Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
CREATIVE TALK
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
3 พ.ค. เวลา 12:05 • ธุรกิจ
Business Strategy คือทักษะอันดับ 1 ที่หาคนทำงานมาแทนยากที่สุดในปี 2025
สรุปเทรนด์ และ 10 ทักษะสำคัญที่องค์กรมักสูญเสีย จาก Workplace Learning Report 2025
สรุปข้อมูล Workplace Learning Report 2025 คือการรวบรวมแหล่งข้อมูลจาก 3 ส่วนด้วยกัน คือ การสัมภาษณ์ผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลระดับโลกม แบบสำรวจ Workplace Learning ประจำปี และข้อมูลจากแพลตฟอร์ม LinkedIn ซึ่งรวบรวมจาก 1 พันล้านสมาชิก, 14 ล้านตำแหน่งงาน, และ 5 ล้านการอัปเดตโปรไฟล์ต่อนาที
🎯 โดยรายงานฉบับล่าสุดของ Workplace Learning Report 2025 ชี้ให้เห็นว่า ‘การเรียนรู้สำคัญ...แต่นั่นยังไม่พอ’
เพราะการเรียนรู้ควรจับคู่กับการพัฒนาอาชีพ เช่น การฝึกอบรมผู้นำ, การโค้ช, การโยกย้ายภายในองค์กร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วย ส่งต่อทักษะสำคัญได้เร็วขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจ
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ ความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ขึ้นอยู่กับ "คน" และ "ทักษะ" ที่พวกเขามี โดยปัจจุบัน เกือบครึ่งหนึ่งของผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร (L&D) มองว่าเรากำลังเผชิญกับ วิกฤตด้านทักษะ โดย 49% เห็นด้วยว่า “ผู้บริหารกังวลว่าพนักงานไม่มีทักษะที่เหมาะสมต่อการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของธุรกิจ”
🎯 อะไรคืออุปสรรคที่ทำให้การพัฒนาอาชีพยังไปได้ไม่ไกล ?
โดยจากรายงานระบุว่า ภาพที่ชัดเจนที่สุดคือ ทั้งผู้จัดการ, พนักงาน และทีมทรัพยากรบุคคล ต่างเผชิญกับ “ภาระงานมากเกินไป” จนไม่มีเวลาขยับจากงานประจำ ไปสู่การพัฒนาตัวเอง, ทีม และองค์กร
จากแบบสอบถาม ผู้ตอบถูกขอให้เลือก 3 อุปสรรคใหญ่ของการพัฒนาอาชีพ ผลที่ได้ชี้ให้เห็นว่า "เวลาและทรัพยากร" คือปัญหาหลักที่ชัดเจน:
🔸 50% - บอกว่าผู้จัดการไม่มีการสนับสนุนที่เพียงพอ
🔸 45% - บอกว่าพนักงานไม่ได้รับการสนับสนุน
🔸 33% - บอกว่าทีมทรัพยากรบุคคลก็ไม่มีทรัพยากรเพียงพอเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีเพียง 11% เท่านั้นที่บอกว่า
“ผู้นำองค์กรไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีพ”
แสดงว่าโดยรวมแล้ว ผู้บริหารไม่ได้เป็นอุปสรรคโดยตรง แต่พวกเขาอาจยังไม่แก้ปัญหาเชิงระบบ ที่จำเป็นต่อการสนับสนุนให้ผู้จัดการ, พนักงาน และทีม HR สามารถจัดลำดับความสำคัญเรื่องการพัฒนาอาชีพได้จริง
🎯 ทำไม "การพัฒนาอาชีพ" ถึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการปรับตัวและการเติบโต?
องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีพ มักประสบความสำเร็จในธุรกิจมากกว่าองค์กรที่ไม่ทำ โดย LinkedIn ได้เก็บข้อมูลจากแบบสำรวจ เพื่อตรวจสอบว่าองค์กรต่าง ๆ อยู่ในระดับใดของเส้นทางการพัฒนาอาชีพ โดยองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีพ (Career Development Champions) มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าองค์กรอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด พวกเขามีความมั่นใจมากกว่าในด้านความสามารถในการทำกำไร รวมถึงการดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้ในองค์กร
โดยสรุปองค์กรที่เน้น "การพัฒนาอาชีพ" (Career Development)
เห็นผลลัพธ์ดีกว่า และมีแนวโน้มในเชิงของ
🔸 รักษาพนักงานได้มากขึ้น (Retain Talent)
🔸 ดึงดูดคนเก่งได้ดีขึ้น (Attract Talent)
ที่สำคัญคือ ผู้นำด้านนี้ยัง มีความพร้อมสูงในการปรับตัวสู่ยุค AI (Generative AI)
🔸 โดย 51% ของกลุ่มนี้บอกว่าองค์กรของตน เป็นผู้นำในการนำ AI มาใช้ (อยู่ในขั้น ‘เร่งพัฒนา’ หรือ ‘เป็นผู้นำ’) เมื่อเทียบกับเพียง 36% ขององค์กรที่ยังมีโปรแกรมพัฒนาอาชีพที่ยังไม่ดีพอ
พูดง่าย ๆ คือ องค์กรที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอาชีพ
มีแนวโน้มจะก้าวสู่การใช้ AI ได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นถึง 42%
🎯 ดัชนีพัฒนาอาชีพ (Career Development Index) ส่งผลต่อผลลัพธ์ธุรกิจโดยตรง
ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม LinkedIn แสดงให้เห็นว่าองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีพ มักได้รับผลลัพธ์เชิงบวกมากกว่า
✅ พนักงานมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้มากขึ้น (2.4 เท่า)
→ ซึ่งช่วยให้ทักษะที่จำเป็นต่อธุรกิจหมุนเวียนอยู่ในองค์กรอย่างต่อเนื่อง
✅ อัตราการเลื่อนตำแหน่งโดยรวมสูงขึ้น (2.6 เท่า)
→ แสดงให้เห็นว่าพนักงานมีผลงานที่โดดเด่น และเติบโตในสายงาน
✅ มีอัตราการเลื่อนตำแหน่งไปสู่บทบาทผู้นำสูงขึ้น (3.4 เท่า)
→ หมายถึงองค์กรมีคนพร้อมขึ้นมาเป็นผู้นำที่เข้าใจธุรกิจและมีประสบการณ์ในองค์กร
องค์กรที่มีคะแนน Career Development Index สูง มีอัตราการเรียนรู้ และการเติบโตในอาชีพที่ดีกว่า แนวโน้มแสดงชัดว่า ‘ยิ่งองค์กรพัฒนาอาชีพให้แข็งแรง ผลลัพธ์ทางธุรกิจก็ยิ่งดีขึ้นตามลำดับ’
🎯 “ทักษะ” คือหัวใจของธุรกิจในยุคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
🔸 โดย 91% ของผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ (L&D) เห็นพ้องว่า การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องสำคัญต่อความสำเร็จในอาชีพมากกว่าที่เคย
🔸 88% ขององค์กรกังวลเรื่องการรักษาพนักงาน และเชื่อว่า การให้โอกาสเรียนรู้ เป็นกลยุทธ์สำคัญอันดับ 1
อีกข้อมูลที่น่าสนใจจาก LinkedIn ได้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุว่า ทักษะใดที่องค์กรมีแนวโน้มสูญเสียมากที่สุด และทดแทนได้ยากที่สุด ผลพบว่า ทักษะที่เสี่ยงมากที่สุดคือ “การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business strategy)” ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถในการตั้งเป้าหมาย และปรับตัวตามแรงกดดันทางตลาด นอกจากนี้ ยังมีทักษะสำคัญอื่น ๆ ที่มักสูญหายเมื่อพนักงานลาออก เช่น การวางแผนกลยุทธ์, การบริหารทีมขาย, การวางแผนโปรเจกต์ เป็นต้น
ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่ต้องอาศัย การคิดเชิงวิพากษ์, ความสามารถในการจัดการความไม่แน่นอน ซึ่งล้วนแล้วต้องอาศัยประสบการณ์ใ
🎯 10 ทักษะสำคัญที่องค์กรมักสูญเสีย และ แทนที่ได้ยากที่สุด
1. กลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business strategy)
2. การวางแผนกลยุทธ์ (Strategic planning)
3. การบริหารทีมขาย (Sales management)
4. การวางแผนโปรเจกต์ (Project planning)
5. การจัดการงานปฏิบัติการ (Operations management)
6. กลยุทธ์การตลาด (Marketing strategy)
7. การบริหารจัดการ (Management)
8. การพัฒนาธุรกิจ (Business development)
9. การเจรจาต่อรอง (Negotiation)
10. ภาวะผู้นำในทีม (Team leadership)
🎯 ในวันนี้องค์กรต้องไม่ใช่แค่ "โปรโมตคน" แต่ต้อง “สร้างการเติบโต” ที่ต่อเนื่อง
“การพัฒนาอาชีพ คือสิ่งที่ช่วยให้พนักงานรู้สึกว่ากำลังก้าวหน้า ไม่ใช่แค่ตำแหน่งที่เปลี่ยน” คำพูดจาก Josh Bersin, นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม HR
การเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่ทางเดียวที่จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองก้าวหน้าในอาชีพ แต่หลายคีย์สำคัญที่จะสร้างการเติบโจได้จริงคือ
✅ มีการโค้ช & เทรนนิ่งผู้นำ
✅ องค์กรต้องจัดคนที่ใช่, ทักษะที่ตรงกับตำแหน่งที่เหมาะ ในเวลาที่ถูกต้อง
✅ ปรับการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละคน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
✅ AI เข้ามาช่วยให้การเรียนรู้เป็นแบบเฉพาะบุคคล และอัปเดตทักษะได้ทันความต้องการ
✅ องค์กรควรช่วยพนักงานค้นหาจุดแข็ง, วางเป้าหมาย, สร้างทักษะ และเชื่อมต่อโอกาสในองค์กร
✅ การเปลี่ยนบทบาทภายใน วางระบบสนับสนุนพนักงานให้เติบโตในระยะยาว
✅ การทำงานร่วมกับทีม HR และ Talent Management สำคัญมากในการขับเคลื่อนทักษะ
อีกส่วนที่สำคัญมาก ๆ คือ การวัดผลกระทบทางธุรกิจให้ชัด (Measure business impact) โดยวิธีวัดผลที่นิยมที่สุดคือ
🔸 72% - ดูจาก Engagement ของพนักงาน
🔸 64% - วัดจากการรักษาพนักงาน (Retention)
🔸 55% - ใช้เกณฑ์การพัฒนาทักษะใหม่
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่ามีคุณค่า, มีส่วนร่วม, อยากอยู่กับองค์กรต่อ และนี่ก็คือส่วนหนึ่งจากการสรุปภพารวมของ Workplace Learning Report 2025 หากใครสนใจอ่าน Report ฉบับเต็ม สามารถอ่านได้เลยที่ลิงก์ด้านล่างนี้
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่ามีคุณค่า, มีส่วนร่วม, อยากอยู่กับองค์กรต่อ และนี่ก็คือส่วนหนึ่งจากการสรุปภพารวมของ Workplace Learning Report 2025 หากใครสนใจอ่าน Report ฉบับเต็ม สามารถอ่านได้เลยที่ลิงก์ด้านล่างนี้
[ Workplace Learning Report 2025 ]
เรียนรู้เพิ่มเติม
learning.linkedin.com
2025 Workplace Learning Report | LinkedIn Learning
Uncover data, trends, and actionable advice to drive career growth, talent retention, and organizational adaptability in the 2025 Workplace Learning Report.
✍🏻 เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ
🎨 ภาพประกอบ: ชนสรณ เวชสิทธิ์
ที่มา:
• Workplace Learning Report 2025: The rise of career champions -
https://learning.linkedin.com/resources/workplace-learning-report?trk=organcsocial-4-22-25&linkId=100000360732257
• Workplace Learning Report 2025: The rise of career champions (PDF) -
https://learning.linkedin.com/content/dam/me/learning/en-us/images/lls-workplace-learning-report/2025/full-page/pdfs/LinkedIn-Workplace-Learning-Report-2025.pdf
1 บันทึก
1
2
1
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย