Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supawan’s Colorful World
•
ติดตาม
4 พ.ค. เวลา 10:47 • ท่องเที่ยว
ท่องแดนมังกร 2025 (09) เมืองโบราณไป๋ซา ลี่เจียง
หากคุณต้องการสัมผัสชีวิตที่แท้จริงของชาวน่าซีและชื่นชมวัฒนธรรมของพวกเขา แต่เบื่อกับเมืองลี่เจียงและเมืองโบราณซู่เหอที่มีผู้คนมากมายแล้ว “หมู่บ้านไป๋ซา” คือสถานที่ที่คุณควรไปเยือน
เมืองเก่าไป๋ซาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1997 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเก่าลี่เจียง (丽江古城)
Baisha หมายถึง "หาดทรายสีขาว" .. เป็นหมู่บ้านที่เชิงเขาหิมะมังกรหยก ตั้งอยู่ในภาคเหนือของลี่เจียง ห่างออกไปราว 8 กม. แต่มีความเงียบสงบกว่าที่ลี่เจียง และเป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสชีวิตประจำวันอันสงบสุขของชาวน่าซีได้
เมืองนี้เป็นถิ่นฐานแห่งแรกของชาว Naxi (纳西族) หลังจากที่พวกเขาอพยพลงใต้จากที่ราบสูงทิเบต ..ประกอบด้วยหมู่บ้านเล็กๆ หลายแห่ง พื้นที่หลักซึ่งเป็นที่ตั้งของจัตุรัสตลาดเรียกว่าหมู่บ้านซานหยวน (三元村) แต่โดยทั่วไปมักเรียกสั้นๆ ว่าเมืองเก่าไป่ชา (白沙古镇)
ก่อนปี 1270 ... Baisha เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร Naxi บรรพบุรุษของชาว Naxi ข้ามแม่น้ำ Jinshajiang (หรือที่รู้จักกันในชื่อแม่น้ำ "ทรายสีทอง") ลงมาจากภูเขา Jade Dragon และในที่สุดก็เข้าสู่แอ่ง Lijiang และสถานที่แรกที่พวกเขามาถึงในลี่เจียงคือ Baisha
ที่นี่พวกเขาตั้งถิ่นฐานแห่งแรกและสร้างวัฒนธรรมของตนเอง เราสามารถพบสถาปัตยกรรม Naxi ที่เก่าแก่ที่สุดของลี่เจียงใน Baisha ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงต้นของราชวงศ์หมิง (1368 - 1644) ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน
หมู่บ้านไป๋ชาเคยเป็นชุมชนของชาวน่าซีและเป็นบ้านเกิดของผู้ปกครองท้องถิ่นในตระกูลมู่ เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเมืองลี่เจียงก่อนราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 - 1644) โดยเริ่มก่อสร้างในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 - 907) และเจริญรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960 - 1279) และราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271 - 1368)
ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ผู้ว่าราชการได้ย้ายครอบครัวของตนไปยังเมืองต้าหยาน (เมืองโบราณลี่เจียงในปัจจุบัน) แต่ยังคงสร้างวัดในหมู่บ้านไป๋ชา ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางศาสนาในช่วงต้นราชวงศ์หมิง .. พระราชวังต้าเป่าจี ลิ่วลี่ และเหวินชาที่มีอยู่เดิม รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังไป๋ชาอันโด่งดังก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว
ที่น่าสนใจคือ .. นาซีหมายถึง "คนผิวดำ" อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นคนผิวสีเนื่องจากอาศัยอยู่ในพื้นที่สูง และเมื่อกว่าพันปีก่อน ชาวนาซีได้สร้างภาษาเขียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยใช้ภาพสัญลักษณ์
ปัจจุบันเป็นภาษาเดียวในโลกที่ยังคงใช้อักษรเฮียโรกลิฟิก (ประกอบด้วยรูปภาพประมาณ 1,400 ภาพ) คุณจะเห็นอักษรของพวกเขาอยู่ทั่วเมืองลี่เจียง แต่มีคนเพียงไม่กี่คนที่อ่านออก
การเขียนแบบนี้กลายเป็นกลยุทธ์การตลาดมากกว่าความต้องการที่แท้จริงของผู้คนในการใช้อักษรเหล่านี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องดี และการอนุรักษ์มรดกนี้ไว้ถือเป็นความคิดที่ดีเสมอ
