Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
วันนี้ เวลา 05:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ประเทศไทยในโลกดิจิทัล 2025
(โอกาสครั้งใหญ่ หรือาณานิคมทางเทคโนโลยี?) 🌏📱💡
ในปี 2025 โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว จากรายงานล่าสุดของ Meltwater: Digital 2025 Insights ที่สำรวจพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทั่วโลก พบแนวโน้มใหม่ที่กำลังเขย่าภูมิทัศน์ทั้งทางเศรษฐกิจ การสื่อสาร และนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึง
“ประเทศไทย คือ หนึ่งในประเทศที่ผู้คนออนไลน์ต่อวันสูงติดอันดับโลก 📊🇹🇭🚀”
⸻
แนวโน้มของโลกดิจิทัลในปี 2025 ✨🌐📊
• จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกแตะ 5.44 พันล้านคน หรือ 67.8% ของประชากรโลก (เพิ่มขึ้น 1.8% ต่อปี) 🌍
• เวลาที่ผู้ใช้ออนไลน์เฉลี่ยต่อวัน 6 ชั่วโมง 40 นาที (ลดลงจากปี 2024) ⏳
• Gen Z และ Gen Alpha กำลังกำหนดรูปแบบการใช้โซเชียลในอนาคต เช่น เน้น short video, creator economy, และความเป็นส่วนตัว 👥
• วิดีโอสั้นกลายเป็นสื่อหลัก แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Reels และ Shorts มี engagement สูงสุด 🎥
• พฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกลายเป็น data economy — ผู้ใช้งานคือทรัพยากรในการขับเคลื่อน AI, Recommendation และการค้า 📈
⸻
Key Insight ของ Southeast Asia 🔍📱🌏
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็น “แดนทองคำในการหาเงิน” ของแพลตฟอร์มระดับโลก
• ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียต่อประชากรสูงที่สุดในโลก เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และไทย 🧑💻
• TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ในแง่การเติบโต มีอัตราการดูวิดีโอสูงสุดต่อวันในไทยและอินโดนีเซีย 📹
• ผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เปิดรับ “โฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์” มากกว่าการตลาดรูปแบบเดิม 📣
• โครงสร้างของการค้าแบบ cross-border ทำให้บริษัทต่างชาติแทรกซึม ecosystem ท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว 🚢
• ระบบภาษีดิจิทัลยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลายประเทศกำลังเจรจากับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ว่าจะเก็บอย่างไร 💸
ตัวอย่างจากอินโดนีเซีย - รัฐบาลเคยสั่ง “ระงับ TikTok Shop ชั่วคราว” เพื่อควบคุมการค้าปลีกต่างชาติ และคุ้มครองผู้ค้าท้องถิ่น — ถือเป็นมาตรการเชิงรุกที่ประเทศไทยสามารถเรียนรู้ได้ 📛
⸻
“ประเทศไทยอยู่ตรงไหนในสมรภูมินี้?” 🇹🇭📈💻
• ไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 65.4 ล้านคน จากประชากร 71.7 ล้านคน หรือ 91.2% ของประชากร 🎯
• TikTok มีอัตราการเข้าถึงสูงที่สุดในไทย (เป็นอันดับ 1 ของโลกเมื่อเทียบสัดส่วน) ขณะที่ Facebook และ YouTube ยังครองตลาดหลัก 📲
• คนไทยเฉลี่ยใช้เวลาออนไลน์รวม 8 ชั่วโมง 6 นาที/วัน โดยเฉพาะ โซเชียลมีเดีย ≈ 2 ชั่วโมง 50 นาที/วัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก ⏱️
• อีคอมเมิร์ซและคอนเทนต์เชิงไลฟ์ เช่น Live Commerce กลายเป็นพฤติกรรมใหม่ที่ผู้บริโภคไทยตอบรับอย่างรวดเร็ว 🛍️
• แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ล้วนเป็นของต่างชาติ: เรากำลังใช้ ใช้ และใช้…โดยไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย ❌
⸻
โอกาสของไทยในปี 2025 มีเหลือไหม? 🚀🇹🇭
• กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ดิจิทัล เช่น พอดแคสต์, VDO creator และ micro-influencer ยังมีโอกาสเติบโต หากมีระบบสนับสนุนด้านสิทธิในเนื้อหาและรายได้ 🎙️
• EdTech และ HealthTech ยังเป็นตลาด Blue Ocean โดยเฉพาะหากจับกลุ่มผู้สูงวัยหรือผู้มีรายได้กลาง-ล่าง 🧓🩺
• ธุรกิจ O2O (Online to Offline) เช่น 7-Eleven ที่มีจุดแข็งด้านสาขากว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ สามารถเป็นคู่แข่งที่แท้จริงกับแพลตฟอร์มต่างชาติได้ หากเสริมด้วยระบบ Logistics และ Digital Payment ที่ใช้งานง่าย 🔁
• Startup ไทยที่จับตลาด niche หรือใช้เทคโนโลยีแบบ Hyper-local ยังมีโอกาสโต โดยเฉพาะในเมืองรอง เช่น Khon Kaen, Chiang Rai, Surat Thani 🧭
⸻
ความเสี่ยงที่ไทยต้องเร่งรับมือ? 🛑⚠️📉
• พฤติกรรมดิจิทัลที่ถูกขับเคลื่อนโดยต่างชาติ อาจทำให้ไทย “สูญเสียอำนาจต่อรอง” ในการตั้งนโยบายภาษี, คอนเทนต์ หรือข้อมูลผู้ใช้ 🕳️
• สินค้านำเข้าผ่านแพลตฟอร์มต่างชาติเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลีกเลี่ยงภาษีหรือมาตรฐานที่ไทยควบคุมไม่ได้ ซึ่งกระทบผู้ผลิตไทยโดยตรง 📦
• โครงสร้างเศรษฐกิจแบบ “คนไทยซื้อ แต่ไม่ได้ผลิต” จะทำให้ประเทศติดกับดัก digital colony: มีแค่แรงงาน/ผู้บริโภค แต่ไม่มีเจ้าของแพลตฟอร์มหรือแบรนด์ 🤖
⸻
บทเรียนและ Action ของประเทศอื่นในการป้องกันการแข่งขันในประเทศ 🌍📚
• 🇮🇩 อินโดนีเซีย: สั่งระงับ TikTok Shop ชั่วคราวในปี 2023 หลังพบว่าการค้าปลีกผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวทำให้ผู้ค้ารายย่อยในประเทศได้รับผลกระทบหนัก รัฐบาลต้องการควบคุมไม่ให้แพลตฟอร์มจากต่างประเทศแทรกแซงกลไกตลาดจนเกินควร พร้อมออกกฎหมายแยกธุรกิจ Social Media กับ e-Commerce ออกจากกัน
• 🇸🇬 สิงคโปร์: จัดตั้ง “AI Sandbox” เพื่อให้สตาร์ทอัพทดลองเทคโนโลยีใหม่ โดยมีเงื่อนไขการควบคุมด้านจริยธรรมและความปลอดภัย พร้อมตั้งหน่วยงาน IMDA คอยกำกับดูแล Big Tech อย่างใกล้ชิด
• 🇰🇷 เกาหลีใต้: ออกกฎหมาย Digital Platform Regulation Act ที่บังคับให้แพลตฟอร์มต่างชาติต้องรายงานข้อมูลอย่างละเอียด และปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศ หากละเมิดจะมีโทษทางแพ่งและอาญา พร้อมทั้งสร้าง Platform พื้นฐานของรัฐเอง เช่น KISA, Naver Cloud
• 🇻🇳 เวียดนาม: จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐกับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มระดับชาติอย่าง Zalo และ VinShop โดยมุ่งเน้นการสร้าง ecosystem ที่แข่งขันกับต่างชาติได้อย่างยั่งยืน และมีนโยบายให้ผู้เล่นต่างชาติต้องเปิดสำนักงานในประเทศ
⸻
ทำอย่างไรให้ไทย “ยังมีตัวตนในอนาคตนี้?” 🧭🇹🇭
• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้แข็งแรง โดยเฉพาะ Cloud + AI + 5G สำหรับผู้ประกอบการท้องถิ่น 🧠
• ออกนโยบายสร้าง Startup ไทยให้มี platform หรือ product เป็นของตัวเอง ไม่ใช่แค่ขายสินค้าใน platform ของคนอื่น 🧰
• ตั้งหน่วยงานอิสระกำกับ Platform และ Data Privacy อย่างแท้จริง เพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยทางดิจิทัล 🛡️
• สร้างระบบภาษีที่เก็บรายได้จาก e-Commerce ต่างชาติอย่างยุติธรรม แล้วนำรายได้กลับมาสร้าง Ecosystem ดิจิทัลไทย 📊
• ส่งเสริมทุนภาครัฐและเอกชนเพื่อวิจัยและลงทุนใน Creator Economy และ AI ที่ตอบโจทย์ประเทศไทย 🎓
⸻
ดังนั้น อย่าให้ไทยกลายเป็นประเทศราชในยุคแพลตฟอร์ม 👑📱💸
ประเทศไทยอาจดูเหมือนกำลัง “พัฒนา” ในสายตาชาวโลก แต่ในแง่ digital sovereignty — เรายังเป็นเพียงผู้ใช้งาน ไม่ใช่ผู้กำหนดกติกา หากไม่เปลี่ยน mindset จาก “ใช้ให้ทัน” เป็น “เป็นเจ้าของและตั้งกติกาให้ได้” เราอาจเสียโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ไปอีกนาน
“เราเคยแพ้สงครามปืนใหญ่ในอดีต…อย่าแพ้สงคราม algorithm อีกครั้ง” 🚫
⸻
อ้างอิง - อ่านรายงานฉบับเต็ม -
https://www.meltwater.com/en/global-digital-trends
#วันละเรื่องสองเรื่อง
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย