Gen Z ทั่วโลกกำลังฮิต “เที่ยวไป ผ่อนไป” ปลดล็อกทริปในฝัน แบบไม่ต้องเสียเงินก้อน
หากคิดถึงการท่องเที่ยวสักทริป หลายคนคงคุ้นเคยกับการเก็บเงินก้อน หยอดกระปุก เพื่อสานฝันทริปในใจ
แต่รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันมีอีกหนึ่งรูปแบบการวางแผนการเงินเพื่อการท่องเที่ยวกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่
โดยเฉพาะ Gen Z ที่กำลังฮิตการนำบริการ Buy Now Pay Later มาปรับใช้กับการท่องเที่ยว
ทำให้พวกเขา สามารถแบ่งจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก หรือแม้แต่ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องควักเงินก้อนโต
Buy Now Pay Later คืออะไร ?
ทำไม Gen Z ถึงนิยมบริการนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
“Buy Now Pay Later” หรือ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” คือรูปแบบการให้สินเชื่อระยะสั้น ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้ทันที
แล้วค่อยชำระเงินคืนเป็นงวด ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยส่วนใหญ่จะไม่มีดอกเบี้ย หากชำระคืนตรงเวลา
ซึ่งรูปแบบการชำระเงินแบบนี้ เดิมทีได้รับความนิยมอย่างมากในการผ่อนซื้อสินค้าอย่างโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก แต่ปัจจุบันได้ขยายมาสู่การผ่อนชำระค่าอาหาร กิจกรรมบันเทิง และการท่องเที่ยว
โดยเวลาที่เราจะจองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรมผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ (เช่น Carnival หรือ Expedia) เราอาจจะเห็นตัวเลือกให้เรา “Buy Now” ได้ทันที
หมายความว่าเราจองทริปได้เลย โดยที่ยังไม่ต้องจ่ายเงินทั้งหมดในครั้งเดียว การเที่ยวแบบนี้ จึงเหมาะกับทริปที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือต้องตัดสินใจแบบเร่งด่วน
แถมบางครั้ง บริการนี้ยังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษจากสายการบินและที่พักมากมาย
ที่สำคัญคือ อนุมัติง่าย เพราะส่วนใหญ่ไม่ต้องเช็กเครดิต ทำให้ Gen Z นิยมใช้เป็นตัวช่วยเนรมิตทริปในฝันแบบทันใจ
โดยแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง Fliggy มีการรายงานว่าในปี 2024 ผู้ที่เลือกใช้บริการ Buy Now Pay Later กว่า 25% ในการจองการเดินทางนั้นคือ Gen Z
และที่น่าจับตามองคือ กลุ่มที่เกิดในปี 2000 เป็นต้นไป มีอัตราการเติบโตของการใช้งานบริการนี้ที่รวดเร็วอย่างมาก จนใกล้จะแตะ 20% แล้ว
ไม่เพียงแต่ในเอเชียเท่านั้น ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีแนวโน้มที่สอดคล้องกัน
รายงานจาก NerdWallet คาดการณ์ว่า เกือบ 20% ของนักเดินทางชาวอเมริกันในปี 2025 วางแผนที่จะใช้รูปแบบ Buy Now Pay Later สำหรับการพักผ่อนช่วงซัมเมอร์นี้
และบริษัท Bread Financial ยังระบุอีกว่า ทั้ง Gen Z และ Millennials มีแนวโน้มที่จะใช้บริการนี้ ในการเดินทางไปเข้าร่วมงานดนตรีต่าง ๆ อย่างเช่น Coachella ที่ค่าตั๋วราคาหลักหมื่น มากกว่ากลุ่มวัยอื่น ๆ
แล้วอะไรคือแรงจูงใจให้ Gen Z ทั่วโลก หันมาใช้บริการ “Buy Now Pay Later” ในการท่องเที่ยว ?
1. ความสะดวกสบาย
ปัจจุบันมีค่านิยมให้เที่ยวก่อนอายุเยอะ ทำให้คนรุ่นใหม่อยากไปเที่ยวหลาย ๆ ที่ ในช่วงที่ยังมีแรง แต่ด้วยวัยนี้เป็นวัยแห่งการสร้างตัว จึงไม่สามารถทำได้ง่าย
ซึ่งบริการ Buy Now Pay Later มักจะอนุมัติรวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ในทันที ทำให้ Gen Z สามารถคว้าดีลท่องเที่ยวดี ๆ หรือจองทริปแบบฉุกเฉินได้โดยไม่ต้องรอเก็บเงินนาน
2. การแบ่งจ่ายที่ยืดหยุ่น
แน่นอนว่าการเสียเงินก้อนในการใช้จ่าย ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะตัดสินใจได้ง่ายทันที
การแบ่งค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ออกเป็นงวดเล็ก ๆ รายเดือน ทำให้สามารถจัดการงบประมาณได้ง่ายขึ้น และบางที ยังสามารถทำให้เราเข้าถึงทริปที่เกินกำลังทรัพย์ของเราในขณะนั้นได้
เหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ก็ทำให้ Gen Z สามารถตัดสินใจไปทริปต่าง ๆ เพื่อหาประสบการณ์ในชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยเติมเต็มรายได้มหาศาลให้กับบริษัทที่ให้บริการชำระเงินแบบนี้ด้วย
ยกตัวอย่าง บริษัท Klarna เป็นบริษัทที่ให้บริการ Buy Now Pay Later ได้รายงานว่ามีคนใช้ Klarna ในการจองทริปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 50% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนอีกบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจคล้ายกันอย่าง Affirm ก็มียอดการจองท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 จนรายได้ในหมวดท่องเที่ยว ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว
ถึงแม้รูปแบบการท่องเที่ยวนี้ จะดูเหมือนเป็นทางออกสำหรับวัยรุ่นที่อยากเที่ยวแบบไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตได้อย่างสวยงาม แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายก็ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจตามมา
อย่างเช่น การผิดนัดชำระหนี้ การมีหนี้ที่ต้องผ่อนจ่ายหลายรายการพร้อมกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบไปถึงการเงินในภายภาคหน้า
ดังนั้น ก่อนจะไปเที่ยวทริปไหน ๆ ก็ยังควรที่จะวางแผนค่าใช้จ่ายแต่ละทริปอย่างรอบคอบ
เพื่อให้การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และจะได้ไม่กลายเป็นทริปที่ทิ้งหนี้ไว้เบื้องหลัง..
References :
-https://www.cnbc.com/2025/04/23/using-bnpl-for-travel-more-are-using-it-especially-gen-z-travelers.html
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
