เมื่อวาน เวลา 17:15 • ข่าว

เชียงรายเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย หลังพบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน

เชียงราย, 2 พฤษภาคม 2568 – สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์รายงานว่า จังหวัดเชียงรายได้ยกระดับการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายอย่างเข้มข้น หลังพบสารหนู (Arsenic) ปนเปื้อนในระดับที่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศในพื้นที่ การดำเนินการครั้งนี้เป็นผลจากการประชุมคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและตรวจสอบคุณภาพน้ำเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน
การตรวจสอบคุณภาพน้ำครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินและตะกอนดินจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เพื่อวิเคราะห์ระดับโลหะหนัก โดยเฉพาะสารหนู ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น อาการผื่นคัน ระคายเคืองผิวหนัง และความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหากมีการสะสมในร่างกาย
การดำเนินการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วน รวมถึงสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ปกครองอำเภอแม่สาย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ความท้าทายด้านคุณภาพน้ำในเชียงราย
จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของชุมชน ทั้งในด้านการเกษตร การประมง และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณภาพน้ำในแม่น้ำเหล่านี้เริ่มเผชิญกับความท้าทายจากมลพิษข้ามพรมแดน โดยเฉพาะจากกิจกรรมเหมืองทองในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย
ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2568 ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแม่สายและอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มรายงานถึงความผิดปกติของน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เช่น น้ำขุ่นผิดปกติและมีอาการระคายเคืองผิวหนังหลังสัมผัสน้ำ รายงานเหล่านี้จุดประกายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบว่ามีสารหนูในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ที่ 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามมาตรฐานของประเทศไทย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) พบว่าระดับสารหนูในแม่น้ำกกบริเวณอำเภอแม่อายสูงถึง 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเกินมาตรฐานถึง 2.6 เท่า ขณะที่การตรวจสอบในแม่น้ำสายเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พบสารหนูในบางจุดสูงถึง 19 เท่าของค่ามาตรฐาน สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะชุมชนที่พึ่งพาแม่น้ำในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ
ปัญหามลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการประมง ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำกก เช่น นายธวัช อายุ 56 ปี เจ้าของเรือหางยาวบริเวณท่าเรือเชียงราย รายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมากตั้งแต่มีการรายงานข่าวการปนเปื้อนสารหนู ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก
การดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างเข้มข้น
เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดเชียงรายได้จัดการประชุมคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและตรวจสอบคุณภาพน้ำเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนดแนวทางการตรวจสอบและแก้ไขปัญหามลพิษอย่างเป็นระบบ ที่ประชุมมีมติให้เพิ่มจุดตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกจากเดิม 3 จุดเป็น 9 จุด และเพิ่มการตรวจในลำน้ำสาขาอีก 5 จุด รวมทั้งสิ้น 14 จุด พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินและตะกอนดินเพื่อวิเคราะห์โลหะหนักอย่างละเอียด
นอกจากนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ปกครองอำเภอแม่สาย และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สาขาวิชาสารสนเทศภูมิศาสตร์ ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำผิวดินจากแม่น้ำ
สายจำนวน 3 จุด ได้แก่:
• จุดที่ 1 (Sa01): บ้านป่าซางงาม หมู่ 6 ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย
• จุดที่ 2 (Sa02): สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย
• จุดที่ 3 (Sa03): บ้านหัวฝาย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย
ตัวอย่างน้ำที่เก็บได้จะถูกส่งไปยังศูนย์ปฏิบัติการวิเคราะห์มลพิษและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ เพื่อตรวจวิเคราะห์ระดับโลหะหนัก โดยคาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์หน้า ผลการวิเคราะห์จะเป็นข้อมูลสำคัญในการแจ้งเตือนประชาชนและกำหนดมาตรการป้องกันต่อไป
ด้านสำนักงานประมงจังหวัดเชียงรายได้วางแผนเก็บตัวอย่างปลาจากแม่น้ำกกใน 3 ช่วง คือ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จุดละ 2 ตัวอย่าง
เพื่อตรวจหาการสะสมของสารปนเปื้อนในสัตว์น้ำ ขณะที่สำนักงานเกษตรจังหวัดได้เก็บตัวอย่างพืช 5 ชนิด และดินจากพื้นที่เกษตร 8 แห่งที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกก เพื่อตรวจหาการปนเปื้อนเช่นกัน ผลการตรวจทั้งหมดจะถูกรวบรวมและวิเคราะห์โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อจัดทำรายงานกลางสำหรับเผยแพร่สู่สาธารณะ
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เน้นย้ำว่า “ผลการตรวจคุณภาพน้ำจะต้องยึดตามผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือมากกว่าการใช้ชุดตรวจแบบเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในข้อมูลที่ได้รับ” นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเสนอให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายเพิ่มเติม เพื่อยืนยันระดับการปนเปื้อนและสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนในพื้นที่
มาตรการป้องกันและแนวทางแก้ไข
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าสาเหตุหลักของการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายน่าจะมาจากกิจกรรมเหมืองทองในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งมีการปล่อยน้ำเสียที่ปนเปื้อนสารหนูจากการสกัดแร่ลงสู่แม่น้ำ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จังหวัดเชียงรายได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงานกับหน่วยงานในระดับชาติและนานาชาติ
โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานคณะทำงานด้านคุณภาพน้ำข้ามพรมแดน คณะทำงานนี้จะมีตัวแทนจากกองทัพที่ 37 หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลและกำหนดแนวทางแก้ไข
ในระยะสั้น จังหวัดเชียงรายได้ออกคำเตือนให้ประชาชนงดใช้และสัมผัสน้ำจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสายโดยตรง รวมถึงหลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์น้ำจากแหล่งน้ำเหล่านี้จนกว่าผลการตรวจจะยืนยันความปลอดภัย หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้จัดตั้งจุดรับแจ้งอาการผิดปกติจากประชาชนที่อาจสัมผัสน้ำในแม่น้ำ เช่น ผื่นคันหรืออาการทางเดินอาหาร เพื่อให้การรักษาทันท่วงที
ในระยะยาว จังหวัดเชียงรายมีแผนขอรับงบประมาณเพื่อติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนและลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้กระทรวงการต่างประเทศไทยเจรจากับรัฐบาลเมียนมาและกองทัพว้า เพื่อควบคุมการปล่อยน้ำเสียจากเหมืองทองในรัฐฉาน ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหา
ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของเชียงราย ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากข่าวการปนเปื้อนสารหนู ผู้ประกอบการในพื้นที่ เช่น นางสาวกัญญา หวังจงกลาง พ่อค้าที่ชายหาดโยนก ระบุว่า “ตั้งแต่มีข่าวสารหนู นักท่องเที่ยวหายไปเกือบหมด รายได้ลดลงจนแทบไม่พอจ่ายค่าเช่าที่” เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จังหวัดเชียงรายกำลังพิจารณาแนวทางการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว โดยอาจจัดกิจกรรมที่เน้นความปลอดภัยและความยั่งยืน เช่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ไม่พึ่งพาแหล่งน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย
ความท้าทายและโอกาส
การปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นปัญหาที่ซับซ้อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับมลพิษข้ามพรมแดน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือในระดับนานาชาติ การแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ เช่น การควบคุมการปล่อยน้ำเสียจากเหมืองทองในเมียนมา เป็นความท้าทายที่ต้องใช้ทั้งการทูตและความร่วมมือระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การที่จังหวัดเชียงรายสามารถระดมหน่วยงานในพื้นที่และจัดตั้งคณะทำงานอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรับมือกับวิกฤต
มิติด้านสุขภาพ
สารหนูเป็นสารพิษที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การสัมผัสน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อนอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง คลื่นไส้ และท้องเสีย ส่วนการสะสมในร่างกายในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังและมะเร็งอวัยวะภายใน การตรวจสอบและแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงทีจึงเป็นมาตรการสำคัญในการลดความเสี่ยง
มิติด้านสิ่งแวดล้อม
สารหนูและโลหะหนักอื่นๆ ที่ปนเปื้อนในแม่น้ำอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะสัตว์น้ำและพืชที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร การพบสารหนูในตะกอนดินของแม่น้ำกกในระดับที่สูงถึง 20-22 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (เกินมาตรฐานที่ 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อสัตว์หน้าดินและปลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและการประมงในพื้นที่
