4 พ.ค. เวลา 16:34 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สวัสดีครับ ที่ผมจะเขียนต่อจากนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับหุ้น Birkshire Hathaway ไม่มากสักเท่าไรนะครับ แต่ผมเชื่อว่า หลักการที่จะเขียนต่อไป น่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
(เพราะที่ผมจะเขียน ก็มาจากความรู้ที่ผมพยายามศึกษามาตลอดหลายปี ผสมกับประสบการณ์ในช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่า หลัก ๆ แล้ว นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก จนช่วยหล่อหลอมให้ผมมีไอเดียเหล่านี้ขึ้น ก็คือคุณปู่ Warren Buffett และคุณปู่ Charlie Munger ผู้ล่วงลับครับ)
เริ่มกันเลยนะครับ..
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ผมเพิ่งรู้ว่าคุณปู่ Buffett จะวางมือแล้ว
เพราะในช่วง 4 วันมานี้ ผมได้ไปเป็นธรรมบริกรมา แล้วเพิ่งออกมาครับ เลยยังไม่ได้ตามข่าวอะไรเท่าไรเลยครับ กะว่าจะยังไม่เข้า Social Media อีกสัก 1-2 วัน พอได้อยู่ห่าง ๆ มันสักระยะ รู้สึกใจไม่วอกแวกดีครับ
(ปีนี้ผมเป็นมา 2 รอบแล้วครับ)
ในช่วงที่พอจะมีเวลาว่าง หลังจากทำหน้าที่ธรรมบริกรและปฏิบัติธรรม ผมก็จะใช้ไปกับการคิดทบทวนเรื่องนู้นเรื่องนี้
หนึ่งในเรื่องที่ผมคิดทบทวน ก็คือ “หลักคิดลงทุนอย่างมีความสุขแบบง่าย ๆ ในแบบของผม”
พอคิดถึงเรื่องนี้ มันก็มีไอเดียต่าง ๆ พรั่งพรูออกมาครับ ผมเลยจดมันใส่กระดาษเก็บไว้ ตอนนี้ได้ 53 ข้อแล้วครับ อยากเอามาแชร์ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ครับ
หมายเหตุ: 53 ข้อต่อจากนี้ อาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด มันอาจจะไม่ได้เรียงต่อกันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
- อาจจะมีบางข้อดูซ้ำ ๆ กันไปบ้าง เพราะผมคิดอะไรได้ ก็เขียนเก็บเอาไว้เลย
-และอาจจะไม่ได้เหมาะกับคนทุกคนครับ แต่ผมคิดว่ามันเป็นแนวทางที่เหมาะกับผมครับ
โปรดอย่าเชื่อผมทั้งหมดนะครับ ลองใช้วิจารณญาณของตัวเองไตร่ตรองดู แล้วลองหาแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองดูครับ
1. การใช้พลังงานไปกับการคาดการณ์อนาคต ของตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ แล้วเอามาเป็นประเด็น เป็นเรื่องที่เสียเวลา
2. ตัด Noise ทั้งหมดออกไป
3. การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง มีหลักการที่เรียบง่าย แต่ทำจริงได้ไม่ง่ายเลย
4. ในเมื่อมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ก็ใช้หลักการป้องกันความเสี่ยง โดยนำแนวคิดแบบ Antifragile มาใช้ไปเลย อย่าทำอะไรเสี่ยงเกินไป อย่าทำอะไรที่ยากเกินความสามารถในการลงทุนของเรา
5. เน้นลงทุนแต่ในหุ้นของบริษัทเติบโตคุณภาพดี มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ที่สามารถเติบโตต่อไปได้ยาวนานในอีกหลายปีข้างหน้า โดยซื้อหุ้นตอนที่ราคามี Margin of Safety มากพอ
6. ถ้าหุ้นราคาแพงเกินไป ก็รอไปก่อน จะซื้อเมื่อตอน Valuation เข้าเกณฑ์เท่านั้น