ข้อความที่มีชื่อเสียงที่สุดคือต้นฉบับตงปาเกี่ยวกับการสร้างสรรค์โลก .. “ตงปา” เป็นหมอผีของนาซี สำเนาโบราณของข้อความนี้สามารถพบได้ในลี่เจียงและมหาวิทยาลัยบางแห่งในอเมริกา และเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2003 องค์การยูเนสโกได้รับรองวรรณกรรมคลาสสิก Dongba ให้เป็นมรดกโลกในรูปแบบลายลักษณ์อักษร
วรรณกรรม Dongba มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรม Naxi เนื่องจากวรรณกรรม Dongba เป็นผู้คุ้มครองและเป็นตัวกลางระหว่างผู้คนกับโลกแห่งวิญญาณ ศาสนานี้มีต้นกำเนิดมาจากลัทธิของชาวทิเบตที่เรียกว่า Bon
สถานที่แรกที่เราเดินผ่านหลังการจอดรถคือ พระราชวังต้าเป่าจี (大宝积宫) วันนี้น่าเสียดายที่ไม่เปิดให้เข้าชม .. ตามช้อมูลบอกเอาไว้ว่า พระราชวังต้าเป่าจี แห่งนี้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่น่าประทับใจ (白沙壁画)
ภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้ง 55 ภาพ (รวมภาพที่ถูกเก็บไว้ที่วัด Liuli ในเมือง Baisha) ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกในสมัยราชวงศ์หมิง โดยใช้เวลาสร้างสรรค์ประมาณสามร้อยปี ตั้งแต่ต้นราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644 - 1911)
ถาะภายในพระราชวังจาก Internet
ภาพวาดเหล่านี้ได้รับการสร้างสรรค์โดยจิตรกรชาวฮั่น ทิเบต และนาซี รวมถึงจิตรกรจากชาติอื่นๆ .. เป็นงานศิลปะชิ้นเอกที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมที่หลากหลายในสมัยนั้น
.. ความพิเศษของภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้มาจากความจริงที่ว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธ เต๋า และลามะ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หายาก
ภาพภายในพระราชวัง จาก Internet
ภาพจิตรกรรมฝาผนังของ Baisha ทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับศาสนา โดยดึงดูดผู้คนด้วยลักษณะเฉพาะและความหมายทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า .. อย่างไรก็ตาม ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ถ่ายทอดฉากชีวิตของมนุษย์ในสมัยโบราณด้วยสีหน้าที่แสดงความสุข ความโกรธ ความเศร้า และความปิติ
น่าสนใจที่รู้ว่า ส่วนหนึ่งของอาคารในพระราชวัง สร้างเพื่ออุทิศให้กับโจเซฟ ร็อค นักสำรวจและนักพฤกษศาสตร์ชาวออสเตรีย-อเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ยูนนานหลายปีและตั้งรกรากอยู่ในหมู่บ้านหยูหู (玉湖村) ซึ่งอยู่ห่างจากไป่ชาไปทางเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร
เราเดินมาตามถนนสายหลักของหมู่บ้านมาเรื่อยๆ .. พบว่า ที่นี่เป็นเมืองโบราณที่เงียบและสงบกว่าที่เมืองโบราณลี่เจียงมาก แม้จะมีขนาดเล็กกว่าหลายเท่า ..
แต่บรรยากาศกลับทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปกับความเรียบง่าย ไม่ปรุงแต่งมากเหมือนเมืองโบราณบางแห่งที่ฮ๊อตฮิตติดตลาดการท่องเที่ยว
“เนื้อจามรีย่าง” มีอยู่หลายร้านมาก นับสิบแห่งภายในระยะทางแค่คนสั้นๆสายเดียว .. ดูเหมือนว่าจะเป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนจากต่างถิ่น และบอกว่ามาที่นี่ต้องลองสักครั้ง
.. การปรุงก็มีอยู่หลายแบบหลายรสให้เลือก จะเป็ยใส่หมาล่า ซ๊อสเฉพาะพิเศษ หรือรสอื่นๆ ก็เลือกได้
บ้านบ้านเรือนสไตล์จีนโบราณที่สวยงามแบบดั้งเดิม ที่เราเห็นทั้งหมดตามตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินกรวด ยังคงดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของยุคโบราณ ..
ยกเว้นบางส่วนที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้าสำหรับขายงานศิลปะและงานฝีมือให้กับผู้เยี่ยมชม
ใน Baisha อย่าพลาดการเยี่ยมชมสถาบันเย็บปักถักร้อยนาซี (白沙纳西传统手工刺绣院) โรงเรียนสอนปักไหมของตระกูล Mu สามารถเข้าชมได้ฟรี ..