มิติด้านเศรษฐกิจ
การปนเปื้อนสารหนูส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการประมง ซึ่งเป็นรายได้หลักของชุมชนริมแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย การลดลงของนักท่องเที่ยวและการจำกัดการจับสัตว์น้ำทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความสูญเสียทางรายได้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์และการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวอาจเป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวในระยะยาว
โอกาสในการพัฒนา
วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสให้จังหวัดเชียงรายพัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การลงทุนในเทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพน้ำและการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และนานาชาติจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการรับมือกับมลพิษในอนาคต นอกจากนี้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและกิจกรรมที่ไม่พึ่งพาแหล่งน้ำในแม่น้ำอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการกระจายรายได้ของชุมชน
ทัศนคติเป็นกลางต่อความเห็นทั้งสองฝั่ง
หน่วยงานภาครัฐและนักวิชาการ
หน่วยงานภาครัฐและนักวิชาการ เช่น สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มองว่าการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างเข้มข้นและการประสานงานกับหน่วยงานนานาชาติเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา การใช้ผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานและการแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น
ชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ เช่น ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าตามชายหาดโยนก แสดงความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจและความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ พวกเขาต้องการให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมมลพิษจากเหมืองทองในเมียนมา และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
ทัศนคติเป็นกลาง การตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างเป็นระบบและการแจ้งเตือนประชาชนเป็นมาตรการที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ เช่น การควบคุมมลพิษจากเหมืองทองในเมียนมา ยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องใช้เวลาและความร่วมมือในระดับนานาชาติ การสื่อสารข้อมูลที่ชัดเจนและการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจะช่วยลดความตึงเครียดและสร้างความสมดุลระหว่างการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการรักษาเศรษฐกิจท้องถิ่น
สถิติที่เกี่ยวข้อง
1. ระดับสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย: การตรวจสอบเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 พบสารหนูในแม่น้ำสายบางจุดสูงถึง 19 เท่าของค่ามาตรฐาน (0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร) ขณะที่แม่น้ำกกบริเวณอำเภอแม่อายพบสารหนูที่ระดับ 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร
ที่มา: สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์, รายงานจากการประชุมคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการ, 1 พฤษภาคม 2568
2. ระดับสารหนูในตะกอนดิน: การตรวจสอบตะกอนดินในแม่น้ำกกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม - 1 เมษายน 2568 พบสารหนูในระดับ 20-22 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เกินมาตรฐานที่ 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ที่มา: สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่), รายงานคุณภาพตะกอนดิน, 25 เมษายน 2568
3. ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว: จำนวนนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายลดลง 30% ในช่วงเดือนเมษายน 2568 หลังมีการรายงานข่าวการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย
ที่มา: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย, รายงานประจำเดือนเมษายน 2568
4. การพึ่งพาแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย: ชุมชนริมแม่น้ำกกและแม่น้ำสายกว่า 50,000 ครัวเรือนพึ่งพาแหล่งน้ำเหล่านี้ในการเกษตร การประมง และการผลิตน้ำประปา
ที่มา: องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, รายงานการใช้น้ำดิบ, 2568
5. ความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสารหนู: การสัมผัสสารหนูในระดับที่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตรเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังและมะเร็งอวัยวะภายในได้ถึง 10%
ที่มา: องค์การอนามัยโลก (WHO), รายงานความเสี่ยงจากสารหนู, 2567
โฆษณา