เมื่อวาน เวลา 08:39 • ข่าว

ข่าวทหารสุดสัปดาห์ วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคมพ.ศ.2568

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกับข่าวทหารสุดสัปดาห์เช่นเคย เมื่อสัปดาห์ผู้เขียนก็ต้องขออภัยที่ไม่ได้ลงข่าวเนื่องจากอยู่ในช่วงหาข้อมูลเพื่อเขียนบทความ วันนี้ผู้เขียนจะมีข่าวอะไรมานำเสนอกันบ้างไปติดตามกันครับ
เริ่มต้นด้วยข่าวแรกที่กองทัพบก ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมกองกำลังนเรศวร และหน่วยฝึกทหารใหม่ จ.ตาก เน้นย้ำมาตรฐานการฝึกอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2568 พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ
ยังคงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 อย่างต่อเนื่อง โดยมี พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ โดยในช่วงเช้าผู้บัญชาการทหารบกเดินทางไปยัง กองบัญชาการกองกำลังนเรศวร อ.เมืองตาก จ.ตาก เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานสำคัญของกองกำลังนเรศวร ตามพันธกิจ 5 ประการ ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก
จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกได้เดินทางไปยัง กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 14
ค่ายวชิรปราการเพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ที่มีการรายงานตัวเข้าหน่วยเมื่อวานนี้ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกมีการจัดการฝึกในรูปแบบจากเบาไปหาหนัก ใช้ตารางฝึกที่มีความอ่อนตัว
สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะแวดล้อม เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อนควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย รวมทั้งยังมีการฝึกศิลปะมวยไทยให้กับทหารใหม่อีกด้วย ทั้งนี้ในการตรวจเยี่ยม ผู้บัญชาการทหารบกได้พบปะให้กำลังใจทหารใหม่และเยี่ยมชมสภาพแวดล้อมในหน่วยฝึกพร้อมเน้นย้ำให้รักษามาตรฐานการฝึกตามที่กองทัพบกกำหนด โดยเฉพาะเรื่องการลงทัณฑ์ จะต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้เยี่ยมชม โครงการทหารพันธุ์ดีของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 14 ประกอบไปด้วยพื้นที่สวนสมุนไพรจตุผลา แปลงขยายพันธ์ุหญ้าแฝก แปลงปลูกหญ้าเลี้ยงม้า และคอกม้าค่ายวชิรปราการ และพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการปศุสัตว์ และการประมง
ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชน หน่วยงานราชการ นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่สนใจ เข้ามาศึกษาดูงาน ในส่วนของผลผลิตจากโครงการได้มีการนำไปประกอบอาหารให้กับทหารกองประจำการและแจกจ่ายให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนอีกด้วย
ภาพและข่าวโดยทีมโฆษกกองทัพบก,
ส่วนข่าวที่ 2 เป็นข่าวเกี่ยวกับการฝึกการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2568
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX)
ของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2568 โดยมี พลเรือตรี โยธิน ธนะมูล ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน ร่วมให้การต้อนรับ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง(CALFEX)นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล (FTX) ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2568 ซึ่ง เป็นการฝึกปฏิบัติการจริงของหน่วยกำลังรบประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและประสบการณ์ให้กับกำลังพล โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการและทดสอบความพร้อมทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดในการจัดการฝึกที่ว่า” รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น“
สำหรับการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง(CALFEX)จะทำการเข้าตี ยึดครอง รักษาที่หมายและสถาปนาเส้นแนวหัวหาดพร้อมทั้งสนับสนุนการเข้าตีด้วยการยิงอาวุธสนับสนุนของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน(นย.) และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) รวมถึงร้องขอการโจมตีเป้าหมาย High Value Targets จากกองทัพอากาศ ซึ่งได้จำลองสถานการณ์และพื้นที่การฝึกมาที่สนามฝึก กองทัพเรือหมายเลข 16
สำหรับอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกในส่วนของกองทัพเรือประกอบด้วย ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV จำนวน 6 คัน ยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก VN16 จำนวน 3 คัน ยานเกราะล้อยาง BTR -3E1 จำนวน 4 คัน ยานเกราะล้อยาง 8x8 ชนิดลำเลียงพล AWAV 7 คัน รถยนต์บรรทุกฮัมวี่ติดเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง Tow 2A - RF 4 คัน ปืนใหญ่สนามขนาด 155 มม.จาก นย. และ สอ.รฝ. หน่วยละ 2 กระบอก
พร้อมด้วยระบบตรวจการณ์ BOR - A560 ปืนใหญ่สนามขนาด 105 มม. 4 กระบอก ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 40/60 มม. 2 กระบอก อาวุธยิงสนับสนุนภายในอัตรากองพันทหารราบ ชุดแทรกซึมทางอากาศจากกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน อากาศยานไร้คนขับแบบ M SOLAR-X 1 ระบบ
โดยมีอากาศยานของกองทัพเรือที่ร่วมการฝึกประกอบด้วย เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลดอร์เนียร์สำหรับการส่งชุดแทรกซึมทางอากาศ เครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าแบบ T-337 สำหรับการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด (Close Air Support : CAS ) และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ EC-645 สำหรับการส่งกลับสายแพทย์
ทั้งนี้ กองทัพบกได้จัดรถหุ้มเกราะติดอาวุธแบบ M1126 Stryker ICV 4 คัน เข้าร่วมการฝึกสำหรับการดำเนินกลยุทธ์เข้าตีและยึดครองที่หมาย ในขณะที่กองทัพอากาศจัดเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง สำหรับการขัดขวางกำลังเพิ่มเติมของฝ่ายตรงข้าม โดยมีชุดควบคุมอากาศยานโจมตี (Combat Control Team) จากกรมปฏิบัติการพิเศษหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน แนะนำการติดต่ออากาศยานเข้าพื้นที่การปฏิบัติการ
ผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการฝึกในครั้งนี้ นอกจากกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ กองทัพบก และกองทัพอากาศจะได้ใช้ยุทธวิธีหลักนิยมในการรบร่วม และทดสอบแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือให้เป็นไปตามแผนป้องกันประเทศ
เพื่อให้เกิดความรู้ความชำนาญเพิ่มขึ้นจากการฝึกจริงแล้ว ยังทำให้กองทัพเรือได้รับทราบถึงขีดความสามารถและข้อจำกัดของกำลังพลในปัจจุบัน รวมทั้งการปฏิบัติการร่วมกันกับเหล่าทัพต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาขีดความสามารถสำหรับการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือ โดยเฉพาะในการป้องกันประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ภาพและข่าว กองทัพเรือ
ข่าวที่ 3 มีรายงานจาก พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.30 น. เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) สังกัด ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ปฏิบัติภารกิจฝึกบินในเส้นทาง ดอนเมือง - ตรัง - สมุย - ดอนเมือง ได้จอดที่สนามบินสมุย
ระหว่างดำเนินการติดเครื่องยนต์ตามขั้นตอนปกติภาคพื้นดิน นักบินตรวจพบข้อขัดข้อง ของระบบห้ามล้อและไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ ทำให้เครื่องบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ออกนอกพื้นที่จอด และเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างลานจอดจำนวน 1 ต้น แล้วหยุดที่บริเวณ พุ่มไม้หน้าลานจอด
นักบินได้ดำเนินการตามมาตรการฉุกเฉินโดยสั่งอพยพผู้โดยสารทั้งหมดผ่านทางด้านท้าย ของเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้ปฏิบัติงานบนเครื่อง 8 นาย และผู้โดยสาร 54 คน รวม 62 คน ทุกคนปลอดภัยและไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ความเสียหายเบื้องต้นที่ตรวจพบ ได้แก่ ส่วนชายหน้าปีกซ้ายเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า และด้านหน้าของเครื่องบินชนกับป้ายแสดงจุดจอด และพุ่มไม้บริเวณสนามบิน
กองทัพอากาศให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยในการบิน ความปลอดภัยของ บุคลากรและประชาชนโดยรอบ และขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ของประชาชนหรือโครงสร้างสนามบิน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานนิรภัยทหารอากาศ (สนภ.ทอ.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อค้นหาสาเหตุและป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต
ภาพและข่าว
Sompong Nondhasa
เรารักเครื่องบินไทย
กองทัพอากาศ
อนุรักษ์ สิงโตอ่อน
โฆษณา