ท่องแดนมังกร 2025 (03) ความงดงามของเทือกเขาหิมะมังกรหยก เมืองลี่เจียง
เช้าวันใหม่เราตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น จากสภาพอากาศที่ดีมาก .. จุดหมายของเราในวันนี้ คือ การขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามุ่งสู่ “เทือกเขาหิมะมังกรหยก”
ไกด์ของเราเตือนกึ่งแนะนำให้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีที่สุด กับเสื้อผ้ากันหนาวที่ต้องใส่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเต็มที่ เพราะการเดินทางเดินทางไปสัมผัสหิมะที่ “ภูเขาหิมะมังกรหยก” หรือ “อวี้หลงเซี่ยซาน” หรือ Jade Dragon Snow Mountain ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเก่าลี่เจียงนั้น การดูแลตัวเองรวมถึงการปกป้องร่างกายให้อบอุ่นเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดอย่างหนึ่ง
เราเดินทางออกจากที่พักราวหกโมงเช้า .. การรักษาเวลาอย่างเคร่งครัดเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยเหตุที่การขึ้นไปชมพื้นที่ในบริเวณด้านบนของเทือกเขาหิมะมังกรหยกนั้น จะต้องจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าหลายวัน หากเราพลาดช่วงเวลาที่จองไว้ อาจจะต้องไปเข้าคิวออนไลน์ใหม่ ซึ่งเราไม่สามารถทำได้ทันก่อนกลับเมืองไทย
รถแล่นมาตามถนนราว 40 นาทีเราก็มาถึงสถานีขึ้นกระเช้า .. ก่อนเข้าสถานี เราพบว่ามีรถบัสที่พานักท่องเที่ยวมามีหลายสิบคัน ซึ่งทำให้การเคลื่อนตัวของรถเป็นไปอย่างเชื่องช้า จนเราอดที่จะวิตกไม่ได้ว่าอาจจะพลาดช่วงเวลาที่จองกระเช้าไว้
แต่ระบบการบริหารของจีนดีจนต้องยกนิ้วให้ .. เมื่อรถติด เจ้าหน้าที่ที่ตรวจบัตร จะขึ้นมาให้บริการบนรถเลย ทำให้ลดเวลาการรอได้อย่างมาก และช่วยให้เราเข้าไปถึงสถานีทันเวลาพอดี .. เยี่ยมมากๆ
การขึ้นสู่ยอดเขานั้นเราต้องนั่งกระเช้าใหญ่ (Ropeway) ขึ้นไป .. กระเช้าค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ฝ่าลมหนาวขึ้นไปแบบช้าๆ ...
ตลอดเส้นทางที่กระเช้าขึ้นไป ก็จะได้เห็นทัศนียภาพมุมสูงอันงดงาม ได้เห็นหิมะ เห็นธารน้ำแข็งที่อยู่บนเทือกเขาสวยงามมากๆ
กระเช้ามาถึงยังจุดชมวิวบนยอดเขา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4,506 เมตร เราก็ออกจากกระเช้า
.. สิ่งแรกทู้สึกได้ทันที คือ ความหนาวที่พัดเข้ามามาปะทะร่างกาย
ด้านบนยอดเขานี้มีอากาศที่หนาวเย็นมาก มีอุณหภูมิต่ำเลขตัวเดียวหรือถึงกับติดลบ และมีภาวะอากาศและออกซิเจนเบาบางกว่าปกติ
.. ฉะนั้นเมื่ออยู่บนเขาหิมะแห่งนี้ เราต้องเคลื่อนไหวช้าๆ หลีกเลี่ยงการเดินเร็ว และไม่วิ่ง เพราะว่าออกซิเจนบนเขาสูงเบาบางมาก อาจจะมีผลทำให้เรารู้สึกมึนหัว ปวดหัว หายใจติดขัดได้ ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดได้กับทุกคน ที่เมื่อต้องขึ้นมาอยู่บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ
บางคนแนะนำว่า .. ให้จิบน้ำบ่อยๆ อมลูกอมหวานๆ กินช็อกโกแลตเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย หรือจะเตรียมออกซิเจนกระป๋องไว้คอยสูดดมเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายกันก็ได้
ความยิ่งใหญ่ของภูเขาหิมะมังกรหยกที่ตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่เบื้องหน้า ทำให้เราตลึงจนแทบจะลืมความหนาวไปชั่วขณะจิต
.. เพราะว่าความสวยงามของขุนเขาอันกว้างใหญ่ที่แสนจะอลังการ งดงามด้วยหิมะสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วทั้งขุนเขา เป็นภาพที่งดงามจับตาจับใจจริงๆ
“ภูเขาหิมะมังกรหยก” .. เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลี่เจียง ที่ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะสามารถมองเห็นเทือกเขาที่โด่งดังก้องโลกนี้ได้
ซึ่งประกอบไปด้วยยอดเขา 13 ยอด ตั้งตระหง่านสูงเด่นเห็นได้แต่ไกล ทอดตัวยาวคล้ายมังกรกำลังเลื้อย และบนยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี
.. เขาลูกนี้มองดูแล้วมีลักษณะคล้ายมังกรนอนอยู่บนก้อนเมฆ อันเป็นที่มาของเชื่อเทือกเขาแห่งนี้ ทำให้เราอยากจะเรียกว่า “เทือกเขามังกรนอนบนก้อนเมฆ”
สีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นดูราวกับหยกขาว ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้าอันสดใส ทำให้ดูเหมือนกับมังกรขาวบนฟากฟ้า จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ “ภูเขาหิมะมังกรหยก”
การเดินเที่ยวภูเขาหิมะนี้ จะมีเส้นทางเดินทำเป็นสะพานไม้ เลาะเลียบขึ้นไปบนภูเขา ให้เราค่อยๆ เดินไต่ระดับท้าความหนาว และความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ .. ซึ่งจะมีความสูงเป็นลำดับให้เดินขึ้นไป
.. ตั้งแต่ 4,506 เมตร .. 4,571 เมตร .. และ 4,680 เมตร อันจะเป็นจุดในระดับสุดท้ายที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวได้ แม้ว่าความจริงแล้วจุดสูงสุดของยอดเขามีความสูงถึง 5,596 เมตรจากระดับน้ำทะเล
บนยอดเขาหิมะแห่งนี้ เราสามารถเดินชมความสวยงามของภูเขาหิมะมังกรหยกได้ตามใจ ..
แต่ต้องเดินไปตามสะพานไม้ที่จัดทำไว้ให้ จะมีบางจุดที่สามารถลงไปเดินและสัมผัสหิมะขาวๆ กันได้อย่างใกล้ชิด
เรา ใช้เวลาเดินเที่ยวท้าความหนาว ได้สัมผัสหิมะจริงๆ ได้ยืนชมทัศนียภาพของขุนเขาอันยิ่งใหญ่ ได้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์และงดงาม
เพียงเท่านี้ .. ก็ทำให้ใจพองฟู และรู้สึกขอขอบคุณธรรมชาติที่ได้มอบสิ่งสวยงาม และสร้างความสุขให้กับเราทั้งกายและใจเป็นที่สุด
ภาพความงดงามทั้งหมดของ “ภูเขาหิมะมังกรหยก” แห่งเมืองลี่เจียงยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำที่ดีตลอดไป
แม้ในเวลาที่เราลงกระเช้ามาด้านล่าง และเราโบกมืออำลาความยิ่งใหญ่ของขุนเขา ในขณะที่รถเคลื่อนตัวช้ามุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางอื่นต่อไป
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