7. ถ้ายังพอมีรายได้เข้ามาแล้วหุ้นเติบโตที่สนใจ Valuation ยังไม่ได้ ก็นำเงินไปซื้อหุ้นปันผลคุณภาพดีไปก่อน อย่างน้อยก็ยังเป็นวิธีที่ทำให้เงินทบต้นต่อไปได้
8. กลุ่มต่อมา ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ก็คือ หุ้นของบริษัทแข็งแกร่งคุณภาพดี มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ที่ยังพอจะเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว โดยสามารถจ่ายเงินปันผลได้ดี
9. เป้าหมายขั้นแรกของการลงทุนคือ “เพื่อการมีอิสรภาพทางการเงิน”
3
10. อย่าเอาสถานภาพอิสรภาพทางการเงิน ไปเสี่ยงอย่างไม่คุ้มค่า
4
11. การมีอิสรภาพทางการเงิน แบบสบายใจมาก ๆ ก็คือ มี Passive Income เช่น เงินปันผล เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิต
12. ออมเงินให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ กินอยู่อย่างประหยัด ใช้ชีวิตสมถะ
13. นำเงินออม มาลงทุนในบริษัทที่ผ่านเกณฑ์ สะสมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
14. นำเงินปันผลที่ได้ กลับมาลงทุนเพิ่ม อาจจะแบ่งมาใช้หาความสุขนิดหน่อยได้
15. กระจายความเสี่ยงเสมอ เช่น อาจจะถือหุ้นดีแต่ละตัวในสัดส่วนที่เท่ากัน ตัวที่ชอบ มั่นใจมากหน่อย ก็อาจจะให้สัก 15% ขึ้นไป แต่พยายามอย่าให้เกิน 20% ของพอร์ต
4
16. เหตุผลในการขายหุ้น มีอยู่หลายอย่าง เช่น
- ราคาแพงเกินมูลค่าไปมาก ก็อาจจะแบ่งขายออกมาหน่อย
- บริษัทไม่สามารถเติบโตต่อได้อีกแล้ว
- บริษัทเข้าสู่ช่วงที่ถดถอยแล้ว
- พื้นฐานไม่ดีอีกต่อไป และอนาคตก็ดูเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นตัวกลับมาได้
17. เพื่อให้รู้สึกอุ่นใจ ต้องมีเงินสดสำรองไว้เสมอ
18. แบ่งเงินที่ออมได้บางส่วน เก็บเป็นเงินสดสำรองไว้บ้าง
19. หากวันใดที่ตลาดหุ้นเกิดวิกฤติ ราคาลดลงมามาก ก็นำเงินสดเหล่านี้บางส่วน ไปกว้านซื้อหุ้นดี หนัก ๆ
20. แบ่งเงินมา DCA กองทุนอิงดัชนีค่าธรรมเนียมถูก ของประเทศที่น่าสนใจ สะสมไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน
21. อย่าเสียเวลาคาดการณ์ตลาด
22. ซื้อหุ้นบริษัทดี คุณภาพสูง เมื่อ Valuation เข้าเกณฑ์
23. ถือหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่คุณภาพของบริษัทยังคงดีอยู่
24. ไม่เปรียบเทียบ Performance การลงทุนกับใคร
25. ไม่คุยเรื่องการลงทุนกับใครเลย
26. เน้นลงทุนแบบระยะยาว ลงทุนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เงินเติบโตแบบทบต้นไปเรื่อย ๆ
27. ดูพอร์ต ดูราคาหุ้น แค่เดือนละครั้งพอ
28. ใช้ Investment Checklists ก่อนที่จะลงทุนเสมอ (ของผมมีอยู่ 30 ข้อ คิดขึ้นเอง ตรงนี้เป็นความลับครับ)
3
29. ไม่ต้องรีบรวย ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ เรียนรู้ สะสมทบต้นความรู้ไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ศึกษา ทำความเข้าใจธุรกิจทีละตัว ๆ ไปเรื่อย ๆ แค่ทำให้ตัวเองเก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทุกวัน ๆ ต่อจากนี้ ก็เพียงพอแล้ว
ถ้าเจอหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ Valuation ได้ก็ซื้อ