มีโรงเรียนและร้านค้าที่ทันสมัยกว่าเปิดอยู่ด้านหน้า โดยมีหน้าร้าน จึงอาจตัดสินใจเลือกไม่ถูกระหว่างสองแห่งนี้ แต่คุณภาพของงานปักนั้นบ่งบอกได้ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ดึงดูดฉันในครั้งแรกที่เห็นคือ อาคารในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ และพื้นของลานบ้านที่สร้างสรรค์ออกมาเหมือนงานศิลปะดีๆ ด้วยการนำก้อนกรวดมาวางเป็นลวดลายแบบจีน สลับกับชิ้นส่วนโค้งของกระเบื้อง ผลงานที่ออกมาสวยงามจนอยากจะมีงานแบบนี้ที่บ้านบ้าง
อาคารไม้รอบๆลานหินสวยคลาสสิค .. ชิ้นส่วนประดับที่เป็นประตู หน้าต่าง ทำอย่างปราณีตงดงาม
สถาบันเย็บปักถักร้อยนาซี (白沙纳西传统手工刺绣院) ซึ่งอยู่ห่างจากจัตุรัสตลาดหลักไปทางเหนือเพียงไม่กี่ก้าว ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาประเพณีการเย็บปักถักร้อยในท้องถิ่น หลายชิ้นได้รับการบริจาคเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่เจ้าของซ่อนมันไว้จากการปฏิวัติวัฒนธรรม
พื้นที่ขายสินค้า
พื้นที่บางส่วนอุทิศเป็นพื้นที่การสอนให้ชาวบ้านมาฝึกปรืองานหัตถกรรม และงานปักประจำชาติและงานปักแบบดั้งเดิมของท้องถิ่น ซึ่งแตกต่างจากงานปักจีนทั่วไป เช่น งานปักซู่ .. ทำให้นึกถึงศูนย์ศิลปาชีพที่บ้านเราเลยค่ะ
นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเมือง Baisha ไม่ได้ต้องการความตื่นเต้นหวือหวาอะไรอยู่แล้ว .. แค่ได้ใช้เวลาเดินเล่น มีเวลาสักพักในร้านกาแฟดีๆ สักแห่ง หรือรับประทานอาหารในร้านอาหารดีๆ สักแห่ง ก็เยี่ยมแล้ว
การเดินเล่นรอบเมืองเก่าในตรอกซอกซอยน่ารักๆ ทำให้เราได้พบเจอกับร้านต่างๆ .. อย่างบ้านหลังนี้ได้รับการดัดแปลงให้เป็นร้านอาหาร และขายเครื่องดื่ม
การตกแต่งน่ารัก มีกลิ่นอายความเป็นจีนโบราณอยู่อบอวล .. มองไปด้านข้าง เห็นอีกร้านมีที่นั่งให้จิบกาแฟดีๆเคล้าวิวของภูเขาหิมะมังกรหยก เสียดายที่เราไม่มีเวลาพอ
ร้านขายดอกไม้ที่เจ้าของใจดีมาก .. เข้าไปถ่ายภาพได้ และมี Coffee Corner บริการลูกค้าด้วย
มุมพิเศษใต้ถุนบ้านเก่าแสนสวย เป็นพื้นที่สำหรับ Display เสื้อผ้าของร้าน รวมถึงเครื่องประกับ Hand Made ที่เป็น Original Design
บ้านเก่าที่สวยๆ ที่ได้รับการดัดแปลงเป็น Designers’ Showcase ของเสื้อผ้า .. คิดถึงบางพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย ที่มี Concept เดียวกันในการทำการตลาด
บ้านเก่าอีกหลังที่กลายมาเป็นสถานที่สอนการมัดย้อมผ้า รวมถึงเป็นสถานที่ขายผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าย้อม และเครื่องดินเผา .. เราสามารถเข้าไปในลานบ้านต่างๆ ได้อย่างอิสระเพื่อชมผลงานศิลปะมัดย้อมฝีมือมนุษย์ที่สวยงามซึ่งแขวนขายหรือตากแห้งในแสงแดด
บ้านนี้มีน้องหมาตัวโต น่ารักมาก .. เป็นพนักงานต้อนรับคอยดึงดูดลูกค้า
ร้านกาแฟใกล้ประตูเมือง .. น้องหมาที่นั่งอยู่ชั้นสองของร้าน ท่าทางจะเป็นเซแลปของที่นี่ มองเห็นผู้คนแวะเวียนไปถ่ายรูปกันหลายคน และแว่วว่าต้องจ่ายเงินค่าถ่ายรูปกับน้องด้วยค่ะ
ประตูเมืองสร้างด้วยไม้ .. มีภาพวาดเก่าแก่อยู่ด้านในด้วย
ฉันชอบภาพวาดด้านหลังประตู .. ภาพเสือน่ารัก และภาพอีกด้านก็สื่อสารอะไรบางอย่าง
ด้านนี้มีร้านค้าหลากหลาย .. เหมือนกับหลายเมืองโบราณที่เราเคยไปเยือน ต่างที่การปรุงแต่งยังน้อย ทำให้ยังคงมีบรรยากาศของเมืองเก่าที่เราอยากจะเห็น
คุณยายขายแมลงคั่วสุก .. แปลกใจที่เห็นแบบนี้
https://www.fabionodariphoto.com/en/day-trip-baisha-lijiang-yunnan/
https://www.yunnan-roads.com/travel/lijiang/baisha/
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย