ง
บัฟเฟตต์เขียนไว้ในปี 2008 ว่า 📝
“ในระยะยาว ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นจะเป็นข่าวดี”
“ศตวรรษที่ 20 สหรัฐฯ เจอสงครามโลกสองครั้ง ความขัดแย้งทางการทหารครั้งใหญ่หลายครั้ง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ วิกฤตเศรษฐกิจและการเงินนับสิบครั้ง วิกฤตราคาน้ำมัน การระบาดของไข้หวัด และการลาออกของประธานาธิบดีที่น่าอับอาย แต่ดัชนีดาวโจนส์ก็ยังขึ้นจาก 66 จุด เป็น 11,497 จุดได้”
สรุป: สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นชายหรือหญิง หากคุณเรียนรู้ที่จะ “ลงทุนแบบผู้หญิง” คือ คิดระยะยาว ใจเย็น ไม่หลงไปกับความกลัวหรือความโลภ คุณก็จะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง 💞
อ้างอิง:
คิดแบบผู้หญิง รวยแบบฟัตเฟ็ตต์
เขียนโดย Louann Lofton แปลโดย นรา สุภัคโรจน์ สำนักพิมพ์แสงดาว
#aomMONEY #WarrenBuffetts #การลงทุน #การเงินส่วนบุคคล
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