ถ้าไม่เจอ ก็เรียนรู้ต่อไป ถึงเจอก็ยังต้องเรียนรู้ต่อไป
ถ้าแพงไป ก็รอไปก่อน ยังไม่ต้องรีบซื้อ เราไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบริษัทที่เราชอบทุกบริษัทก็ได้
30. เสพย์ข่าว เสพย์ข้อมูล แต่พอดี เอาเฉพาะสิ่งที่สำคัญ
31. ฟัง OppDay วันละ 2 บริษัท
32. ฟังรายการธุรกิจดี ๆ วันละ 1 คลิป
1
33. อ่านบทความดี ๆ อย่างน้อยวันละ 3 บทความ เพราะบทความเหล่านี้ ย่อยเนื้อที่เป็นประโยชน์จากแหล่งความรู้ดี ๆ มาให้เป็นบทความเดียวแล้ว
34. ทำความรู้จักหุ้นใหม่ ๆ วันละ 3 บริษัท
35. อ่านหนังสือ อ่านรายงานประจำปี เรียนคอร์สดี ๆ สะสมความรู้ไปเรื่อย ๆ
36. ดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจของตัวเองให้ดี
37. ไม่เอาปัญหา ไม่เอาความวุ่นวายใด ๆ เข้ามาสู่ชีวิต
38. ลงทุนแล้วต้องนอนหลับสบาย
39. จะมีเงินเท่าไร จะทำผลตอบแทนได้เท่าไร มันก็เท่านั้น พยายามทำ Process ให้ถูกต้อง และปล่อยวางต่อผลลัพธ์ให้ได้
40. ใช้ชีวิตให้ดี มีความสุขได้ ไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก อยู่อย่างเรียบง่าย ทำในสิ่งที่จำเป็น ทำในสิ่งที่อยากทำ เลือกแต่สิ่งดี ๆ คนดี ๆ เข้ามาสู่ชีวิต
41. นักลงทุนแบบ Conservative มักจะหลับสบาย
42. อย่าไปคาดหวัง Alpha มาก เน้นลงทุนให้เงินเติบโตแบบทบต้น ในระดับที่สมเหตุสมผล ในระยะยาว ก็พอแล้ว
43. อย่าเป็นหนี้
1
44. อย่าปิดกั้นตัวเองในการเรียนรู้
45. คำนึงถึงเรื่องความเสี่ยงก่อนเสมอ
46. หมั่นสะสมบริษัทชั้นยอดไปเรื่อย ๆ ถ้ามันยังเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมอยู่ เวลาถือครองมันคือตลอดไป
1
47. เมื่อปิดความเสี่ยงได้แล้ว เวลาตัดสินใจลงทุน การลงทุนนั้นจะต้องให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ
48. บริษัทชั้นยอด คือบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน เป็นเครื่องจักรผลิตเงินสด และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอันมหาศาล ให้กับผู้ถือหุ้น
49. ดียิ่งไปกว่านั้น บริษัทต้องเติบโตได้ปีละ 10% ต่อปีขึ้นไป ในระยะยาวคืออีกหลายปีข้างหน้าด้วย
50. การลงทุนให้ดี ไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าคนอื่นก็ได้ แค่ทำให้ตัวเองเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ก็เพียงพอแล้ว
51. เสียดายดีกว่าเสียใจ
1
52. อย่าประมาท
1
53. ระวังเรื่องค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ
1
หมดแล้วครับ สำหรับ 53 ข้อที่ผมพอจะนึกได้ระหว่างที่ไปปฏิบัติธรรมครับ
หลักการเหล่านี้ อาจจะไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน อาจจะมีบางส่วนที่ผิดพลาด ไม่ถูกต้องไปบ้าง หรืออาจจะไม่เหมาะกับใครเลยก็ได้ นอกจากผมคนเดียวครับ 5555
แต่ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่ผมเชื่อว่า เป็นไอเดียดี ๆ ที่ผมนึกได้ระหว่างการฝึกชำระจิตใจตัวเองให้บริสุทธิ์ ที่ผมอยากลองนำมาแชร์ดูครับ
ถ้าผิดพลาดประการใด ผมขออภัยครับ
ศูนย์วิปัสสนาสักแห่ง
โฆษณา