เมื่อวาน เวลา 18:20 • ข่าว

วิเคราะห์ศึกชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงราย 'วันชัย vs ดร.แซน' เปิดจุดเด่น-คาดการณ์ผล

เชียงราย, 4 พฤษภาคม 2568 – เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก่อนที่ชาวนครเชียงรายจะได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้ โดยศึกชิงเก้าอี้ครั้งนี้ ถือเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดในรอบหลายปี ระหว่างสองผู้สมัครที่โดดเด่นด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การหาเสียงที่แตกต่างกัน ได้แก่ นายวันชัย จงสุทธานามณี ผู้สมัครหมายเลข 2 อดีตนายกเทศมนตรีที่คร่ำหวอดในวงการการเมืองท้องถิ่น และ ดร.ศราวุธ สุตะวงค์ หรือ ดร.แซน ผู้สมัครหมายเลข 1 ผู้ท้าชิงรุ่นใหม่ไฟแรงจากพรรคประชาชน
เปิดจุดเด่น 'วันชัย' ผู้สมัครหมายเลข 2 กับผลงานที่จับต้องได้
นายวันชัย จงสุทธานามณี มีจุดแข็งที่ชัดเจนจากผลงานในอดีตที่สร้างไว้ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงรายหลายสมัย โดยเฉพาะการสร้างโรงเรียนเทศบาล 6 และ 7, การพัฒนาสวนตุงและโคม บนพื้นที่เรือนจำเก่า, การก่อสร้างหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเชียงราย รวมถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสร้างความพึงพอใจในกลุ่มประชาชน
โดยเฉพาะผู้สูงอายุและวัยทำงาน
นายวันชัยยังคงใช้กลยุทธ์เดิมที่เคยประสบความสำเร็จ คือการเคาะประตูบ้านเพื่อเข้าถึงประชาชนแบบตัวต่อตัวตั้งแต่เริ่มเปิดรับสมัคร และยังเพิ่มการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ใกล้ชิดประชาชนได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและชุมชนในพื้นที่รอบนอกของเทศบาลนครเชียงราย
อย่างไรก็ตาม นายวันชัยยังมีจุดอ่อนจากการลดระดับการเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย โดยล่าสุดหายไปจากการอัปเดตข้อมูลมาแล้วถึง 2 วัน (ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2568) ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสในการรักษาฐานเสียงจากกลุ่มวัยทำงาน (21-37 ปี) ที่นิยมรับข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์
เจาะจุดเด่น 'ดร.แซน' ผู้สมัครหมายเลข 1 กับภาพลักษณ์ทันสมัย
ในขณะเดียวกัน ดร.ศราวุธ สุตะวงค์ หรือ ดร.แซน ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคประชาชน ได้ชูวิสัยทัศน์สำคัญในการเปลี่ยนเชียงรายจาก "เมืองที่ตายแล้ว" ให้กลับมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมกับนโยบายแก้ไขปัญหาการอพยพของประชากรวัยรุ่นและวัยทำงานที่มักจะย้ายไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่หรือกรุงเทพฯ วิสัยทัศน์นี้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในเขตเทศบาลนครเชียงราย (18,359 คน)
นอกจากนี้ ดร.แซน ยังได้รับแรงหนุนจากหัวหน้าพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และ ส.ส.ชื่อดังอีกหลายคน โดยเฉพาะ ส.ส.ปั๋น ชิตวัน และ ส.ส.หญิง จุฬาลักษณ์ ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
ในเรื่องกลยุทธ์การหาเสียง
ดร.แซน ผสมผสานการเคาะประตูบ้านแบบตัวต่อตัวเข้ากับการใช้โซเชียลมีเดียและเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ ล่าสุดที่ Center Point Night Bazaar เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา สามารถดึงดูดประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมรับฟัง ซึ่งช่วยเพิ่มแรงสนับสนุนในพื้นที่เขตเมืองได้เป็นอย่างดี
วิเคราะห์การแข่งขัน: "เข้าถึงประชาชน" คือปัจจัยชี้ขาด
การแข่งขันระหว่างนายวันชัยและดร.แซน จะตัดสินด้วยกลยุทธ์การเข้าถึงประชาชน โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้สูงอายุ (54-72 ปี) จำนวน 17,146 คน ที่นิยมการสื่อสารโดยตรงกับผู้สมัคร และกลุ่มวัยทำงาน (21-37 ปี) จำนวน 18,359 คน ที่รับข้อมูลข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย
นายวันชัยมีข้อได้เปรียบจากฐานเสียงที่แข็งแกร่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งยังคงชื่นชมในผลงานและการลงพื้นที่แบบใกล้ชิด ขณะที่ดร.แซน มีความได้เปรียบจากการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานผ่านการใช้สื่อสังคมออนไลน์และนโยบายทันสมัยที่โดนใจคนรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม การตัดสินผลการเลือกตั้งครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขยายฐานเสียงเพิ่มเติมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะนายวันชัยต้องกลับมาเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้คะแนนจากกลุ่มวัยทำงานหลุดมือไป ขณะที่ดร.แซนต้องเร่งขยายพื้นที่หาเสียงให้เข้าถึงผู้สูงอายุในพื้นที่รอบนอกมากขึ้น
สถิติที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงราย
ข้อมูลจากสำนักงานทะเบียนราษฎร์ (City Data Information, 2566) ระบุว่าเทศบาลนครเชียงรายมีประชากรทั้งหมด 77,760 คน แบ่งเป็นกลุ่มวัยทำงานอายุ 21-37 ปี มีจำนวนมากที่สุดถึง 18,359 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 23.6 ของประชากรทั้งหมด
ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ 54-72 ปี มีจำนวน 17,146 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของประชากร ทั้งนี้ จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 50,000 คน มีอัตราการมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสูงถึงร้อยละ 70.3 (ข้อมูลจาก กกต.เชียงราย)
จากสถิติข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์สูงเช่นกัน และกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งวัย 21-37 ปี จะเป็นปัจจัยชี้ขาดสำคัญในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงรายในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้อย่างแน่นอน
โฆษณา